เริ่มขยับ เริ่มขับเคลื่อนกันอย่างต่อเนื่อง กระบวนการแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพัน" เก้าอี้ สารวัตร(สว.) ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2562 ซึ่งตามกฎ ตามเกณฑ์ ตามระเบียบคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.
ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย.ของทุกปี
หลังจากสัปดาห์ก่อน พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.กพ.) ส่งหนังสือไปถึง ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ในสังกัด สง.ผบ.ตร. แจ้งเรื่องจัดเตรียมข้อมูลข้าราชการตำรวจ
ให้ดำเนินการจัดเตรียมข้อมูล 7 ข้อไปแล้วนั้น
สัปดาห์นี้กองบัญชาการ (บช.) ต่างๆ และกองบังคับการ (บก.) ต่างๆ ก็รับลูกหน่วยเหนือ จัดเตรียมข้อมูลข้าราชการตำรวจ เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาในการดำเนินการแต่งตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
โดยแต่ละ บก.ให้หัวหน้าหน่วยดำเนินการ 2 ข้อ
1.แจ้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.ขึ้นไปในสังกัดที่สมัครใจขอรับการแต่งตั้งเพื่อหาประสบการณ์หรือดำรงตำแหน่งตามภูมิลำเนา จัดส่งแบบบันทึกสมัครใจให้ บก.ภายในวันที่ 27 ก.ย.62
2.แจ้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง สว.ถึง ผกก.ที่มีคุณสมบัติครบเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ส่งสรุปผลการปฏิบัติงานดีเด่น มีความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4 เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาในการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ สว. ถึง รอง ผบก.วาระประจำปี 2562 โดยให้รวบรวมส่ง บก.ภายใน 27 ก.ย.62
ครับ…ชื่นใจๆ เห็นกระบวนการขั้นตอนแต่งตั้งที่เป็นไปตามระบบ เป็นไปตามระเบียบ เปิดรับข้อมูลและความประสงค์ของ "ผู้ใต้บังคับบัญชา" ที่ต้องการขอรับการแต่งตั้งโยกย้าย
ทั้งการขอรับการแต่งตั้งเพื่อหาประสบการณ์หรือดำรงตำแหน่งตามภูมิลำเนา และการพรีเซนต์ผลงานเพื่อประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง
แม้การเปิดโอกาสเช่นนี้จะเป็นช่องทางที่ดี แต่ "เหล่าสีกากี" ก็ยังกลัวจะซ้ำรอยเหมือนการแต่งตั้งหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่เปิดให้เขียนขอรับการแต่งตั้งและพรีเซนต์ผลงาน แต่พอแต่งตั้งจริงๆ หลายคนที่ไม่วิ่งเต้น ไม่มีเส้น ไม่มีสาย ก็ไม่ได้ดังหวัง ไม่ได้ตามที่ต้องการ สิ่งที่ให้ตำรวจดำเนินการ
เหมือนเป็นเพียงแค่ "นามธรรม"
เหมือนเป็นเพียงแค่ "พิธีกรรม"
เหมือนเป็นเพียงแค่ "ระเบียบ"
ที่ต้องปฏิบัติให้ครบตามขั้นตอนเท่านั้น
มิหนำซ้ำการเขียนสมัครใจขอรับการแต่งตั้งดังกล่าว กลับกลายเป็นการเปิดหน้าไพ่ กลับกลายเป็นการวิ่งขาลอย โดนหยิบออก หยิบย้ายไปตำแหน่งที่ตัวเองไม่ได้ร้องขอ จนระส่ำระสายไปทั่ว
ดังนั้นในการแต่งตั้งครั้งนี้ ที่ "อำนาจเก่า" ซึ่งเคยครอบงำ "กรมปทุมวัน" หมดลง เปิดทางให้ "ผบ.แป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีอิสระในการจัดทำบัญชีแต่งตั้งอย่างจริงๆ จังๆ มาตั้งแต่ระดับ "นายพล" แล้ว
ในการแต่งตั้งระดับ "นายพัน" หาก "ผบ.แป๊ะ" จะฟื้นศรัทธา สร้างกำลังใจให้ลูกน้องอย่างแท้จริง ก็ควรจะนำสิ่งดีๆ ตามระเบียบการแต่งตั้งที่เขียนเอาไว้ ทั้งการเปิดให้เขียนขอรับการแต่งตั้งและพรีเซนต์ผลงานมาพิจารณาอย่างจริงๆ จังๆ ไม่มองแค่เพียงพวกเส้นใหญ่ เส้นกวยจั๊บอย่างเดียว
ตำรวจอาชีพทั่วประเทศจะมีกำลังใจทำงานมากขึ้น.
