สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี เสียใจกรณีผู้ป่วยยาเสพติดหลบหนีออกจากโรงพยาบาลจมน้ำเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ออกแถลงกรณ์ ระบุว่า ตามที่มีข่าวผู้ป่วยยาเสพติดชายไทย จำนวน 2 คน ที่อยู่ระหว่างการบำบัดระยะฟื้นฟูสมรรถภาพ หลบหนีออกจากสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี และเสียชีวิตจำนวน 1 คน นั้น ทางสถาบันฯ รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมทั้งขอแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว
สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ สถาบันฯ รับผู้ป่วยที่เสียชีวิตซึ่งเป็นชายไทยอายุ 24 ปี ไว้ในการดูแลในระบบสมัครใจบำบัด ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2563 ซึ่งผู้ป่วยมาด้วยความสมัครใจโดยบิดาและมารดาของผู้ป่วย เป็นผู้นำผู้ป่วยเข้ารับการบำบัด และได้เข้าสู่การบำบัดในระยะบำบัดด้วยด้วยยา ให้การดูแลโดยทีมแพทย์ พยาบาล และสหสาขา จนผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น จึงย้ายผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดในระยะฟื้นฟูสมรรถภาพ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2563 รวมอยู่ในการดูจนถึงวันนี้เป็นจำนวน 48 วัน วันที่ 20 ก.พ.เวลาประมาณเที่ยง ผู้ป่วยและเพื่อนได้ชักชวนกันหลบหนีออกจากสถาบันฯ โดยการปีนรั้วกำแพงคอนกรีต วิ่งไปยังคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เจ้าหน้าที่ของสถาบันฯ โดยพยาบาล ผู้ช่วยเหลือคนไข้ พนักงานรักษาความปลอดภัยได้ช่วยกันติดตาม พบผู้ป่วยลอยคออยู่ในคลองรังสิตประยูรศักดิ์จำนวน 2 คน จึงได้เกลี้ยกล่อมให้ผู้ป่วยขึ้นมาเพื่อความปลอดภัย และแจ้งผู้ป่วยว่า หากผู้ป่วยไม่สมัครใจจะรับการบำบัดต่อ ทางสถาบันฯ จะติดต่อญาติมารับกลับโดยเร็วที่สุด ผู้ป่วย 1 คน เข้าใจและยินยอมขึ้นจากน้ำ เจ้าหน้าที่ได้พากลับเข้ามาที่สถาบันฯ และประสานญาติเพื่อรับตัวกลับไปดูแลต่อที่บ้าน ส่วนผู้ป่วยอีกคนหนึ่งได้ว่ายน้ำหนีไป เจ้าหน้าที่สถาบันฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และเทศบาลนครรังสิต เพื่อช่วยค้นหาผู้ป่วย เจ้าหน้าตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศบาล มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและชุดประดาน้ำ ได้ร่วมกันระดมค้นหาผู้ป่วย พบว่าผู้ป่วยได้จมน้ำเสียชีวิตแล้ว
สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และชี้แจงให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทราบว่าทางสถาบันฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานและขั้นตอนอย่างดีที่สุดแล้ว ทั้งนี้ ทางสถาบันฯจะดูแลด้านจิตใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลต่อไป
