แข้งชื่อดังเมินบีอีซี เทโรศาสนยุครุ่งเรือง

นักฟุตบอลอาชีพนอกจากความคาดหวังในการลงเล่นในเวทีระดับสูง ทุกคนก็คาดหวังจะฉายแววเพื่อให้ได้ไปอยู่ทีมใหญ่ ซึ่งนั้นหมายความว่ามีสิทธิ์ต่อยอดในการเป็นนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ ได้ลงเล่นบอลระดับทวีปของสโมสร

แต่บางครั้งนักเตะบ้างคนเก่งทีมเล็กย้ายไปทีมใหญ่ไม่รุ่ง ในอดีตมีนักบอลมากมายเมินข้อเสนอจากทีมใหญ่ เพราะต้องการเป็นตัวหลักตัวจริง ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ในอดีตมีนักบอลมากมายเลือกปฏิเสธที่ไปร่วมทีมบีอีซี เทโรศาสน

ผู้เขียนสรุปแข้งดังที่ขอเลือกเซย์โนซบเทโร ส่วนจะมีใครบ้างนั้น ไปอ่านเนื้อหาด้านล่างได้เลย

1.สุเชาว์ นุชนุ่ม

กบน้อย ส.สกุลภัณฑ์  อดีตนักมวยและนักบอลเดินสายในกาญจนบุรี ที่ได้รับคำแนะนำจากปฏิภาณ เพชรพูล ให้มาทดสอบฝีเท้ากับองค์กรโทรสัพท์ ในทีแรกเขาไม่ผ่านการคัดตัว แต่ถูกสมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร รั้งตัวไม่ให้กลับบ้าน ก่อนที่”โค้ชก็อก” พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ จะใส่ชื่อเป็นนักเตะเยาวชนและให้ขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ เขาใช้เวลา 3 ปีขยับตัวเองขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีโอที ลงเล่นทั้งบอลโปรลีกและดิวิชั่น 1 และผ่านการคัดตัวติดทีมชาติ แน่นอนละว่าช่วงปี 2006 เขาได้รับการทาบทามให้มาอยู่บีอีซี เทโรศาสน แต่ว่าเขาตัดสินใจขออยู่กับทีโอทีต่อไป

ช่วงปี 2008 หลังจบเกมไทยลีกระหว่างเทโรกับทีโอที  ที่สนามหนองจอก “โค้ชก็อก” เดินมาบอกกับสุเชาว์ ว่าคุณไบรอันอยากได้เองไปร่วมทีม แต่เจ้าตัวตัดสินใจปฏิเสธที่จะย้ายและเลือกขอออยู่กับสโมสรต่อไปเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณสโมสรที่ให้โอกาสเขาได้ลงเล่นฟุตบอลจนเติบโตติดทีมชาติ

2.วรวุฒิ วังสวัสดิ์

นี่คือนักบอลที่ครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งของโรงเรียนเทพศิรินทร์ เขาเปี่ยมไปด้วยเทคนิคการยิงประตู ผ่านบอล การเคลื่อนที่ อาจเรียกได้ว่าเป็นแข้งพรสวรรค์ของวงการ แม้จะเกเรไปบ้าง แต่พูดถึงฝีเท้าเขาไม่เป็นรองใครแน่นอน จนมีชื่อติดทีมชาติไทย ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ก่อนจะเข้าสู่สโมสรโอสถสภา อันที่จริงเทโร สนใจเขามานาน เพียงแต่การแข่งขันที่สูงภายในทีม ดาวรุ่งไปคงได้แค่นั่งสำรองดูรุ่นพี่แน่ๆ มันเลยทำให้เขาไม่เลือกที่จะไป ประกอบกับเป็นคนที่ชอบอิสระ การปักหลักอยู่กับทีมพลังเอ็มคือทางเลือกที่ดีกว่า

3.โชคทวี พรหมรัตน์

อดีตกองหลังสโมสรกสิกรไทย ผู้ที่แจ้งเกิดจากการลงเล่นบอลนัดพิเศษของทีมจังหวัดพังงา ระหว่างที่ทีมชาติไทยชุดดรีมทีมไปทัวร์ ก่อนจะถูกเรียกมาซ้อมติดทีมชาติในเวลาต่อมา และถูกชักชวนเข้าสู่สโมสรธนาคารกสิกรไทย เขามีโอกาสลงเล่นไม่มาก จนกระทั่งช่วงปลายก่อนแบงก์ร่วงข้าวยุบทีมขยับขึ้นมาเป็นตัวหลัก

อันที่จริงเขาเคยโดนองอาจ ก่อสินค้า ชักชวนให้มาอยู่เทโร หลังจบไทยลีกปี 2000 แต่ด้วยความที่เขาต้องการเงินในการเล่นบอลที่สูงกว่าในเมืองไทย จึงตัดสินใจไปสิงคโปร์ ค้าแข้งกับสโมสรกอมบัค ยูไนเต็ด ตามด้วยเวียดนาม กับฮองอัน ยาลาย และมาเลเซีย กับยะโฮร์ โดยที่ชีวิตการเป็นนักบอลอาชีพไม่เคยเฉียดใกล้กับการเป็นแข้งเทโรอีกเลย

