โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เฮี้ยน 'วิญญาณโม' บุตรชาย สท.ดังสิงร่างพี่สาวก่อนขึ้นเมรุไม่ให้เผาศพ พ่อต้องตัดสินใจเก็บศพต่อ (มีคลิป)

MATICHON ONLINE

อัพเดต 23 ม.ค. 2562 เวลา 12.56 น. • เผยแพร่ 23 ม.ค. 2562 เวลา 12.09 น.
ศพโม-

จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 03.40 น. วันที่ 19 มกราคม 2562 ร.ต.อ.ชาตรี ชูวิเชียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิตได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบริเวณ ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือถนนเลียบคลองบางใหญ่ ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ก่อนถึง เตาเผาขยะมูลฝอย เทศบาลนครภูเก็ต ประมาณ 100 เมตร หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เข้าตรวจสอบ ก่อนลงพื้นที่พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต และ พ.ต.ท.พีรพันธ์ มีมาก รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.วิชิต

ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่กลางถนน พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือนายธีรศักดิ์ แซ่อ๋อง อายุ 29 ปี ชาว ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นบุตรชายของนายเจริญ แซ่อ๋อง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลรัษฏาเขต 1 อ.เมืองภูเก็ต โดยสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีเทา สภาพนอนหงาย อยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็ม สแลซ สีน้ำเงินขาว ป้ายทะเบียน 1 กญ  1514 ภูเก็ต ซึ่งยังเปิดสวิตช์กุญแจค้างไว้ ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกกระสุนไม่ทราบขนาดเจาะที่ขมับด้านซ้าย 1 นัด เลือดไหลนองพื้น ที่เอวของผู้เสียชีวิตมีซองกระสุนปืนลูกซองแบบเข็มขัดรัดเอว 1 เส้น พร้อมกระสุน 7นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บเป็นหลักฐานก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
จากการสอบสวนทราบว่า นายธีรศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากฝั่งสำนักงานขนส่งจังหวัด ก่อนจะมีรถเก๋งสีดำไม่ทราบป้ายทะเบียนขับตามมา ก่อนที่คนในรถจะชักอาวุธปืนจ่อยิงผู้เสียชีวิต 3 นัด กระสุนเจาะขมับ 1 นัดจนจักรยานยนต์ล้มคว่ำ ก่อนคนร้ายจะขับรถหลบหนีไป และตำรวจสามารถจับกุมตัวนายจักรกฤษ หรือดิว แสงสะอาด อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 4 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ก่อเหตุได้เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (23 ม.ค.62) ที่ศาลาอเนกประสงค์ของวัดกะทู้ หมู่ 4 ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายธีรศักดิ์ หรือโม ได้มีการสวดพระอภิธรรมบังสุกุลศพ และประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะเคลื่อนศพไปยังเมรุเพื่อทำการฌาปนกิจ ได้มีญาติๆ เพื่อนสนิทของนายธีรศักดิ์ และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเจริญ ผู้เป็นพ่อ มาร่วมในพิธีจำนวนมาก

ทันทีที่เสร็จพิธีทางสงฆ์ ได้เวลาเคลื่อนศพออกจากศาลาไปยังเมรุซึ่งอยู่ด้านหลังวัด ผู้ร่วมฌาปนกิจก็ได้มีการตั้งขบวนและเดินแห่โลกศพไปยังไปอย่างโศกเศร้า ขณะเดียวกันเพื่อนๆ ของนายธีรศักดิ์ หรือโม ก็มีการนำรถจักรยานยนต์ 3 คัน ซึ่งเป็นของรักของหวงมาเบิลเครื่องจนเสียงดังสนั่นเพื่อเป็นการส่งอาลัยแก่เพื่อนรัก
แต่ทันทีที่นำศพเข้าสู่เมรุและเตรียมการเผาอยู่นั้น ปรากฏว่านางสาวแตง (ไม่ทราบชื่อจริง) ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของโม ได้เกิดอาการตั่วสั่น และหวีดร้องเสียงดัง ญาติๆ ต้องช่วยกันจับตัวไว้ โดยเมื่อจับใจความสำคัญ พบว่าเสียงตะโกนดังกล่าวระบุว่า ตนเองคือ วิญญาณนายธีรศักดิ์ โม และไม่ต้องการให้เผาเด็ดขาด ถึงแม้นายเจริญ ผู้เป็นพ่อจะพยายามเข้าไปขอ แต่ก็ไม่เป็นผล จึงสอบถามความเห็นญาติๆ ก่อนตัดสินใจยกเลิกการเผาศพตามคำขอและจะเก็บศพไว้ที่วัดก่อนไม่มีกำหนด ทำให้ร่างของพี่สาวเริ่มมีอาการสงบลง จึงพาตัวพี่สาวไปพบกับพระสงฆ์เพื่อรดน้ำมนต์

นายเจริญเปิดเผยว่า ตนเชื่อว่านายธีรศักดิ์บุตรชายไม่ต้องการให้เผาศพเนื่องจากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงจะต้องเก็บศพไว้ต่อไม่มีกำหนด ในส่วนของคดีนั้นตนเองยังรู้สึกคาใจ ว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาประกันตัวออกไป และไม่ชี้แจงความคืบหน้าคดีต่อตนเองก่อนหน้านี้ และนอกจากนี้ตนเองไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใคร จึงมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของครอบครัว “ความจริงก่อนหน้านี้มีความคิดที่จะแห่โลงศพไปยังศาลากลางจังหวัดเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย แต่เมื่อมาพิจารณาแล้วก็รู้สึกไม่ดี คิดว่าเพื่อความสงบสุขของภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์ จึงขอพึ่งพากระบวนการยุติธรรมแทน”

และจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า บุตรชายของตนมีอาวุธปืนและเปิดฉากยิงก่อนนั้น แต่จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธปืนของลูกชาย ผู้เสียชีวิตไม่สามารถโยนปืนทิ้งเองได้ ขณะเดียวกันก็มีแค่พยานอีกฝ่าย ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงคำให้การและหลักฐานได้ หลังจากนี้ตนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไปเพื่อให้เกิดความยุติธรรม ซึ่งนี่เกิดขึ้นกับลูกชายของตนซึ่งเป็นคนทำงานการเมืองท้องถิ่นหรือคนของสังคมแต่ยังไม่มีความยุติธรรม และถ้าเกิดขึ้นกับชาวบ้านตาสีตาสา ก็ยิ่งเชื่อว่าไม่มีความยุติธรรมแน่นอน จึงต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ตนมีลูกชายคนเดียว เลวบ้างดีบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นผู้ก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมกับตนและลูกด้วย หวังพึ่งกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่ากฎหมายไทยจะมีความยุติธรรม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0