โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

'แชมป์'แนะคนสร้างคอนเทนต์ยุคดิจิทัลปรับตัว

เดลินิวส์

อัพเดต 24 ก.ย 2561 เวลา 01.27 น. • เผยแพร่ 24 ก.ย 2561 เวลา 01.27 น. • Dailynews
'แชมป์'แนะคนสร้างคอนเทนต์ยุคดิจิทัลปรับตัว
แชมป์ ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหาร The MATTER แนะคนสร้างคอนเทนต์ยุคดิจิทัลปรับตัว เจาะกลุ่มเป้าหมายให้เล็กลงเรื่อยๆ

ท่ามกลางความเจริญและการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไร้ขีดจำกัด ทำให้ในปัจจุบันมนุษย์แทบจะทุกชนชั้น ทุกเพศและทุกอาชีพแยกออกจากโซเชียลหรืออินเทอร์เน็ตแทบไม่ได้เลย ซึ่งความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็ทำให้ผู้สร้างคอนเท็นต์ทั้งหลายต่างตระหนักและพยายามหากลยุทธ์ต่างๆมาดึงดูดใจให้คนสนใจคอนเท็นต์ของตนมากขึ้นตามไปด้วย ล่าสุดได้มีการจัดงาน “Digital Thailand Big Bang 2018 Thailand Big Data" ขึ้นที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยงานนี้ได้รวบรวมผู้มีความรู้ในเรื่องของดิจิทัลเอาไว้มากมาย ทั้งนี้ นายทีปกร วุฒิพิทยามงคล หรือ แชมป์ ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหาร The MATTER หนึ่งในวิทยากรผู้ให้ความรู้ในงาน ก็ได้ให้ความรู้ในหัวข้อ "คอนเท็นต์ดิจิทัลในความเปลี่ยนแปลง"

โดยคุณแชมป์ เผยกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า "จริงๆปัจจุบันโซเชียลมีเดียมันมีอำนาจมากๆ มันทำให้คนทั่วๆไปสามารถที่จะมาผลิตคอนเทนต์ได้มากขึ้น ซึ่งคนทั่วไปนี้ก็มีทั้งในระดับบุคคลหรือคนที่รวมกลุ่มกันก็มาผลิตคอนเทนต์ได้และทำให้คอนเทนต์มีความหลากหลาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลยังไงสื่อใหญ่ยังคงมีอิทธิพลมากๆอยู่ แต่ผมรู้สึกว่าสื่อใหญ่เองก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มคนอ่านที่เขาได้รับสื่อหลากหลายรสชาติ หลากหลายประเภท และรวดเร็วมากขึ้น ในขณะที่สื่อเล็กหรือสื่อที่เป็นตัวบุคคลเอง ก็ต้องปรับตัวกับการที่เขาอยู่ในสถานะของความก้ำกึ่งระหว่างความเป็นส่วนตัวและสาธารณะเหมือนกัน ก็เรียกว่าต้องปรับตัวกันหมด ถามว่าสื่อออนไลน์ในยุคนี้เติบโตมากกว่าสื่ออื่นไหม ออนไลน์น่าจะมีการเข้าถึงมากกว่า แต่ถ้าพูดถึงเม็ดเงินโฆษณาพวกสื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือพิมพ์ก็อาจจะยังมากกว่าอยู่ สื่อออนไลน์ก็เป็นแค่เค้กชิ้นเล็กๆชิ้นหนึ่งที่มันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าสื่อออนไลน์เข้าถึงคนและคนน่าจะใช้สื่อออนไลน์มากกว่า แต่ผมมองว่ามันไม่ใช่แค่สื่อออนไลน์ใน Facebook หรือ twitter ผมก็มองว่ามันมีสื่อออนไลน์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่าสื่อออนไลน์ไพรเวทที่เราไม่เห็นด้วย เช่น การกระจายของข่าวในกรุ๊ปไลน์ต่างๆ พวกนี้มันมีมากกว่าที่เราเห็นเว็บนั่นนี่อีก ซึ่งเรามองภาพเราต้องมองให้ครบและปรับตัวเรียกว่าทั้งสื่อใหม่และสื่อเก่าเลย"

"จริงๆผมมองว่าในสมัยก่อน คนที่ทำสื่อจะพยายามอยากให้สื่อเราครอบคลุมทุกเรื่องและทุกอย่าง ความครบถ้วนคือสิ่งสำคัญ แต่ในปัจจุบันคนหนึ่งคนเขาไม่ได้กดไลค์ให้เพจๆเดียว เขาสามารถที่จะกดไลค์กี่เพจก็ได้ ดังนั้นมันก็ทำให้เราคิดได้ว่าความครบถ้วนในทุกๆเรื่องอาจจะไม่ใช่เราจำเป็น เราลองทำสื่อในทางของเรา อย่างเมื่อเร็วๆนี้มีคนถามผมว่า เขาอยากทำเพจเกี่ยวกับการรีวิวของกิน ตลาดอิ่มตัวหรือเปล่า ผมบอกเลยว่าไม่อิ่มตัว แต่คุณต้องหาทางของคุณให้เจอ เช่น เพจรีวิวของกินปกติมันอาจจะธรรมดามาก แต่ถ้าเป็นเพจรีวิวเฉพาะโดนัท ผมอาจจะกดไลค์ก็ได้นะ หรือเพจที่รีวิวของที่ต่ำกว่า 50 บาท คนอาจจะอยากรู้มากขึ้น ตอนนี้ผมมองว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะเติบโตไปในทางนี้มากขึ้น เรียกว่าเราต้องเจาะกลุ่มและเจาะกลุ่มเล็กลงเรื่อยๆ ส่วนเรื่องการใช้คำที่จะดึงดูดใจคนให้เขามาดูคอนเทนต์ ต้องบอกเลยว่าสื่อหลักก็มีใช้คำที่มันหลวมมากขึ้น อย่างสมัยก่อนเราอาจจะไม่ใช้คำว่า "แซ่บเว่อร์" แต่ตอนนี้ได้และผู้ใหญ่บางคนอาจจะบอกว่าดีทำได้เลย ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้าย มันเป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัวตาม แต่ในขณะเดียวกันเราต้องบาลานซ์กันกับความน่าเชื่อถือด้วย ก็เรียกว่าต้องดูตามความเหมาะสมด้วยครับ"

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0