โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

"เอเชียน คัพ 2019" กับการชี้ชะตา "ราเยวัช" / แมวดำ

Manager Online

อัพเดต 16 ธ.ค. 2561 เวลา 05.39 น. • เผยแพร่ 16 ธ.ค. 2561 เวลา 05.39 น. • MGR Online

คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”

หลังนำทีมตกรอบรองชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ด้วยการไม่แพ้ใคร แต่แพ้กฏประตูทีมเยือนต่อ มาเลเซีย ทำให้เสียงวิจารณ์ต่อผลงานของ มิโลวาน ราเยวัช ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ค่อนไปในทางลบ ถึงกับมีกระแสกดดันให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ปลดออกจากตำแหน่ง กระทั่ง "บิ๊กอ็อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ออกมายืนยันว่าไม่ปลด เพราะเป้าหมายใหญ่กว่าคือศึกชิงแชมป์เอเชีย หรือ เอเชียนคัพ 2019 ระหว่างวันที่ 5 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ทัพ "ช้างศึก" อยู่ร่วมสายเอกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เจ้าภาพ), อินเดีย, บาห์เรน

การออกมาปกป้อง ราเยวัช ของ "บิ๊กอ็อด" ทำให้มีกระแสกดดันตามมาลงที่นายกสมาคมฟุตบอลฯ โดยมีการย้อนวลีที่เคยพูดก่อนหน้าว่าหากตนทำให้ฟุตบอลประเทศนี้พัฒนาไม่ได้ก็ขอให้คนที่ทำได้ดีกว่ามาแทนที่ เป็นดาบทิ่มแทงจิตใจตัวเอง กระทั่งล่าสุดก็มีการออกมาบอกว่า จะใช้รายการชิงแชมป์เอเชียวัดผลงาน ราเยวัช หากตกรอบแรกก็จะพิจารณาปลดออก

ซึ่งเมื่อดูจากสายแล้วแม้ทีมชาติไทยจะมีอันดับโลกด้อยกว่าทุกทีมในสาย (อันดับ 118) แต่โอกาสเข้ารอบด้วยการเป็นทีมอันดับ 1 หรือ อันดับ 2 โดยอัตโนมัต รวมทั้งการเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมจาก 6 สาย ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกัน นั่นหมายความว่าโอกาสอยู่รอดจนครบสัญญาปี 2020 ของโค้ชผู้ชื่นชอบแท็คติกรถบัสสัญชาติเซอร์เบียมีสูงเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิดประตูตกรอบแรก

เมื่อลองไปดูทีมที่ไม่น่าจะแข็งอย่าง อินเดีย อันดับโลกอยู่ที่ 97 แว่วว่าหลายชาติค่อนข้างกังวลพอสมควร เนื่องจากความเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างน้อย เท่าที่ทราบเขาได้โค้ชชาวอังกฤษ สเตเฟน คอนสแตนติน มารับงาน ซึ่งโค้ชวัย 56 ปี ก็เคยผ่านการรับงานระดับทีมชาติมามากมาย อาทิ เนปาล, ซูดาน, รวันดา, มาลาวีหรือระดับสโมสรก็เคยรับงานกับ มิลล์วอลล์ มาแล้วเช่นกัน

ผลงานการคุมทีมก็ไม่ธรรมดา นัดล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2018 บุกเสมอทีมชาติจีนของ มาเซลโล่ ลิปปี้ 0-0 ถึงถิ่น ส่วนก่อนหน้านั้นเกมอุ่นเครื่องก็ชนะ เคนย่า 2 นัด ชนะ ไต้หวัน 5-0 และ แพ้ นิวซีแลนด์ 1-2 ขณะที่ผลงานในทัวร์นาเมนต์ เอเชียนคัพ รอบคัดเลือกย้อนไปเมื่อปี 2017 ก็แพ้ต่อ คีย์กิสถาน นัดเดียว และสามารถเสมอกับ เมียนมา 2-2 และเอาชนะ มาเก๊า 0-2 และ 4-1 แถมยังมีข่าวแว่วมาว่า อาจได้นักเตะลูกครึ่งยุโรปหลายคนมาเสริมด้วย ดูแล้วหากลูกทีมของ ราเยวัช เล่นได้เท่านัดเจอ "เสือเหลือง" ก็มีโอกาสน้ำตาตกได้เช่นกัน

ขณะที่ บาห์เรน อันดับ 113 ของโลก คุมทีมโดย มิโรสลาฟ ซูคุป กุนซือชาวสาธารณรัฐเชก ฟอร์มไม่ค่อยดีนัก คุม 11 นัด ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 4 โดยนัดอุ่นเครื่องล่าสุดวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา แพ้ ซีเรีย 0-1 ขณะที่ถอยลงมาหน่อยก็เสมอจีน 0-0, เสมอ ฟิลิปปินส์ 1-1 และ เสมอ ปาเลสไตน์ 0-0 ดูแล้วไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่นัก

อีกทีมที่น่าจะหนักคือ ยูเออี อันดับ 79 ของโลก ซึ่งนอกจากจะมีความได้เปรียบเรื่องการเป็นเจ้าภาพแล้ว ยังมียอดโค้ชชาวอิตาลีอย่าง อัลแบร์โต ซัคเคโรนี่ ที่เคยคุมทีมชาติญี่ปุ่น คว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2010/11 โดยที่ผ่านมา "อิลซัค" นำทีมอุ่นเครื่อง 4 นัดหลังสุด เสมอ โบลิเวีย 0-0, แพ้ เวเนซูเอลา 0-2, เสมอ ฮอนดูรัส 1-1 และ ชนะ ลาว 3-0 ถือเป็นงานยากที่สุดของ ราเยวัช ในรอบแรก

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2019 มีดังนี้

วันที่ 6 มกราคม 2562 ไทย - อินเดีย ที่สนาม อัล นาห์ยาน สเตเดียม, กรุงอาบูดาบี

วันที่ 10 มกราคม 2562 บาห์เรน - ไทย ที่สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม, นครดูไบ

วันที่ 14 มกราคม 2562 สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ - ไทย ที่สนาม ฮัซซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0