นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่กรมสรรพากรยกเลิกยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 15%สำหรับดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปีว่า กรมสรรพากรต้องการแก้ไขปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ที่มีเงินฝากสูงเกิน 4 ล้านบาท ที่จะมีรายได้จากดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี ซึ่งที่ผ่านมา มีบางสถาบันการเงินบางแห่งเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้ารายใหญ่หลบเลี่ยงภาษี ณ ที่จ่าย 15% ด้วยการปิดบัญชีเมื่อรายได้จากดอกเบี้ยใกล้ถึง 20,000 บาท ก่อนไปเปิดบัญชีใหม่ และกระจายแยกบัญชีออกจากกัน และเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวกระทบกับผู้มีบัญชีออมทรัพย์รายใหญ่มากกว่าประชาชนรายย่อย และกฏหมายที่ประกาศออกมาเป็นกฎหมายเก่าที่มีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร ระบุว่า ก่อนที่ประกาศที่ออกมาได้หารือกับสถาบันการเงินมากว่า 2 ปี และจากนี้ไปสถาบันการเงินจะต้องไปหาแนวทาง จัดส่งข้อมูลดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้ามาให้กรมสรรพากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้ปีละ 2 ครั้ง คือ เดือน พ.ค. และ เดือน พ.ย. เพื่อนำรายได้จากดอกเบี้ยดังกล่าวมาคำนวณภาษี และเสียภาษีในช่วงสิ้นปี
ทั้งนี้ระหว่างนี้ขอให้ประชาชนที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ยินยอมสถาบันการเงินที่มีเงินฝากอยู่ทุกแห่งให้จัดส่งข้อมูลทางบัญชีให้กรมสรรพากร เพราะหากไม่ดำเนินการ ผู้ฝากทุกรายจะมีภาระการเสียภาษี ณ ที่จ่าย จากรายได้จากดอกเบี้ย 15% ทันทีโดยอัตโนมัติ แม้รายได้ดังกล่าวไม่เกิน 20,000 บาท แต่สามารถขอคืนภาษีดังกล่าวในช่วงปลายปี