ค่อนข้างจะมีพฤติกรรมที่อันตรายจริงๆ สำหรับ ไฮโซ "น." เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับน้ำนมเด็กและคลีนิคเสริมความงามชื่อดัง
อันที่จริงการมีชื่อเสียงของเธอก่อนหน้านี้ที่จะเป็นที่รู้จักในวงกว้างนั้นก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เพราะตกเป็นข่าวมีเรื่องกับเค้าไปทั่ว กระทั่งมาได้นักร้องหนุ่มเป็นแฟนเธอจึงเพลาๆ ความซ่าหันมาเน้นสร้างภาพให้ตนเอง "ดูดี" แทน
ย้อนกลับไปตอนที่กำลังท้องอยู่ ไฮโซ "น." ได้ใช้บริการนวดนมจากหญิง "น." มือนวดนมคนดังที่บรรดาดารา-ไฮโซที่มีทายาทต่างก็ใช้บริการ แต่แทนที่จะจ่ายค่าบริการเหมือนกับคนอื่นๆ ไฮโซ "น." กลับมีวิธีการเบี้ยวที่เหนือชั้นยิ่งกว่า
โดยเธอได้ตีสนิทชักชวนให้อีกฝ่ายมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรเร่งนมลูกเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ที่มีความรอบรู้เรื่องในเรื่องนี้จริงๆ
ด้วยความเชื่อในภาพลักษณ์และชื่อเสียง ทำให้หญิง "น." ยกส่วนผสมสูตรยาสมุนไพรเพิ่มน้ำนมสำหรับมารดาหลังคลอดบุตรที่มีน้ำนมน้อยให้กับไฮโซ "น." ไป
วันเวลาผ่านไป นอกจากจะไม่ได้เงินตอบแทนใดๆ เพราะไฮโซ "น." ไม่ได้ใส่ชื่อของเธอเป็นหุ้นส่วนใดๆ แล้ว หญิงนวดนมคนดังยังมารู้ด้วยว่าไฮโซ "น." ยังละเลยคำเตือนของเธอเกี่ยวกับสมุนไพรเร่งน้ำนมเพียงเพราะความเห็นแก่ได้อีกต่างหาก
เรื่องนี้ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากสมุนไพรเพิ่มน้ำนมนั้นมีไว้เฉพาะสำหรับมารดาหลังคลอดห้ามให้ผู้ที่กำลังตั้งท้องกินเพราะสมุนไพรบางตัวอาจจะไปส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ ทว่าไฮโซ "น." กลับไม่สนใจ จัดการลบคำเตือนดังกล่าวบนฉลากออกไปโดยหวังจะได้ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง
…
นอกจากธุรกิจเกี่ยวกับน้ำนมแล้ว ไฮโซ "น." ยังเปิดคลีนิคศัลยกรรมความงามที่สร้างภาพเสียเวอร์วังว่ามีเซเลบ นักการเมือง คนบันเทิงคนดังแห่จองกันมาเป็นลูกค้า
หากแต่ในความเป็นจริงเกือบจะทุกคนล้วนถูกจ้างมาสร้างภาพเพื่อความน่าเชื่อถือด้วยตัวเลขหลักแสนโดยแทบจะไม่มีใครได้ใช้บริการจากคลีนิคเลย
หลังเปิดคลีนิคไฮโซ "น." ได้ชวนหญิงนวดนมมาใช้บริการด้วยโดยบอกว่าจะทำให้ฟรีๆ พร้อมให้เหตุผลว่าอีกฝ่ายจะได้ดูดี มีภาพลักษณ์สมกับเป็นหุ้นส่วนของตน
โดยก่อนทำไฮโซ "น." ได้ยืนยันกับอีกฝ่ายว่าตนจบหมอด้านผิวหนังมาจากฝรั่งเศส ก่อนป็นผู้ลงมือฉีดยาที่ใบหน้าให้กับหญิง "น." ด้วยตนเอง
หลังการฉีดยาปรากฏว่าได้เกิดตุ่มขึ้นบริเวณใบหน้าหญิง "น." ซึ่งเมื่อเธอได้สอบถามกับหมอก็ได้รับคำตอบว่าเป็นอาการธรรมดา ใช้การประคบร้อนเดี๋ยวก็หาย
2 สัปดาห์ต่อมาไฮโซ "น." ได้ทำการฉีดใบหน้าครั้งที่ 2 ให้กับหญิง "น." โดยระบุว่าคราวนี้เป็นการฉีดวิตามินเนื่องจากเธอหน้าและตัวอ้วนมาก
ผลที่ตามมาก็คือการเกิดอาการเป็นแผ่นๆ ตึงๆ แดงๆ แต่เนื่องจากเจ้าตัวไม่เคยฉีดอะไรตรงบริเวณผิวหน้ามาก่อนเลยคิดว่าอาจจะเป็นอาการปกติเหมือนกับโบท็อกซ์ที่เคยฉีดบนหน้าผาก จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ไฮโซ "น." ก็ได้แจ้งให้หญิง น. มาทำไครโอ มา(ใช้เครื่องวนหน้า) เพื่อที่ตุ่มบริเวณใบหน้าจะได้ยุบลง
อย่างไรก็ตาม นอกจากอาการที่ใบหน้าจะไม่หายแล้วเธอยังต้องพบกับข่าวร้ายเมื่อคลีนิคได้วินิจฉัยว่าเธอมีลักษณะที่เป็นโรค SLE (อาการภูมิแพ้ตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง) ก่อนจะมีการจ่ายยาให้เธอไปรับประทาน
ความกังวลทำให้หญิง "น." ตัดสินใจไปตรวจกับโรงพยาบาลผิวหนังโดยเฉพาะ ผลที่ออกมาก็คือเธอไม่ได้เป็น SLE ตามที่ไฮโซ "น." แจ้งแต่อย่างใด หากแต่เป็นอาการของการแพ้สารแปลกปลอมที่ฉีดเข้าไปบนใบหน้าต่างหาก
อาการป่วยดังกล่าวทำให้หญิง "น." หมดเงินค่ารักษาไปร่วมล้านกว่าบาท พร้อมเรียกร้องขอความรับผิดชอบไปยังไฮโซ "น." แต่กลับถูกอีกฝ่ายตอบโต้โดยใช้ความมีชื่อเสียงดิสเครดิตกลับ จนเธอต้องตัดสินใจยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับไฮโซ "น." ในท้ายที่สุด
เหมือนกำลังจะรู้ว่ามีเรื่อง ถึงตอนนี้ทางไฮโซ "น." เองจึงได้เริ่มไล่ลบไล่เก็บข้อมูลที่จะเป็นหลักฐานทำให้ตัวเองมีความผิดแล้ว
อันที่จริงเรื่องการสร้างภาพและวีรกรรมของไฮโซ "น." นั้นยังมีอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่เจ้าตัวพร้อมสามีพากันทำตัวสุดกร่างโทรไปข่มขู่พิธีกรคนดังที่ไม่ยอมให้เธอไปโปรโมตผลิตภัณฑ์ผ่านรายการทีวี แต่ตอนนี้มาติดตามกันก่อนกันว่าเรื่องนี้จะลงเอยกันเช่นไร?