โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แจงชัดรถหนุ่มหมดสติบนทางด่วน แปลงสภาพจนเป็นเหตุควันพิษเล็ดลอดเข้าห้องโดยสาร

Manager Online

อัพเดต 13 พ.ย. 2561 เวลา 14.41 น. • เผยแพร่ 13 พ.ย. 2561 เวลา 14.41 น. • MGR Online

ฉะเชิงเทรา- วิศวกรรมยานยนต์ขนส่งชี้ชัด.. รถหนุ่มวัย 31 ปีหมดสติบนทางด่วน แปลงสภาพด้วยการตีสเกิร์ดตกแต่งหุ้มท่อไอเสียทำให้ควันพิษจากปลายท่อเล็ดลอดผ่านช่องใต้ช่องเก็บของจนมีก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์จำนวนมาก

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทางด่วน ได้พบ นายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ์ อายุ 31 ปี พร้อมบุตรสาววัย 7 ปี และแฟนสาวจอดรถนอนหมดสติน้ำลายฟูมปากบนทางด่วนลอยฟ้าบูรพาวิถี กม.39+800 จนต้องเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าให้การช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นของแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ระบุว่าผู้ป่วยทั้ง 3 ราย มีปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ในกระแสเลือดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่วิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ช่วยตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ( 13 พ.ย.) นายทวี เมธีศุภภัค วิศวกรเครื่องกลชำนาญการพิเศษ สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก พร้อมคณะได้เข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2กก-7720 กทม.ซึ่ง นายธนัยนันท์ ได้ขับออกจากกรุงเทพฯในวันเกิดเหตุแล้ว

นายทวี เผยว่าจากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่าสาเหตุที่ทำให้คนขับรถและผู้โดยสารรวม 3 คน มีอาการมึนงง หมดสติอยู่ภายในรถขณะกำลังขับอยู่บนทางด่วนบูรพาวิถี เกิดจากการมีก๊าซคาบอนมอนอกไซด์เล็ดลอดเข้ามายัง ห้องโดยสาร จากการที่รถคันดังกล่าวถูกดัดแปลงสภาพด้วยการตีสเกิร์ตรอบคัน โดยเฉพาะบริเวณกันชนหลังที่ได้มีการดัดแปลงใหม่ทั้งหมด จนทำให้สเกิร์ตไฟเบอร์ปิดหุ้มปลายท่อไอเสีย ทำให้ไอเสียที่ถูกปล่อยจากรถไม่มีทางระบายจนต้องกลับเข้าไปหมุนเวียนอยู่ภายในห้องโดยสารและใต้ท้องรถ

และยังพบว่ามีไอเสียบางส่วนเล็ดลอดเข้าไปยังภายในตัวรถ บริเวณช่องเก็บของด้านหลังฝากระโปรงท้าย ซึ่งมีรูที่ถูกเจาะมาจากโรงงานและมีกระดุมพลาสติกอุดปิดไว้

“คาดว่าในขณะที่มีการดัดแปลงตัวรถเพื่อติดตั้งสเกิร์ตกันชนใหม่ ผู้ที่ทำการติดตั้งลืมปิดหรืออุดเม็ดกระดุมกลับไปไว้ในจุดเดิม จึงทำให้ไอเสียที่หมุนวนอยู่ใต้ท้องรถลอดผ่านเข้ามาทางช่องในห้องโดยสาร โดยเฉพาะบริเวณด้านข้างตัวรถ และฝากระโปรงหลังซึ่งเป็นตำแหน่งใกล้กับปลายปากท่อไอเสีย อีกทั้งตัวกันชนท้ายที่ทำจากไฟเบอร์เป็นสเกิร์ตคลุมปลายท่อไอเสีย ยังมีร่องรอยการถูกความร้อนจนแตกร้าวให้เห็นอีกด้วย”นายทวี กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในวันนี้ทีมงานวิศวกรรมยานยนต์ ยังได้นำเครื่องมือวัดค่าไฮโดรคาร์บอนและคาร์บอนมอนนอกไซด์ มาทำการตรวจวัดปริมาณคาร์บอนฯ ภายในห้องเครื่อง แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยสามารถตรวจวัดคาร์บอนมอนนอกไซด์ในเกณฑ์มาตรฐาน คือ 0.02 จากมาตรฐานไม่เกิน 0.5เปอร์เซ็นต์ และค่าไฮโดรคาร์บอนวัดได้ 69 จากมาตรฐานไม่เกิน 100 ppm

ด้าน ร.ต.อ.สุริยา ภูมิวัฒน์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่าหลังมีการตรวจสอบยืนยันถึงสาเหตุที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่วิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบกแล้ว ในเรื่องคดียังต้องรอผลจากการตรวจสอบเครื่องดื่มอีก 2 ชนิดที่พบในรถและที่ส่งตรวจว่ามีสารพิษหรือไม่ จึงจะยุติการสอบสวนเนื่องจากไม่มีคดีอาญาเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และไม่มีผู้เสียหาย รวมทั้งไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0