โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

แชมป์แรกมาแล้ว! 'บุรีรัมย์' ดับโทษ 'ชลบุรี' คว้าแชมป์ "โค้ก คัพ 2019"

TNN ช่อง16

อัพเดต 27 ก.พ. 2563 เวลา 23.19 น. • เผยแพร่ 27 ก.พ. 2563 เวลา 23.19 น. • TNN Thailand
แชมป์แรกมาแล้ว! 'บุรีรัมย์' ดับโทษ 'ชลบุรี' คว้าแชมป์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยู 19 คว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชน โค้ก คัพ 2019 ไปครอง หลังเอาชนะ ชลบุรี ในการดวลจุดโทษ 5-3 อย่างหวุดหวิด ซึ่งเสมอกันมาใน 120 นาที 1-1

การแข่งขันฟุตบอล เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย “โค้ก คัพ 2019” ครั้งที่ 21 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ เอสซีจี สเตเดียม “ลูกเจี๊ยบสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 3 สมัย พบ “ฉลามชลจูเนียร์” ชลบุรี เอฟซี คู่นี้เป็นการรีแมตช์จากการแข่งขันครั้งที่ 16 เมื่อปี 2011 โดยปีดังกล่าวมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ทีมสโมสรเข้าแข่งขัน ซึ่ง ลูกเจี๊ยบสายฟ้า เอาชนะ ฉลามชล มาได้ 1-0

เกมการแข่งขันครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมใส่กันอย่างหนักหน่วง แต่จังหวะสุดท้ายที่จะได้ลุ้นทำประตูของทั้ง 2 ทีมยังไม่เกิดขึ้นแบบจังๆ ทำให้จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังเสมอกับ ชลบุรี เอฟซี 0-0

กลับมาสู้กันในครึ่งเวลาหลัง ทั้ง 2 ทีมก็ยังคงเปิดเกมสู้กันอย่างสนุก ต่างฝ่ายมีโอกาสที่จะได้ทำประตู แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ ทำให้จบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ครึ่งละ 15 นาที เพื่อหาแชมป์

ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งเวลาแรก นาทีที่ 102 ลูกเจี๊ยบสายฟ้า ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ใช้ความขยันไล่วิ่งกดดันบอล ทำให้ อนุพงษ์ กันยาลัง นายด่านฉลามชล ออกบอลพลาดมาเข้าทาง กฤตภาส วิชัยดิษฐ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนจะยิงสวนตูมเดียวหายเข้าประตูไป ซึ่งก็จบต่อเวลาครึ่งแรกที่สกอร์นี้

กลับมาสู้กันช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง นาทีที่ 114 ชลบุรี เอฟซี ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากการยิงจุดโทษของ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ทำให้สกอร์มาเท่ากันที่ 1-1 จากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ จบ 120 นาที ต้องหาแชมป์ด้วยการดวลลูกจุดโทษ

ปรากฏว่า ลูกเจี๊ยบสายฟ้า ที่เป็นฝ่ายยิงหลัง ทำได้ดีกว่า 4 คนยิงเข้าทั้ง 4 คน ส่วน ชลบุรี เอฟซี 4 คน ยิงเข้าเพียงแค่ 2 คน ทำให้จบเกม ลูกเจี๊ยบสายฟ้า เอาชนะ ฉลามชล ไปได้ 5-3 (1-1) ส่งผลให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ประเทศไทยไปครองเป็นครั้งที่ 4 รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท พร้อมสิทธิ์ได้ไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรลิเวอร์พูล

นอกจากนี้ นักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคว้ารางวัลต่างๆ ได้ดังนี้ รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมนัดชิงชนะเลิศ (MVP) : นพพล ละครพล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม : นพพล ละครพล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), ผู้เล่นแฟร์เพลย์ : กิตติชัย ใยดี (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) และโค้ชยอดเยี่ยม : Mr.Sean Luke Sainsbury (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : นพพล ละครพล (ผู้รักษาประตู) (C), ธนิศร ไพบูลย์กิจเจริญ, บดินทร์ สระแก้ว, ธนโชติ พุกตื้อ, กิตติชัย ใยดี, กฤษณะ ดาวกระจาย (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.58), นวพรรษ เทียนไชย (กฤตภาส วิชัยดิษฐ น.75), ธีรภักดิ์ เปรื่องนา, ธนดล ขาวสะอาด, อภิเดช จันทร์งาม (วินัย เอี่ยมโอด น.46), ภัทร สร้อยมาลัย

ชลบุรี เอฟซี : อนุพงษ์ กันยาลัง (ผู้รักษาประตู), พงศกร ตรีสาตร์, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจณ์, ณัฐพงษ์ ไชยดี, รชต หมอรักษา (C), นิติธร ศรีประมาณ (อนุรักษ์ สืบสุนทร น.104), พัทธดนย์ เที่ยงวงศ์ (กิตติศักดิ์ บุญมาก น.83), ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, เนติธร แก้วเจริญ (พิทักษ์ พิมแป้ น.66), ทรงชัย ทองฉ่ำ, สราวุฒิ เสาวรส (วรากร ทองใบ น.38) (เสฏฐวุฒิ สดาวงษ์ น.109)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0