เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นางแสงศิริ ตรีมรรคา พร้อมนายณัฐวุฒิ อุปปะ นายวศิน พงษ์เก่า และนายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ สมาชิกคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน(กป.อพช.) เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีการชุมนุมที่หน้าสถานทูตกัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้เร่งติดตามการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยการเมืองที่ถูกอุ้มหายตัวไป ทั้งนี้ก่อนที่สมาชิกคณะ กป.อพช.จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาได้อ่านแถลงการณ์คัดค้านการอ้างโรคระบาดยึดอำนาจ พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทันทีเนื่องจากเครือข่ายพีเพิลโกเน็ตเวิร์ค เห็นว่าการคงไว้ซึ่งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีประโยชน์เพียงแต่กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เท่านั้นเพื่อให้บริหารประเทศได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไร้การตรวจสอบถ่วงดุล ส่วนการป้องกันและควบคุมโรคระบาด เป็นมาตรการที่เดินหน้าตามกฎหมายในระบบปกติอยู่แล้ว ดังนั้นทางกลุ่มจึงเห็นว่า ความจำเป็นที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหมดไปนานแล้ว จากนั้นกลุ่ม กป.อพช.ขยำกระดาษประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทิ้งลงถังขยะ เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ไม่ยอมรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว
ทนายความของผู้ถูกหมายเรียกทั้ง 4 กล่าวว่าเบื้องต้นลูกความทั้งหมดได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัวกลับ โดยไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเองโดยสมัครใจ หลังจากนี้ก็จะมีการนัดสอบปากคำและส่งฟ้องศาลต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดพร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนและให้กำลังใจจำนวนมากจะเดินทางมาถึงหน้าสน.วังทองหลาง เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดเตรียมกำลังพลกว่า 20 นายเพื่อรอรับการตรวจการฝึกยุทธวิธีของจเรตำรวจ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสกัดกั้น แต่ก็พูดคุยกันด้วยความสงบเรียบร้อยก่อนแยกย้ายกันไป
