แข้งดังคนไทยที่ไม่เคยเตะเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฟุตบอลระดับสูงสุดไม่มีนักบอลอาชีพคนไหนไม่อยากลงเตะ  ยิ่งได้สัมผัสประสบสูง ยิ่งเพิ่มดีกรี เพิ่มคุณภาพ ในการต่อยอดยกระดับตัวเอง บอลระดับสโมสร ถ้าสูงสุด นอกจากการแข่งขันลีกภายในประเทศ ก็คือบอลถ้วยสโมสร อย่างในยุโรป คือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก , อเมริกาใต้ โคปา ลิเบอตาโดเรส, เอเชีย คือเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนชื่อรายการแข่งขันในปี 2002 มาจนถึงปัจจุบัน โทรฟี่แชมป์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปมากมาย หลากหลายฤดูกาล แต่ทีมจากไทยลีก ยังคงห่างไกลจากการเป็นแชมป์ถ้วยเอเชีย ทำได้แค่เข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น จะว่าไปแล้ว ก็มีนักบอลไทยชื่อดังมากมายที่ยังไม่เคยสัมผัสบอลถ้วยรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เลยทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นมีดีกรีทีมชาติก็ตามที แถมบางคนยังไปค้าแข้งล่าเงินในลีกต่างประเทศมาแล้วด้วยซ้ำ ส่วนจะมีใครบ้าง เนื้อหาข้างล่างพร้อมแล้วเชิญ เลื่อนเมาท์ไปอ่านเลยจ้า

1.ศรายุทธ ชัยคําดี

ศูนย์หน้าร่างเล็กจากขอนแก่น ผู้ที่มาเล่นบอลเยาวชนให้ทีมทหารอากาศ แต่ดันไปแจ้งเกิดเป็นศูนย์หน้าอาชีพกับการท่าเรือ โดยเล่นคู่หน้ากับเลิศชาย อิสราสุวิภากร หลังยิงประตูในไทยลีกได้ 10 ลูกในปี2002-03 เขาไปคัดตัวและถูกเลือกให้ติดทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2003 ที่ไปได้แชมป์ที่เวียดนาม ก่อนจะถูกดึงตัวไปเล่นที่บินห์ เดือง ที่ดินแดนสกุลเหงียน เขาถูกส่งชื่อเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีกในซีซั่น 2005 แต่โชคไม่ดีที่ ศรายุทธ ไม่ได้มีโอกาสลงสนามในรายการนี้  และเมื่อ โจ้ 5 หลา กลับมาเมืองไทย เขาพเนจรไปเล่นให้การท่าเรือ, โอสถสภา, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, บางกอกกล๊าส, ศรีสะเกษ, บีอีซี เทโรศาสน แต่สโมสรเหล่านี้ไม่ได้ไปสัมผัสฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชีย เขาทำได้ดีสุดคือการลงเล่นในถ้วยเอเอฟซี คัพ ปี 2010 กดประตูใส่ศรีวิจา ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

2.สุธี สุขสมกิจ

อดีตกองหน้ากรุงเทพคริสเตียน ที่ผันตัวเองมาเป็นปีกซ้ายทีมชาติไทยยาวนานร่วมๆ 10 ปี “เบิร์ท” หลังธนาคารกสิกรไทยยุบทีม เขาเลือกเมินข้อเสนอจากบีอีซี เทโรศาสน รับคำชวนจาก”โค้ชป้ำ” วรวรรณ ชิตะวณิช ในการไปเล่นบอลอาชีพที่สิงคโปร์ กับทันจง ปาการ์, โฮม ยูไนเต็ด, แทมปิเนส โรเวอร์ส แต่ 3 สโมสรจากสิงคโปร์ไม่ได้ไปร่วมวงแข่งขันบอลสโมสรเอเชียถ้วยใหญ่ ก่อนที่ สุธี จะกลับเมืองไทยมาค้าแข้งกับบีจี, สุพรรณบุรี แต่ทั้ง 2 สโมสรไม่ได้ร่วงวงไพบูลย์ถ้วยใหญ่เอเชีย

3.เจษฎา จิตสวัสดิ์

เซ็นเตอร์แบ็คมาดนิ่มเจ้าของแชมป์ไทยลีก 3 สมัย จากพนักงานยาสูบ และเมืองทอง ยูไนเต็ด เขารับใช้ทีมชาติหลากหลายทัวร์นาเมนต์ทั้งอาเซียนและเอเชีย น่าเสียดายที่เขาเลือกปัดโอกาสไปเล่นบอลอาชีพในต่างแดน นอกจากไม่ได้ไปโกยเงินในต่างประเทศแล้ว “กัปตันเจษ” ก็ไร้วาสนาในการไปเล่นบอลสโมสรเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เนื่องจากปี 2005 พนักงานยาสูบ ต้นสังกัดในเวลานั้นส่งชื่อเข้าร่วมการแข่งขันช้า จึงโดนเอเอฟซี สั่งตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน

