ศูนย์ข่าวศรีราชา - เหยื่อ “สุนันทา” หลอกลวงเงินพระ 7 แสนบาทที่ชลบุรี โผล่อีก หลังทราบว่าผู้ต้องหาถูกตำรวจกองปราบจับ เข้าพบตำรวจเพื่อจะดำเนินคดีเพิ่ม แต่พบว่าคดีหมดอายุความ แต่ยังมีการเซ็นหนังสือยอมรับสภาพหนี้กว่า 1 แสนบาทอยู่ จึงเตรียมดำเนินคดีทางแพ่ง เชื่อมีเหยื่ออีกมาก วอนออกมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม
วันนี้ ( 20 ก.ย. ) นางสาวสนัญญา พิพัฒน์สวัสดิ์ เข้าพบ พ.ต.ท.อมรวัฒน์ ปานดี สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขอคำแนะนำเรื่องคดีถูก นางสาวสุนันทา เจริญอภิชัย อายุ 56 ปี หลอกลวงเงินไปจำนวน 115,000 บาท ไป หลังจากทราบจากในภาพข่าวว่า นางสาวสุนันทา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจำกุมตัวได้ ในข้อหาหลอกลวงเงินพระรูปหนึ่งไปเป็นจำนวนเงิน 700,000 บาท ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับที่มาหลอกลวงตนเอง โดยพบพฤติกรรมการหลอกลวงที่เหมือนกัน จึงจะมาเพิ่มข้อกล่าวหาเพิ่ม
โดยนางสาวสนัญญา พิพัฒน์สวัสดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา นางสาวสุนันทา ได้ชักชวนแฟนและตนเองลงทุนซื้อบ้านหลังหนึ่ง เพื่อนำไปขายต่อเอากำไร โดยนางสาวสุนันทาบอกว่าขาดเงินอีก 200,000 บาท จึงจะสามารถซื้อบ้านหลังนี้ได้ โดยได้ส่งรูปเช็คมูลค่า 250,000 บาท เป็นชื่อของนางสาวรจนา ราศรี มาให้ตนเองดูทางไลน์เพื่อเป็นการยืนยัน และบอกว่าถ้าโอนมาสองแสนบาท ส่วนต่างอีก 5 หมื่นบาทผู้ให้เงินสองแสนจะได้รับส่วนต่างตรงนี้ไป ซึ่งได้คุยกับแฟนของตน และแฟนตนเองได้โอนเงินไปให้ ครั้งละ 50,000 บาทสองครั้งรวมเป็นเงิน 100,000 บาท ก่อนที่จะมาปรึกษาตนเอง และเกิดความสงสัยจึงโอนไปแค่ 1 แสนบาทก่อน ส่วนอีก 15,000 บาท ให้โอนไปอีกเนื่องจากเงินไม่พอจ่าย หลังจากนั้นก็พยายามสอบถามนางสาวสุนันทามาโดยตลอดแต่ไม่ได้รับการคืนเงิน และไม่ได้รับเช็คดังกล่าว
หลังจากนั้นวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จึงติดตามตัวและพากันไปทำหนังสือยอมรับสภาพหนี้ที่ สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี โดยจะต้องชำระเงินภายในวันที่ 30 มีนาคม2562 ถ้าไม่ชำระก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตนเองและแฟนพยายามติดตามทวงหนี้มาโดยตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่เมื่อวันที่ 19 ก.ย.62 ได้เห็นภาพข่าวในกรณีที่พระถูกสาวใหญ่หลอกเป็นเงิน 7 แสนบาท จึงพบว่าผู้ต้องหาเป็นคนเดียวกันกับนางสาวสุนันทา จึงนำเรื่องมาปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทนายความอาสาแล้วก็พบว่า คดีดังกล่าวหมดอายุความไม่สามารถดำเนินคดีอาญากับนางสาวสุนันทาได้ แต่สามารถดำเนินการตามคดีแพ่งได้ จึงเตรียมการที่จะดำเนินการตามคดีแพ่งต่อไป
แต่ทั้งนี้โดยส่วนตัวอยากจะแจ้งว่า หากมีผู้ที่ถูกนางสาวสุนันทาหลอกลวงเงินไปเหมือนเช่นตนเอง ให้รีบมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะถ้าช้าคดีอาจจะหมดอายุความเหมือนเช่นตนเอง ในส่วนของเจ้าของเช็ค คือนางสาวรจนา ราศรี เตรียมเข้าปรึกษาทนายความเพื่อจะดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
