โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

แค่มีรอยดำจากสิว ก็ดูหมองเกินไปมาก! รวม 5 'วิธีแก้รอยดำจากสิว' จัดไป เอาให้หายเกลี้ยง!

SistaCafe

อัพเดต 21 มี.ค. 2562 เวลา 09.33 น. • เผยแพร่ 21 มี.ค. 2562 เวลา 09.33 น. • belfry

คนหน้าใสไม่รู้หรอก! ว่าการมีรอยดำจากสิวบนหน้า มันรู้สึกยังไง รู้มั้ยว่า เวลาที่มีรอยดำบนหน้า นอกจากจะขัดใจแล้ว หน้ายังดูหมอง แถมพอแต่งหน้าก็ยังดูไม่สวยอีก แง! แบบนี้ ใครจะไปแฮปปี้กันเล่า!!
วันนี้ เรามาเปิดวิธีแก้รอยดำจากสิวกันดีกว่า มาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะซิส รวม 5 วิธี แก้รอยดำจากสิว ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ วินาทีนี้ มันต้องรีบจัดการ เอาให้หายเกลี้ยง! จะมีวิธีดีๆ แบบไหนบ้าง อย่ารอช้ากันอีกเลยค่ะสาวๆ เราไปส่องวิธีแก้ทั้งหมดในวันนี้กันเลยดีกว่า

1. ใช้ยาลดรอยสิว

มาดูที่วิธีแรกๆ ที่เราจะชอบนึกถึงกันก่อนเลยเวลาที่เห็นหน้าตัวเองมีรอยสิวทีไร ตัวช่วยแรกที่มักจะเข้ามาในหัวคือ ยาลดรอยสิว ซึ่งสมัยนี้ ยาลดรอยก็มีให้เลือกเยอะมาก เรียกได้ว่ามหาศาลเลยแหละ แต่เวลาที่เราจะเลือกซื้อยาพวกนี้ ให้เราอ่านฉลากให้ดีๆ ก่อนนะ ว่าสภาพผิวอย่างเราใช้แล้วจะมีผลข้างเคียงมั้ย
ลองเลือกยาลดรอยที่มีส่วนผสมของวิตามิน ไม่มีสารระคายเคือง และอ่อนโยนต่อผิว นอกจากจะช่วยจัดการเรื่องรอยสิวแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้อีกด้วย ยังไงก็ลองไปหามาใช้กันดูแล้วเนอะเลือกแบบที่ตัวเองคิดว่าโอเค ใช้แล้วไม่แพ้ ผิวไม่ลอก ไม่แดง เพียงเท่านี้ ก็ตอบโจทย์แล้วล่ะค่ะ

แอบหยิบมาฝาก เป็นตัวเลือกสำหรับเพื่อนๆ ตัวแรกPuricas Dragon's Blood Scar Gel เป็นเจลลดรอยแผลเป็น รอยสิว รอยแดง รอยดำ ที่บล็อกเกอร์หลายๆ คนแนะนำ ตัวนี้ เขาจะช่วยฟื้นฟูผิว อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย ผิวกระจ่างใส รอยแผลดูจางลง ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง Dragon’s Blood ช่วยซ่อมแซมผิวอย่างล้ำลึก ทั้งนี้ ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย ทาแล้วไม่ทำให้ผิวระคายเคือง แต่กลิ่นอาจจะแรงนิดนึงเนอะ

ตัวที่สอง ที่หลายๆ คนนิยมใช้กันมากๆ Hiruscar Post Acneเป็นเจลใสซึมซาบเร็ว ใช้แต้มแผลเป็นจากสิว เช่น รอยสิวหลุม รอยดำ รอยอักเสบแดง และยังช่วยลดสาเหตุการเกิดสิวใหม่ด้วย ผสานกับสารสกัดจากธรรมชาติที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ช่วยดูแลแผลเป็นที่นุ่มให้ตื้นขึ้น แถมยังช่วยทำให้ผิวหน้าของเรา ดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย 

2. ตอนเป็นสิวอย่า "บีบ" ตอนเป็นแผลอย่า "แกะ"