ขณะที่ปี 2010 เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องไปลงเล่นรอบคัดเลือก ปรากฏว่าพวกเขาจอดป้ายในรอบเพลย์ออฟ ต่อสิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ โดยที่ต้องหล่นไปเล่นเอเอฟซี คัพ แต่กลับเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้แบบพลิกความคาดหมาย

4.นิเวส ศิริวงศ์

กองหลังเท้าหนักทีมชาติไทยจากนครพนมโด่งดังกับสโมสรสินธนา เขาเลือกมองข้ามไม่ย้ายไปเทโรในปี 2000 ก่อนจะบินไปโกยเงินดอลลาร์ที่สิงคโปร์กอมบัค ยูไนเต็ด และเซมบาวัง และไปรับเงินดองที่เวียดนามกับโฮจิมินส์ ซิตี้ และเทียน เกียง ก่อนจะกลับมาเมืองไทยเล่นให้บีอีซี เทโรศาสน และพัทยา ยูไนเต็ด

“น้าเป็ด” เป็นแข้งตัวหลักทีมชาติไทยตั้งแต่ยุคปีเตอร์ วิธ, คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่, ซิกกี้ เฮลด์, ชาญวิทย์ ผลชีวิน, ปีเตอร์ รีดส์, ไบรอัน ร็อบสัน, วินฟรีด เชเฟอร์ ที่ไม่ได้มีโอกาสสัมผัสบอลถ้วยใหญ่สโมสรเอเชีย อย่างเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะเขาทำได้แค่มีส่วนร่วมในรอบเพลย์ออฟกับชลบุรี เอฟซีในปี 2014 และ 2015

5.เกียรติประวุฒิ สายแวว

กองหลังอนาคตไกล ที่หอบหิ้วฝีเท้าจากอุบลราชธานี มาได้โควต้าเรียนที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ เล่นบอลในสไตล์ไม่ใช่พละกำลังอ่านทางบอลคู่ต่อสู้ จนโดนบีอีซี เทโรศาสน ชักชวนให้ไปฝึกซ้อมตั้งแต่ยังไม่อายุครบ 18 ปี และถูกเรียกติดทีมชาติในเวลาอันรวดเร็วอนาคตกำลังไปได้สวยกับชลบุรี ทว่าเขาโดนเรียกตัวไปทดสอบฝีเท้ากับแมนฯซิตี้ ได้รับสัญญา ในช่วงเวลาที่ทีมฉลามชลได้แชมป์ไทยลีก และไปเล่นบอลสโมสรเอเชียพอดี โชคไม่ดีที่การอยู่ในอังกฤษ เขา, สุรีย์ สุขะ และธีรศิลป์ แดงดา ไม่ได้รับใบอนุญาติทำงานในเมืองผู้ดี และต้องไปเล่นกับคลับ บรูชในเบลเยียม โชคไม่เข้าข้างอีกครั้งเขาปรับตัวไม่ได้คิดถึงบ้าน ก่อนจะซมซานกลับเมืองไทย โดยมีชลบุรี รอรับ

“คาร์” กำลังตั้งหน้าตั้งตาพิสูจน์ตัวเองเพื่อกลับไปติดทีมชาติอีกครั้ง แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เจ็บหัวเข่าเรื้อรัง ขณะที่ชลบุรี ก็ไม่ได้ใหญ่โตที่จะไปเล่นบอลถ้วยเอเชีย อีกต่อไปแล้ว จนโยกไปเล่นให้เชียงราย ยูไนเต็ด แต่เวลานั้นกว่างโซ้งมหาภัย ยังไม่ได้แข็งแรงพอจะขึ้นมาต่อกรมาลุ้นแชมป์ สุดท้ายเมื่อเขาไปโปลิศ เทโร ไร้โอกาสลงเล่นทำให้สุดท้ายเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดปิดฉากชีวิตลูกหนังไปแบบชอกช้ำ

6.ปรัชญ์ สมัครราษฎร์

กองหลังจากนครปฐม รูปร่างอาจไม่สูงใหญ่ แต่เก่งกาจในเรื่องการอ่านเกมรับ ตัดบอลชกบอลจากคู่แข่ง จนได้ไปเข้าเรียนที่สวนกุหลาบวิทยาลัย และติดทีมนักเรียนไทย18 ปี ก่อนจะได้ทุนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพในโควต้านักกีฬา และเมื่อปรัชญ์ มีชื่อติดทีมชาติ เขาจึงตัดสินใจย้ายซบบีอีซี เทโรศาสน ในยุคที่ทีมกำลังเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่พอดิบพอดี

อันที่จริงปรัชญ์ ย้ายมาเทโรผิดเวลาเพราะเข้ามาหลังจากที่มังกรไฟ ตกรอบเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 ไปแล้ว อดเล่นไม่พอ แถมทีมเก่าของเขา ม.กรุงเทพ ไปเตะเอซีแอล ในปี 2007 เรียกว่าอดเล่นแบบชอกช้ำ

เดอะปรัชญ์ ปลักหลักกับสโมสรยาวนานเกือบ 7 ปี ก่อนจะลาสโมสรไปเล่นให้สุพรรณบุรี เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด, นครปฐม ยูไนเต็ด

เอ็มเร่

Xwongthong@gmail.com