โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แถลงปิดคดี ข่มขืน ‘แหม่ม’ เหตุเกิดที่เกาะเต่า ไร้มูล-ไม่พบอสุจิ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

เผยแพร่ 16 ต.ค. 2561 เวลา 21.45 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

“บิ๊กแป๊ะ” ควง “โจ๊ก” แถลงปิดคดีแหม่มอังกฤษอ้างถูกข่มขืนที่เกาะเต่าและตำรวจ ไม่รับแจ้งความ แจงยิบ 3 ประเด็น 1.ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันสถานที่เกิดเหตุได้ 2.ผู้เสียหายไม่สามารถให้ตำหนิรูปพรรณคนร้ายได้ และ 3.ไม่สามารถให้รายละเอียดแผนประทุษกรรมและพฤติกรรมของคนร้าย ที่สำคัญเสื้อยืดที่อ้างว่าเป็นหลักฐานสำคัญมีคราบอสุจิของคนร้าย พฐ.ตรวจแล้ว พบแต่ดีเอ็นเอของผู้หญิงและผู้ชาย 2 คน ไม่มีคราบอสุจิ สั่งยุติการสืบสวนสอบสวน

กรณี น.ส.อิซาเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ อายุ 19 ปี ชาวอังกฤษ ร้องเรียนสื่อในอังกฤษและออสเตรเลียว่า ถูกทรชนมอมยา ข่มขืน และลักทรัพย์เงินสด 3 พันบาท บัตรกดเงินสด 4 ใบ และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7พลัส ระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวที่หาดรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี แต่พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพงัน ไม่ยอมรับแจ้งคดีข่มขืน เพียงแต่ลงบันทึกประจำวันกรณีของหายไว้เท่านั้น และอ้างด้วยว่ามีหลักฐานสำคัญเป็นเสื้อเปื้อนคราบอสุจิของคนร้าย หลังข่าวแพร่ออกไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ถึงกับเต้น ตั้งชุดคณะพนักงานสอบสวนออกมาตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถึงขนาดขอส่งพนักงานสอบสวนไปขอสอบปากคำเหยื่อถึงประเทศอังกฤษ และนำหลักฐานที่อ้างว่ามีคราบอสุจิของคนร้ายกลับมาตรวจสอบตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าจากห้องแถลงข่าว ชั้น 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ต.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอ้างว่าถูกมอมยา ข่มขืน และลักทรัพย์ ร่วมกันแถลงข่าวหลังมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ สืบสวนติดตามคนร้าย พร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และการสืบสวนสอบสวนได้เสร็จสิ้นแล้ว

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กล่าวว่า ความคืบหน้าคดีแหม่มสาวชาวอังกฤษวัย 19 ปี ร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ถูกวางยาข่มขืนที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และตำรวจไม่รับแจ้งความ สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไทยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรายงานให้กงสุลอังกฤษประจำประเทศไทยว่า ไม่มีเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ตามที่แหม่มสาวกล่าวอ้าง ขณะเดียวกันส่งพนักงานสอบสวนไปสอบสวนผู้เสียหายถึงประเทศอังกฤษ พร้อมนำหลักฐานกลับมาตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ จากการไปสอบสวนผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษ ไม่มีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่นำเสื้อยืดคอกลมสีกรมท่าที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่าใส่ในวันเกิดเหตุเพื่อหาคราบอสุจิ แต่ไม่พบ มีแต่ดีเอ็นเอของคน 2 คนเป็นผู้หญิงและผู้ชาย สรุปว่า การสืบสวนสอบสวนไม่มีหลักฐานใหม่เพิ่มเติม ในชั้นนี้ถือว่ายุติการสืบสวนสอบสวนคดี

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้จัดชุดคณะพนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหายชาวอังกฤษที่กล่าวอ้างว่า ถูกวางยา ขโมยทรัพย์สิน และถูกข่มขืนในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จึงประสานสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเพื่อติดต่อครอบครัวผู้เสียหาย ขออนุญาตให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายที่ประเทศอังกฤษ จนครอบครัวผู้เสียหายอนุญาต ผู้บังคับบัญชาจึงแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนประกอบด้วย พนักงานสอบสวนหญิง ผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลประสานงานภูมิภาคยุโรป และล่ามแปลภาษารวม 3 คนเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อสอบปากคำผู้เสียหายในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับคดี เนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอยืนยันข้อเท็จจริงได้

รรท.ผบช.สตม.กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายตามประเด็นต่างๆ ผลปรากฏว่า 1.เรื่องสถานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนนำภาพถ่ายและแผนที่บริเวณที่เกิดเหตุ ตลอดจนภาพถ่ายบริเวณหาดทรายและบริเวณที่ใกล้เคียงให้ผู้เสียหายดู แต่ผู้เสียหายยังไม่สามารถยืนยันบริเวณที่เกิดเหตุได้ 2.เรื่องตำหนิรูปพรรณคนร้าย ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันข้อมูลและตำหนิรูปพรรณของคนร้ายได้ จึงไม่เพียงพอในการดำเนินคดี 3.ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันแผนประทุษกรรม หรือพฤติกรรมของคนร้ายในการกระทำความผิด การเดินทางไปครั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนรับมอบหลักฐานมา 1 ชิ้นจากผู้เสียหาย ให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) ตรวจพิสูจน์แล้ว ผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางพบว่า ข้อมูลไม่เพียงพอดำเนินการต่อไปได้ ชั้นนี้จึงขอยุติการสืบสวนสอบสวนไว้ก่อน

มีรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนของไทยที่เดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหายถึงประเทศอังกฤษครั้งนี้ รับมอบของกลางเสื้อยืดคอกลมที่ตามข่าวอ้างว่า มีคราบอสุจิของผู้ก่อเหตุข่มขืน เจ้าหน้าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางนำมาตรวจพิสูจน์พบว่า ไม่ใช่คราบอสุจิของผู้ชาย เป็นหลักฐานยืนยันว่าผู้เสียหายไม่ได้ถูกข่มขืนตามที่เป็นข่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0