โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เหลนรุ่นที่ 6 ย่าโม จี้ "อ.เรนนี่" ขอขมา ด้าน "พ่อเมืองโคราช " ทำหนังสือท้วงติงผู้จัดรายการแสดงความรับผิดชอบ เพื่อยุติปัญหา

สยามรัฐ

อัพเดต 10 ก.ค. 2563 เวลา 04.53 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. 2563 เวลา 04.53 น. • สยามรัฐออนไลน์
เหลนรุ่นที่ 6 ย่าโม จี้

จากกรณีรายการช่องส่องผีที่มีนายเชษฐวุฒิ หรือบ๊วย วัชรคุณ พร้อมนางสุระประภา หรืออาจารย์เรนนี่ คำขจร และนายศราวุฒิ หรือเจมส์ วรพัทธ์ทีวีโชติ ได้เดินทางมาบันทึกเทปรายการที่วัดศาลาลอย อ.เมือง จ.นครราชสีมา สถานที่บรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี (ย่าโม) วีรสตรีกู้ชาติได้สร้างวีรกรรมร่วมกับนางสาวบุญเหลือ กอบกู้อิสรภาพเมืองนครราชสีมาที่ถูกกบฏชาวลาวยึด แต่อาจารย์เรนนี่ อวดอ้างมีจิตสัมผัสต่อสิ่งลี้ลับ พบปลัดทองคำ สามีย่าโมและย่าโม รวมทั้งนางสาวบุญเหลือ ระบุปลัดทองคำบอกแม่บุญเหลือเป็นเมียอีกคน ซึ่งมีความขัดแย้งกับจดหมายเหตุของชาวโคราชและข้อมูลในหนังสือประวัติศาสตร์ได้บันทึกเป็นหลานสาวมิใช่ลูกสาวแต่อย่างใด ท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ ถือมีคุณูปการต่อผืนแผ่นดินไทย รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าสถาปนาคุณหญิงโมขึ้นเป็นท้าวสุรนารี เมื่อ พ.ศ 2370 การกล่าวถ้อยคำที่กล่าวบิดเบือนประวัติศาสตร์ใช้วาจาให้ร้ายจาบจ้วง สร้างกระแสความไม่พอใจต่อลูกหลานย่าโมและอาจลุกลามบานปลายขึ้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ก.ค.63 ที่โรงแรมรายาแกรนด์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวชี้แจงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวกับผู้นำชุมชนในเขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ที่เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมผู้นำชุมชนขับเคลื่อนตำบลมั่นคงปลอดภัยยาเสพติดจังหวัดนครราชสีมา ว่า ตนถือเป็นลูกหลานย่าโม ซึ่งเกิดและเรียนหนังสือรวมทั้งรับราชการอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา จึงมีความผูกพันกับย่าโมและย่าบุญเหลือ ถ้อยคำที่บิดเบือนประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่สะเทือนจิตใจตนเหมือนกัน ต้องยอมรับการดำเนินคดีพิธีกร สิ่งสำคัญการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต้องเป็นทายาท การหารือกับนิติกรและพนักงานสอบสวนไม่สามารถดำเนินการได้ ประกอบกับลูกหลานซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตาสูงและคนโคราชใจดีมีเหตุมีผลและให้อภัย การขอขมาลาโทษทำให้ประเด็นความไม่พอใจดีขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อประสานงานผ่านผู้เกี่ยวข้องให้รีบมาทำตามคำร้องขอของลูกหลานย่าโม ย่าบุญเหลือ หากล่าช้าอาจเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว

ล่าสุดได้ลงนามในหนังสือ ที่ นม 0031/ว515 เรื่องขอท้วงติงการเผยแพร่รายการช่องส่องผี ตอน ย่าโมแรงศรัทธาชาวโคราช ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เกี่ยวกับข้อมูลของท้าวสุรนารี (ย่าโม) และนางสาวบุญเหลือ ได้ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจชาวจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากทั้งย่าโมและย่าบุญเหลือ เป็นบุคคลสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการยกย่องเป็นวีรสตรีของจังหวัด มีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ประจำทุกอำเภอและจัดงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารีเป็นประจำทุกปีรวมทั้งใช้รูปปั้นท้าวสุรนารีเป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดนครราชสีมาอีก ข้อคิดเห็นความรู้สึกจากญาติและประชาชนที่มีความรัก ความเคารพ ความศรัทธาในวีรกรรมของท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ จึงขอแสดงออกด้วยการท้วงติงการนำเสนอรายการดังกล่าว ซึ่งไม่มีข้อมูลอ้างอิง เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น สร้างผลกระทบต่อความรู้สึก จิตใจของชาวจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ได้พิจารณาเพื่อให้เกิดความสงบสุข เรียบร้อย ยุติเรื่องด้วยความสมานฉันท์ทั้งสองฝ่าย จึงขอความร่วมมือจากผู้ดำเนินรายการช่องส่องผีและคณะโปรดแสดงความ รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการเดินทางไปขอขมาต่ออนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และวัดศาลาลอยรวมทั้งอนุสรณ์สถานนางสาวบุญเหลือตามธรรมเนียมของชาวจังหวัดนครราชสีมา

ที่บ้านย่าโม เลขที่ 536 ถ.จอมพล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่พักอาศัยของท้าวสุรนารี นางจงกลกร ผาสุขมูล อายุ 55 ปี เหลนรุ่นที่ 6 ของย่าโม เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับลูกหลานซึ่งไม่ได้ติดใจกับคุณบ๊วย เขาเป็นผู้จัดรายการไม่ได้พูดให้เสื่อมเสีย แต่ผู้ที่สมควรออกมาขอโทษสังคมมากที่สุดคือ อาจารย์เรนนี่ พนักงานในรายการกล่าวอ้างบิดเบือนประวัติศาสตร์และขัดแย้งกับคำบอกเล่าของอาจารย์ลดาวัลย์ วรรณบูรณ์ เหลนรุ่นที่ 5 ท้าวสุรนารี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ได้เสียชีวิตด้วยโรคชราในช่วงอายุ 89 ปี ระบุนางสาวบุญเหลือ มีสถานะเป็นหลานบุญธรรมย่าโม มิใช่อนุภรรยาปลัดทองคำ ตามที่นำเสนอแต่อย่างใด

ขอขอบคุณน้ำใจชาวโคราชที่ร่วมกันออกมาปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีย่าโม วีรสตรีของ จังหวัดนครราชสีมา สำหรับตนและครอบครัวไม่ถือโทษแต่อย่างใด เพียงการนำเสนอสิ่งใดต้องมีหาข้อมูลให้ชัดเจน รวบรวมข้อเท็จจริงให้ถูกต้องก่อนนำเสนอ ไม่ควรนำความคิดของตนเองมาเป็นประวัติศาสตร์นอกตำรา ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะประวัติศาสตร์ความเป็นจริงนั้นมีการรวบรวมหลักฐานในจดหมายเหตุและการบันทึกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0