กระทั่งโดนทาบทามมาทำงานเป็นสต๊าฟฟ์โค้ชมังกรไฟปี 2013 และได้คุมทีมช่วงสั้นๆ ตามด้วยการดูแลทีมเยาวชนของสโมสร

4.สุธี สุขสมกิจ

แข้งรุ่นน้องโชคทวี ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนและสโมสรธนาคารกสิกรไทย ไอ้หนุ่มจากตราดผู้โด่งดังมาจากบอลเยาวชน 16 ปีชิงแชมป์เอเชีย ที่เชียงใหม่ จนได้ไปชิงแชมป์โลก 17 ปีที่อียิปต์ ในช่วงที่กสิกรยุบทีมเขาก็ได้รับการทาบทามจากเทโรเหมือนโชคทวี แต่ในเวลานั้น เรื่องปากท้องก็สำคัญเงินมหาศาลที่สิงคโปร์เยอะมาก ไม่สามารถปฏิเสธได้ “เบิร์ท” จึงไปเล่นบอลที่เมอร์ไลออนส์ ตามคำแนะนำของวรวรรณ ชิตะวณิช และเป็นแข้งไทยเพียงไม่กี่คนที่ค้าแข้งยาวนานเกือบ 9 ปี

5.ณัฐพงษ์ สมณะ

ในช่วงที่ดุสิต เฉลิมแสน อำลาทีมเทโร, อนุชา กิจพงษ์ศรี เจ็บ, ธนากร ขำโฆมะ ถูกผลักดันขึ้นมาเล่นให้เทโร อันที่จริงมังกรไฟ สนใจแบ็กซ้ายหนุ่มละอ่อนจากเชียงใหม่ นามว่า ณัฐพงษ์ สมณะ เขาแจ้งเกิดกับฟุตบอลนักเรียนกรมพละ 16 ปี และ 18 ปีกับอัสสัมชัญ ศรีราชา แต่ในเวลานั้นเขาตัดสินใจไม่ไปเทโร เพราะคงไม่ได้เล่นแน่ๆ และเลือกกลับบ้านไปทำงานที่เชียงใหม่ ก่อนจะถูกทาบทามให้มาเป็นนักเตะกับธนาคารกรุงไทยในการลงแข่งไทยลีกครั้งที่ 9 “แม้ว” ได้กลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ชลบุรี และติดทีมชาติครองตำแหน่งแบ็กซ้าย ก่อนที่ธีราทร บุญมาทัน จะมารับช่วงต่อในเวลาต่อมา

6.ธีรศิลป์ แดงดา

กองหน้าที่โดนคำครหาว่าเป็นเด็กเส้นโทษฐานที่ถูกเรียกติดทีมชาติไทย ตั้งแต่อายุ 18 ปี ยังไม่จบมัธยมปลายที่อัสสัมชัญธนบุรี แต่ใครจะไปเชื่อว่าหัวหอกลูกข้าราชการกองทัพอากาศที่บุคลิกจะนิ่งๆ กลับมีความแข็งแรงทั้งทักษะการครองบอลรูปร่างที่สูงใหญ่ ตอนอายุ 17 ปี หลังกลับมาจากชิงแชมป์เอเชีย 2004 ที่ญี่ปุ่น “มุ้ย” ธีรศิลป์ ได้รับการทาบทามให้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะบีอีซี เทโรศาสน พร้อมๆกับเพื่อนอย่าง จักรพันธ์ แก้วพรม, ศักรินทร์ จันทร์โยธา และอานิสงค์ เจริญธรรม ทว่าเขาเป็นคนเดียวที่ไม่เลือกรับเงิน 3 หมื่นบาทในเวลานั้น เนื่องจากครอบครัวมองว่าเร็วเกินไป กระดูกยังดีไม่พอจะเล่นไทยลีก และยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ดีเสียก่อน แถมเงินมากมายขนาดนั้นสำหรับเด็กยังไม่ถึงอายุ 18  อาจใช้ไปในทางที่ผิดก็เป็นได้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง “มุ้ย” ได้เล่นกับทีมจ่าอากาศ, ราชประชา ได้ฝึกซ้อมกับทีมชาติสม่ำเสมอกับรุ่นพี่ ประพฤติตัวเรียบง่าย รักษาเนื้อรักษาตัวจนก้าวมาเป็นกำลังหลักทีมชาติไทยจบถึงปัจจุบัน

เอ็มเร่

Xwongthong@gmail.com

ขอบคุณภาพประกอบ นิตยสารฟุตบอลสยาม, มนต์ชัย, แฟนเพจฟุตบอลไทยในอดีต By Tommy bars, สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย