เคยท้อถึงขั้นเดินไปบนสะพานเตรียมจะกระโดดฆ่าตัวตาย แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ เอกชัย ศรีวิชัย เปลี่ยนใจกลับมาสู้ โดยเจ้าตัวเผยถึงช่วงชีวิตที่ขอลาพ่อแม่เข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ ผ่านทางรายการ เรื่องลับมาก (NO CENSOR) "ต้องบอกว่าคุณพ่อมีหลายภรรยา คุณแม่ผมเป็นภรรยาล่าสุด คุณพ่อสร้างฐานะกับครอบครัวมาเยอะ พอเลิกคนนึงก็ให้เขาไป มาเจอคุณแม่แทบไม่มีอะไร เริ่มต้นจากการอยู่ในที่ดินป่าสงวน อยู่ที่หลวง รับจ้างดำนา รับจ้างกรีดยาง ยางตัวเองก็ไม่มี ผมไม่รู้ว่าผมเป็นวัยรุ่นตอนไหน เพราะผมทำงานตลอด เป็นเด็กแล้วเป็นผู้ใหญ่เลย ต้องรับผิดชอบน้อง ตอนผมอายุ 20 กว่า พ่อก็อายุ 80 แล้ว ตอนขึ้นกรุงเทพฯ มาเรียนหนังสือ ตัวเองมาสมัครร้องเพลงตามผับ สมัครตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า เดินมาหมดเลย มีร้านอาหารเยอะมาก เดินสมัครมาจนรองเท้ากัด โอ้โห ร้องไห้เลยไม่มีใครเขารับ เพราะสมัยก่อนนักร้องเขารับแค่ 2 คน ร้องลูกกรุงคนนึง ร้องลูกทุ่งคนนึง เหมือนมิวสิกมาก ฝนตก รองเท้าก็กัด มีตังค์ในกระเป๋าแค่ 800 บาท เดินขึ้นสะพานปิ่นเกล้า ลาแม่ลาพ่อในใจ จะกระโดดสะพาน คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เราไม่ไหวแล้ว การให้โอกาสมนุษย์ในยุคนั้นเขาก็ไม่ให้โอกาสเราเลย ทั้งที่ผมพกโน๊ตมาเยอะมาก ให้เขารู้ว่าเราร้องหลายที่ เดินขึ้นสะพานปิ่นเกล้าฝนตก พอมาถึงตรงกลางสะพานไฟสว่างไสวมาก เขาถ่ายหนังกันหรือเปล่า ไม่ใช่ เขาเอารถเครนดึงรถมินิที่ตกแม่น้ำเจ้าพระยา ดึงขึ้นมาแล้วศพก็อยู่ในนั้นด้วย ผมเห็นกับตาเลย โอ้ กูไม่ตายแล้ว การตายน่ากลัวมาก แล้วพอลงสะพานไปสมัครงาน นักร้องที่เขาร้องประจำ เขาลาไปบวช แล้วเราก็ได้งานเลย นี่ไงถ้าเราสู้ไม่ถึงที่สุด ความสำเร็จมันอยู่ข้างหน้าเราเอง อย่าเพิ่งตัดสินใจ หลังจากนั้นคือผมเรียนหนังสือในรามคำแหง และร้องเพลงอยู่คาเฟ่ มีคุณพ่อชวนชัย ฉิมพะวงษ์ เป็นนักปั้นในสมัยนั้น พ่อก็เข้ามาเห็นและชวนไปบันทึกเสียง ก็ได้อัดเสียงเลย อัดสองครั้ง เพลงแรกคือแกงรสใหม่ อัดไปเสร็จเอาไปเสนอนายห้าง ห้างรับได้ 7 วัน ห้างล้มละลาย เพลงทั้งหมดที่เอาไป มีเพลงนึงซึ่งผมไม่เลือก เพลงพี่มีแต่ให้ ก็เอาเพลงนี้มาทำใหม่และไปออกกับบริษัทเมโทรแผ่นเสียง ป๋าวรชัย เพลงนี้ก็ดังเปรี้ยงเลย ส่วนเพลง หมากัด นี่รุ่นหลังจากนั้นมาก"
ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม
akechai_sri
