โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แจ้งข้อหาแล้ว 1 ราย! ผู้ต้องขังรุมฆ่าหนุ่มเมาแล้วขับตายในคุก อธิบดีราชทัณฑ์กราบขอโทษแม่-ญาติเหยื่อ

Manager Online

อัพเดต 25 เม.ย. 2562 เวลา 16.33 น. • เผยแพร่ 25 เม.ย. 2562 เวลา 16.33 น. • MGR Online

ศรีสะเกษ- นำหมายจับแจ้งข้อหาแล้ว 1 ราย ผู้ต้องขังรุมฆ่าหนุ่มศรีสะเกษ เมาแล้วขับตายในคุก ผู้การตำรวจมั่นใจพยานหลักฐานแน่น ขณะผู้ต้องหายังปฏิเสธ อธิบดีกรมราชทัณฑ์กราบขอโทษแม่และญาติเหยื่อ ด้านแม่เผยพอใจระดับหนึ่งเชื่อมีคนร้ายหลายคน

วันนี้ ( 25 เม.ย.) ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายธงชัย เจริญพานิชย์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมาเพื่อตรวจสอบติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิดกรณีที่ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาเมาแล้วขับถูกกักขังแทนค่าปรับถูกรุมทำร้ายร่างกายทำให้เสียชีวิตในสถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว พร้อมสั่งย้ายผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษและหัวหน้าสถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ ไปปฏิบัติราชการประจำที่อื่น เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใสในการสอบสวนหาคนผิดที่ปล่อยปละละเลยทำให้ผู้ต้องกักขังเสียชีวิต

ต่อมา พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมายังเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งนำหมายจับของศาลจังหวัดศรีสะเกษ เลขที่ จ.93 /2562 ลงวันที่ 24 เมษายน 2562 มาแจ้งข้อกล่าวหากับ นายสามารถ มีคุณ อายุ 28 ปี ผู้ต้องขังคดี เสพยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า ร่วมอยู่ในเหตุการณ์รุมทำร้ายนายพรหมปัญญา จนทำให้เสียชีวิต โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย พร้อมทั้งอายัดตัว นายสามารถ ผู้ต้องหาไว้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานได้ยืนยันชัดเจนว่า นายสามารถผู้ต้องหารายนี้ ได้มีส่วนร่วมในการรุมทำร้าย นายพรหมปัญญา จนทำให้เสียชีวิต ซึ่งแม้ว่า ขณะนี้ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ตนมั่นใจในพยานหลักฐานและศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้อนุมัติให้ออกหมายจับได้ จึงมั่นใจว่า จะดำเนินคดีกับนายสามารถได้ตามพยานหลักฐาน และจะสอบสวนขยายผลเพื่อให้ได้ผู้ที่มีส่วนร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวภายหลังตรวจสอบความคืบหน้าของการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีผู้ต้องขังเสียชีวิตในสถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ความคืบหน้าในวันนี้ ขอชมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ที่ได้เข้ามาควบคุมคดีนี้ด้วยตัวเอง โดยการร่วมกันของทั้ง 2 หน่วยงาน คือ กรมราชทัณฑ์และตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ดำเนินการสอบสวนจนสามารถรู้ตัวผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นเพื่อนอยู่ในที่คุมขังเดียวกัน ซึ่งในวันนี้ นายธงชัย เจริญพานิชย์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้ความกรุณามาเป็นสักขีพยานด้วย ตนมาเปิดเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้พนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานตามสมควร ที่น่าเชื่อว่า ผู้ต้องขังที่อยู่ด้วยกันอย่างน้อย 1 คนในขณะนี้ เป็นผู้กระทำผิด ดังนั้น พนักงานสอบสวน จึงได้ส่งคำร้องไปยังศาลจังหวัดศรีสะเกษ ขอหมายจับเรียบร้อยแล้ว

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อว่า ขั้นตอนในวันนี้ เราได้ผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นผู้ต้องขัง เรารู้ตัวผู้กระทำผิดเป็นการภายใน จึงได้ย้ายตัวจากสถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งไม่ได้มั่นคงแข็งแรงแต่อย่างใด ให้มาอยู่ที่เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ และได้ให้พนักงานสอบสวนมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา

ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีผู้บัญชาการเรือนจำ จ.อุบลราชธานี เป็นประธาน ก็จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อจะได้สอบสวนขยายผลต่อไป คาดว่าจะมีผู้ต้องหาเกินกว่า 1 คน มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว 1 คน จึงได้แจ้งหมายจับ ทำให้คดีนี้คลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง

ตนในนามของกรมราชทัณฑ์ ต้องกราบขอโทษคุณแม่และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเป็นความผิดพลาดบกพร่องของกรมราชทัณฑ์ที่ดูแลบุตรหลานของท่านไม่ดีทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งจะได้เยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนค่าใช้จ่ายจำเลยในคดีอาญาต่อไป

ทางด้าน นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จากการที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในครั้งนี้ ตนมีความพอใจในระดับหนึ่ง เนื่องจากเชื่อมั่นว่า คนร้ายที่รุมทำร้ายร่างกายลูกชายของตนนั้น จะต้องมากกว่า 1 คนอย่างแน่นอน จึงขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งรัดจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมดโดยด่วนด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0