วันที่ 24 ส.ค. 62 ความคืบหน้าจากกรณีที่นายพิศาลเข้าร้องเรียน ต่อมูลนิธิองค์กรอาสาอิสระศูนย์พญาอินทรีย์ว่าลูกชายคือนายเดช อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาปี 1 สถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ถูกกลุ่มรุ่นพี่ปี 3 ทำร้ายร่างกายจากการรับน้อง โดนนายพลสิงห์ แสนสุข ประธานมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า ตนเองได้ให้นายพิศาลผู้เป็นพ่อส่งรูปมาให้ตนเองดู ปรากฏว่ามีรอยฟกช้ำเต็มตัวจากการชกต่อย โดยทราบว่า กลุ่มรุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายจะใช้วิธีที่เรียกว่า “การซ่อม” โดยเมื่อเลิกเรียนแล้วจะพากลุ่มนักศึกษาที่สมัครใจเข้าสู่ระบบ เดินจากวิทยายลัไปยังบ้านเช่า เป็นบ้านแบบเซฟเฮาส์ บริเวณถนนสามเสน เมื่อเข้าไปรุ่นพี่จะยึดอุปกรณ์สื่อสาร และทำร้ายร่างกายลักษณะคือ ให้ยืนเรียงหน้ากระดาน 5-6 คน แล้วรุ่นพี่เข้ามาชกต่อย ทุบตี ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่มของทุกวัน
นายเดชโดนกระทำมาตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. จนถึงเดือนส.ค. เป็นเวลากว่า 2 เดือน โดยรุ่นพี่ตั้งกำหนดเวลาว่าต้องราวมกิจกรรมเข้าระบบนี้หนึ่งภาคการศึกษาด้วยกัน หลังจากนายพิศาลผู้เป็นพ่อของนายเดชทราบเรื่องก็ทนไม่ได้ ร้องไห้ และมาร้องเรียน ซึ่งตนมองว่าการกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการล้างสมองให้รุ่นน้องต้องเชื่อรุ่นพี่
ส่วนสภาพจิตใจของนายเดชขณะนี้ ยังรู้สึกห่อเหี่ยวและเป็นห่วงเพื่อนอีก 5 คนที่เหลืออยู่ในระบบที่อาจถูกทำร้ายรุนแรง และยังไม่พร้อมจะไปแจ้งความเนื่องจากหวาดกลัว โดยสิ่งที่นายเดชออกมาร้องเรียน จะได้รับการยกย่อง เพราะกล้าพูดความจริง ทำให้สังคมดีขึ้น
นายพลสิงห์กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ากังวล คือ ปัญหาเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมรับระบบในสาขาจากทั้งหมด 24 คน ขณะนี้เหลือเพียง 5 คนเท่านั้น มีนักศึกษาที่ลาออกไป 19 คน โดยนายเดชเป็นคนที่ 19 เนื่องจากถูกทำร้ายจนทนไม่ไหว หากผู้เสียหายอีก 18 คนกล้าออกมาบอกความจริง และร่วมเป็นผู้เสียหายจะทำให้เรื่องมีน้ำหนักมากขึ้น ขณะเดียวกันอธิการบดีหรือผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ออกมาสอบสวนถึงเรื่องนี้ ว่าทำไมนักศึกษาถึงหายไป ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าผู้บริหารสถานศึกษาบอกกับนายเดชว่า ช่วยไม่ได้ก็เข้ามาเรียนต้องรับระบบให้ได้นั้น นายพลสิงห์บอกว่า นายเดชเล่าให้ฟังว่าเป็นความจริง รวมทั้งเรื่องที่รุ่นพี่ขู่จะทำร้ายถึงขั้นเอา ชีวิตด้วย ทำให้นายเดชมีความกลัวและไม่กล้าไปเอาเสื้อผ้าที่หอพักที่ตนเองเคยอยู่ เนื่องจากเกรงว่ารุ่นพี่จะมาดักรอ
https://youtu.be/KWD5oJ3rnew