ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 ม.ค. นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักกิจกรรมนักเรียนนักศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลันได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก”Netiwit Ntw” โดยระบุว่า
“ชัยชนะเล็กๆ เมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ผมได้รับทราบว่ามีอัพเดทเว็บไซต์ทางการของจุฬาฯ ว่า ตอนนี้ได้มีการทุเลาคำสั่งชั่วคราว แล้วต้องชื่นชมในความกล้าหาญของนิสิตผู้ยื่นเรื่องนิสิตครุศาสตร์ จุฬาฯอีกหลายคนที่ร่วมแชร์ ส่งเสียงนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนและทุกคนที่ลงนามใน change.org เพื่อส่งเสียงเรื่องนี้ครับมันเป็นการยืนยันว่า “เสรีภาพและสิทธไม่ได้มาจากท่านให้ อยากได้ต้องร่วมกันช่วยกันสู้”
อย่างไรก็ดี มีข้อนึงที่ทางคณะครุศาสตร์ยังต้องตอบคือ ประเด็นอาจารย์ที่เหยียดเพศคนหนึ่ง จากภาคจิตวิทยา คณะครุศาสตร์ ทางครุศาสตร์ต้องออกมาชี้แจงครับ
ซึ่งเรื่องดังกล่าวต่อเนื่องมาจากช่วงเช้าวันที่ 16 ม.ค.ที่นิสิตจุฬาลงกรณ์ ได้แชร์ข้อความเพื่อขอให้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทุเลาการบังคับเรื่องการแต่งกายของนักศึกษาตามอัตลักษณ์เพศของแต่ละคน หลังจากที่ในช่วงเช้าได้มีการเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมหลายคน จากที่ก่อนหน้านี้ให้แต่ละคนแต่งกายตามเพศกำเนิด
ซึ่งมีรายละเอียดตามที่ เฟซบุ๊ก “Nada Chaiyajit” ได้โพสต์ข้อความก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า
“Update 16 มกราคม 2562 อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีคำสั่งให้บรรเทาการบังคับตามมติของคณะกรรมการบริหารคณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ ไว้จนกว่าจะมีการพิจารณาเป็นอย่างอื่นค่ะ
เมื่อคณะกรรมการบริหารคณะด้านการศึกษา ของรั้วมหาวิทยาลัยระดับแถวหน้าของประเทศย่านปทุมวัน มีมติยกเลิกสิทธิการแต่งกายตามเพศสภาพด้วยชุดนิสิตหญิงของผู้ร้อง และมีคำสั่งให้แต่งกายตามเพศโดยกำเนิด หากฝ่าฝืนมีความผิดตามระเบียบ จะต้องถูกตัดคะแนนความประพฤติไปจนกระทั่งถูกพักการเรียนและอาจถึงขั้นทำให้สภาพการเป็นนิสิตของสถาบันซึ่งเป็นเสาหลักของแผ่นดินแห่งนี้ มีอันสิ้นสุดลงอันเนื่องมาจาก เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ไม่ควรเรียนจบไปเป็นครูผู้เป็นต้นแบบที่น่ายกย่อง เธอถูกบอกกล่าวว่า
“เป็นกะเทยก็ไม่ต่างอะไรจากคนบ้า แค่สังคมยอมรับมากกว่า ครุศาสตร์การที่ให้พวกกะเทยมาเรียนก็บุญแล้ว”
หน้าที่ของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะในฐานะนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ของพรรคมหาชน สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องเดินหน้าดำเนินการต่อคือ การส่งเสริมให้ผู้เสียหายจากการถูกละเมิดเข้าถึงความยุติธรรม
ข้าพเจ้าเชื่อว่า สิ่งที่ผู้ร้องกำลังดำเนินการนี้ เป็นไปเพื่อปกป้องเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัยที่เธอรักและเคารพไปพร้อมๆกับการปกป้องคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตัวเธอ ในวันที่ 16 มกราคมนี้ เธอจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ เป็นกำลังใจให้สาวน้อยผู้กล้าคนนี้ด้วยนะคะ
