โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เอายังไงดี? ทำงานหนักมากจน Burn Out นักจิตวิทยาแนะนำ หาเวลาพักแล้วลองคุยกับตัวเองเยอะๆ

The MATTER

อัพเดต 22 ม.ค. 2562 เวลา 10.59 น. • เผยแพร่ 20 ม.ค. 2562 เวลา 06.00 น. • Brief

วันหยุดกำลังจะหมดแล้ว ไม่อยากให้ถึงวันจันทร์เลย เพราะต้องเจอกับภาระงานอีกมากมายที่ต้องทำให้เสร็จ พอคิดถึงเรื่องวุ่นๆ ที่กำลังจะต้องเข้ามาทั้งร่างกายและจิตใจก็อยากจะสับสวิตซ์ลงดื้อๆ ไม่อยากทำอะไรอีกต่อไปแล้ว

อาการ Burn Out หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นเรื่องที่หลายคนกำลังเผชิญหน้าและหาวิธีรับมือให้ได้ ยิ่งคนทำงานในยุคสมัยนี้ที่ต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆ และถูกบีบด้วยเงื่อนไขให้ต้องทำงานกันแบบรวดเร็ว มันก็ดูเหมือนว่าภาวะหมดไฟนี้จะเกิดขึ้นได้ถี่ และใกล้ตัวพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ

บทความจาก Quartz หยิบเรื่องนี้ไปถาม Amanda Crowell นักจิตวิทยาสายการรู้คิด (Cognitive Psychology) ว่าเราควรจะมีทางออกจากภาวะหมดไฟในการทำงานยังไงดี? ซึ่ง Crowell แนะนำหลักวิธีกลับมา 3 ข้อ ได้แก่

1) ลองหาเวลาพักให้ตัวเอง : เพราะถ้าเราเหนื่อยมากๆ ยังไงเราก็ไม่มีทางที่จะคิดงานอะไรให้มันลื่นไหลหรือคิดเรื่องใหญ่ๆ ให้มันมีประสิทธิภาพได้ แม้จะหาเวลาไปพักแบบเที่ยวทะเล เที่ยวที่อื่นได้ยาก ก็สามารถเริ่มต้นได้จากเรื่องเล็กๆ ในออฟฟิศ เช่น พาตัวเองหนีไปจากหน้าจอตอนระหว่างพักเที่ยง หรือใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงออกไปเดินเล่นข้างนอก

2) คุยกับตัวเองบ้าง : Crowell บอกว่า เมื่อเรามีเวลาพักแล้ว ลองคุยกับตัวเองดู ถามกับตัวเองอีกครั้งว่า เราจะจัดการชีวิตยังไงดีนะ? ตอนนี้ความสุขของเราคืออะไร? อะไรที่จะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้? คำถามเหล่านี้มันจะพาเรากลับไปสู่เป้าหมายที่เราเคยตั้งไว้ได้เช่นกัน

3) ตั้งเป้าเล็กๆ ที่สามารถทำได้ในแต่ละวัน : ขั้นตอนหลังจากคุยกับตัวเองแล้ว ลองตั้งเป้าอะไรก็ได้ ที่จะทำให้เรากลับมามีความสุขกับชีวิตได้อีกครั้ง ไม่ต้องเป็นเป้าหมายที่ใหญ่มากก็ได้ เช่น วันนี้ฉันจะพักให้มากขึ้น จะกินอาหารที่มีประโยชน์ หรือเย็นนี้ฉันจะต้องไปออกกำลังกาย

ก่อนหน้านี้ เคยมีบทความจาก The Boston Globe ที่อธิบาย ทำไมคนรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะเหล่า millennials ถึงเจ็บปวดกับการทำงานกันหนักมากๆ หนึ่งในคำตอบคือ ปัจจัยด้านสภาพการทำงานที่เปลี่ยนไป จากคำที่เราเคยรู้จักกันคือ work-life balance มันเริ่มกลายเป็น work-life blending

หรือพูดอีกแบบหนึ่งคือ การงานเข้ามาแทรกซึมในชีวิตเรามากขึ้น แทบจะทุกๆ ชั่วโมงของชีวิต ทั้งจากที่เราเปิดรับมันเข้ามาเอง และด้วยสถานการณ์ที่บังคับให้เป็นอย่างนั้น โดยที่เราปฏิเสธไม่ค่อยได้

อ้างอิงจาก

https://qz.com/quartzy/1527421/a-psychologists-guide-to-coming-back-from-burnout/

https://www.buzzfeednews.com/article/annehelenpetersen/millennials-burnout-generation-debt-work

https://www.newyorker.com/culture/jia-tolentino/the-gig-economy-celebrates-working-yourself-to-death

https://www.bostonglobe.com/business/2016/12/19/millennials-aren-lazy-they-workaholics/3ZD86pLBYg954qUEYa3SUJ/story.html

#Brief #TheMATTER

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0