อันนี้รู้มา เลยอยากเอามาแชร์ต่อซิสทั้งหลาย เขาบอกว่าเวลาที่เราเป็นสิวใหม่ๆ อย่าไปยุ่งกับมัน ให้ใช้ตาแต้มๆ เอา แล้วรอให้หายไปเองก็พอ เพราะถ้าเรายิ่งไปบีบ ไปกดมันมากเท่าไหร่ ผิวบริเวณสิวมันก็จะยิ่งช้ำ ทำให้เกิดรอยสิวที่เข้มขึ้น แล้วจะยิ่งรักษาให้หายช้ามากๆ เพราะงั้น ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวมันก็ยุบ แล้วหายไปเอง ส่วนใครที่เป็นรอยแล้ว ก็อย่าไปแกะ ยิ่งถ้าเราไปแกะ มันจะยิ่งอักเสบ และระคายเคือง อันนี้เจอมากับตัว แล้วรอยนั้น จะหายช้ามากๆ เราแค่แต้มยาลดรอยไปตามปกติ อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาหน่อย แต่มันดีต่อผิวมากกว่า 

3. สกินแคร์ที่ช่วยลดรอยดำ

การบำรุงผิวหน้า ก็สำคัญมากๆ เลยนะ อย่างเราเอง ก็มีรอยดำจากสิวเหมือนกัน ฉะนั้น เวลาที่เราจะเลือกสกินแคร์อะไรมาใช้ ตัวนั้นจะต้องดูแลในจุดๆ นี้ได้ด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องช่วยให้ผิวของเราดูกระจ่างใส ส่วนใหญ่สกินแคร์ที่เราเลือก จะต้องมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ให้ความชุ่มชื้น แต่ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม ที่สำคัญ ไม่อุดตัน ทั้งนี้ ยังต้องอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุจำเป็นต่างๆ ถึงจะช่วยให้รอยดำแลดูจางลงได้ไวขึ้น แถมยังช่วยปรับให้ผิวของเราดูกระจ่างใสเรียบเนียนอีก
เวลาที่สาวๆ จะเลือกสกินแคร์อะไรก็แล้วแต่ให้เลือกที่ตรงกับสภาพผิว ลองอ่านส่วนผสม และสรรพคุณให้ครบ จำไว้ว่า ถ้าเราบำรุงได้ตรงจุดมากเท่าไหร่ ปัญหาผิวต่างๆ ก็จะยิ่งบอกลาเราไวขึ้นเท่านั้น

4. สูตรมาส์กหน้าจากธรรมชาติ

มาที่สูตรคลีนๆ ธรรมชาติๆ กันบ้างดีกว่า เหมาะสำหรับสาวๆ ผิวแพ้ง่ายมากๆ แถมสบายกระเป๋าด้วยนะ ใครที่ไม่มีงบซื้อเจลลดรอยสิวราคาแพงๆ ลองหยิบวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดู รับรองว่า รอยดำจากสิวแลดูจางลง พร้อมเผยหน้าสวย ใส ได้อย่างแน่นอน หยิบมาฝากเพื่อนสาววันนี้ ทั้งหมด 4 สูตร จะมีสูตรไหนบ้าง เราไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

สูตรมะขามเปียก + น้ำผึ้ง : ใช้มะขามเปียก ผสมกับน้ำผึ้ง ผสมทั้งสองอย่างให้เข้ากัน แล้วนำมาทาบริเวณที่เรามีรอยดำจากสิว หรืออาจจะมาส์กหน้าไปเลยก็ได้ ตามสะดวกค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที เสร็จแล้วใช้มือเรานี่แหละ นวดวนๆ ไปที่ผิวสักแป๊บนึง แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ให้ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมกับกระตุ้นการผลัดผิวใหม่ ทำให้รอยดำค่อยๆ จาง เผยผิวใหม่ให้หน้าใสขึ้น

สูตรว่านหางจระเข้ : ให้เรานำว่านหางจระเข้มาล้างก่อน แล้วแช่ไว้สัก 10 - 15 นาที จากนั้นค่อยปอกเปลือก แล้วล้างอีกครั้ง นำวุ้นใสมาพอกหน้าทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออก หรือนำวุ้นใสของว่านหางจระเข้มาบดไม่ต้องให้ละเอียดมาก นำมาถูบริเวณที่มีรอยดำ 10 นาทีแล้วล้างออก ทั้ง 2 วิธีนี้ สามารถทำซ้ำได้ทุกวัน ในเนื้อว่านหางจระเข้ จะมีสารอะลอคตินเอ ( Aloctin A ) สารตัวนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่จึงทำให้รอยดำจากสิวค่อยๆ จางลงนั่นเองค่ะ

สูตรมาสก์หอมแดง : นำหอมแดงมาฝานออกเป็นแว่นๆ แล้วนำมาถูเบา ๆ บริเวณที่เป็นรอยดำ ย้ำว่าเบาๆ นะ เดี๋ยวผิวสวยๆ จะระคายเคืองหมด ทิ้งไว้สักประมาณ 20 นาที แล้วไปล้างออก สูตรนี้ ทำได้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง รับรองว่า พวกรอยดำจากสิว จะต้องจางหายออกไปจากชีวิตเราแน่นอนค่ะ

สูตรมาส์กมะนาว + น้ำผึ้ง : เป็นหนึ่งในสูตรที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพียงแค่นำน้ำผึ้ง มาผสมกับน้ำมะนาว ทาลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง สำหรับใครที่ผิวบาง ให้ทำแค่อาทิตย์ละครั้งก็พอนะ สูตรนี้จะช่วยรักษารอยดำจากสิวได้ โดยเฉพาะมะนาวที่ช่วยลดรอยดำจากสิว แถมยังช่วยเพิ่มความขาวให้กับผิวอีกด้วย ทีนี้ เราก็พร้อมเผยผิวสวย ได้อย่างมั่นใจแล้วค่ะ

5. พบหมอผิวหนังด่วน!

กรณีที่เรารู้สึกว่า ที่ทำอยู่เนี่ย มันเห็นผลช้า ประกอบกับมีงบประมาณมากพอ วิธีสุดท้ายนี้ ก็แอบเหมาะอยู่นะ ไปปรึกษาหมอได้เลยค่ะ นี่ก็เป็นคนนึงที่ไปหาคุณหมอ เพื่อปรึกษาเรื่องผิวพรรณเหมือนกัน เขาก็จะมีวิธีในการลดรอยดำจากสิวให้สาวๆ ได้เลือกนะ แต่ก็อาจจะเห็นผลช้านิดนึง งั้นลองทำเป็นเลเซอร์ลดรอยดำจากสิวดูมั้ย แม้ว่าราคาจะสูงไปสักหน่อย แต่วิธีนี้ ถ้าเราทำอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 3 - 4 ครั้ง ก็จะเห็นผลได้ไวขึ้นนะ และจุดด่างดำต่างๆ ก็จะจางลงเร็วกว่าการทายาหรือปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติค่ะ 

ทำตามได้มั้ยล่ะ แม้มันจะต้องใช้เวลานิดหน่อย กว่ารอยดำจะค่อยๆ หายไป แต่ถ้ามันโอเค และหายจริงๆ ก็ควรลองทำตามกันปะ ใครที่ไม่อยกามีรอยดำจากสิว แนะนำเลยว่า อย่าบีบ แกะ หรือกดสิว ทายาวนไป เดี๋ยวน้องสิวก็ยุบเองและ ยิ่งเราบีบ มันยิ่งอักเสบ แล้วก็จะเกิดรอยดำที่รักษายาก เดี๋ยวจะมาว้าวุ่นกันทีหลัง ไม่ดีๆ ยังไงก็ลองหยิบวิธีแก้เหล่านี้ ไปใช้กันดู ไม่แน่นะ อาจจะช่วยสาวๆ ได้ก็ได้
ขอตัวไปลองวิธีเหล่านี้ก่อนนะ บ๊ายบาย

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0