โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เหยื่อหมอโดนลวนลามโผล่อีก แฉถูกนิ้วแหย่ – กระซิบเสียวไหม แถมตรวจฟรี (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 16 พ.ย. 2561 เวลา 18.53 น.
เหยื่อหมอโดนลวนลามโผล่อีก แฉถูกนิ้วแหย่ – กระซิบเสียวไหม แถมตรวจฟรี (คลิป)
จากกรณีที่ เพจทนายนิด้า เผยแพร่เรื่องราวที่แพทย์ข่มขืนคนไข้สาวตอนตรวจภายใน ในคลินิก โดยตอนแรกแพทย์อ้างว่าใช้ของปลอมสอดใส่ แต่กลับใส่ถุงยางให

จากกรณีที่ เพจทนายนิด้า เผยแพร่เรื่องราวที่แพทย์ข่มขืนคนไข้สาวตอนตรวจภายใน ในคลินิก โดยตอนแรกแพทย์อ้างว่าใช้ของปลอมสอดใส่ แต่กลับใส่ถุงยางให้ของปลอม พร้อมเผยแพร่แชตที่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ทักแชต เล่าเรื่องราวและข้อมูลเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยตอนนี้ เหยื่อสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้วนั้น (อ่าน : เปิดคลิปลับหมอขืนใจคนไข้ พร่ำบอกอย่ากลัวท้อง – เหยื่อแจง ให้เลขบัญชีหวังเป็นหลักฐานมัด)

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในคลินิก
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในคลินิก

วันที่ 16 พ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าวแล้ว ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าคลินิกดังกล่าวมีมาตราฐานถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลจากคณะกรรมการตรวจสอบ แต่เบื้องต้น มีความผิดเรื่องการให้ความปลอดภัยกับผู้ป่วยในลักษณะที่ต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ตลอดเวลาในการตรวจ หลังจากที่ผ่านมา คลินิกมีเพียงคนดูแลหน้าร้าน และแพทย์ผู้ที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น ทั้งนี้ หากการตรวจสอบ พบว่ามีมูลความผิด ก็จะเข้าข่ายผิดจริยธรรมทางการแพทย์ และต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงด้วยหรือไม่ ส่วนจะมีการสั่งปิดคลินิกดังกล่าวชั่วคราวหรือไม่ ทางคณะทำงานจะมีการไปสรุปผลการตรวจสอบต่อไป เพื่อเป็นการให้นายแพทย์คนดังกล่าวไปปรับปรุงคลินิก

นางปรียาภรณ์ วินิจสร ผู้ดูแลคลินิก
นางปรียาภรณ์ วินิจสร ผู้ดูแลคลินิก

ในขณะที่นางปรียาภรณ์ วินิจสร ผู้ดูแลคลินิก สถานที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับแพทย์คนดังกล่าว มาเป็นระยะเวลาเกือบ 30 ปีแล้ว และที่ผ่านมา เคยเห็นนายแพทย์ถูกร้องเรียนในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว 1 ครั้ง พร้อมยืนยัน วันที่เกิดเรื่อง ตนไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น และที่สำคัญตนเพิ่งได้รับคำสั่งจากทางแพทย์ว่า ให้ปิดคลินิกชั่วคราว จึงทำตามคำสั่งเท่านั้น

นางสาวตูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย
นางสาวตูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย

นางสาวตูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเข้ารับการรักษาเนื่องจากเป็นฝี จึงมารักษาตามคำแนะนำของรุ่นพี่ เมื่อเริ่มตรวจรักษาด้วยการใช้มือจับคลำหน้าอก พร้อมบอกว่าหน้าอกสวย และตลอดการรักษายังเรียกตนอีกว่าที่รัก ระหว่างการตรวจ แพทย์พยายามสาธิตการมีเพศสัมพันธ์ และมาเป่าลมซอกคอ เลียหู ต่อมาตนมีอาการป่วยรอบสองด้วยอาการเดิม ซึ่งครั้งนี้ถูกล่วงละเมิดหนักกว่าเดิม โดยมีการใช้ลิ้นที่อวัยวะเพศ และสาธิตการมีเพศสัมพันธ์ จนกระทั่งเป้ากางเกงแพทย์เปื้อนเลือดของตนด้วย (อ่านต่อ : เหยื่อโผล่แฉเพียบ หมอคลินิกฉาวทำอนาจารคนไข้สาว อึ้ง! ใช้ลิ้นกับอวัยวะเพศ อับอายไม่กล้าแจ้งความ)

นางสาวแป้ง (นามสมมติ) ผู้เสียหาย
นางสาวแป้ง (นามสมมติ) ผู้เสียหาย

นางสาวแป้ง (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย เปิดใจว่า เมื่อปีที่ผ่านมา ตนและพี่สาว มีปัญหาเรื่องฮอร์โมน และประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ จึงตัดสินใจเดินทางไปพบแพทย์ ตามที่มีข้อมูลว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชโดยเฉพาะ เมื่อมาถึงที่คลินิกแพทย์ก็มีการสอบถามอาการ และข้อมูลเพื่อการรักษา ก่อนจะเริ่มตรวจร่างกายของตน โดยเมื่อเดินเข้าไปในห้องตรวจนั้น พบความผิดปกติที่ไม่มีผู้ช่วย หรือพยาบาลอยู่ในห้องตรวจด้วย อีกทั้งล็อกห้องตรวจทันทีที่เข้าไป จากนั้นให้ตนถอดเสื้อและปลดชุดชั้นใน ตนก็เอะใจ แต่ด้วยความเชื่อใจแพทย์ ว่าอาจจะกำลังทำการตรวจรักษาจริง จึงให้ความร่วมมือ จากนั้นแพทย์ก็จับหน้าอกทั้งสองข้างอย่างจริงจัง แล้วก็ให้ตนถอดกางเกงขึ้นไปบนขาหยั่ง เพื่อตรวจภายใน

ขณะที่ทำการตรวจภายในนั้น แพทย์ใช้นิ้วแหย่เข้าไปที่อวัยวะเพศ แล้วถามว่า “เพลินไหม ชอบไหม เจ็บไหม” ตนจึงบอกว่าเจ็บ แพทย์ก็เข้ามาเป่าลมที่หู 4 ครั้ง แล้วถามว่า “รู้สึกยังไง” อีกทั้งสอนวิธีการมีเพศสัมพันธ์ ตนขอยุติการรักษาทันที ก่อนจะออกมารอรับยา จึงเล่าให้พี่สาวที่กำลังต่อคิวเข้าตรวจฟัง แต่ตอนนั้นพี่สาวยังไม่เชื่อ และเข้าตรวจต่อจากตนตามปกติ

เมื่อพี่สาวเข้าไปยังห้องตรวจ ปรากฎว่าแพทย์กระทำเช่นเดียวกัน คือโดนจับหน้าอก แหย่นิ้วเข้าไป เป่าหู ซอกคอ เมื่อพี่สาวตรวจเสร็จ ก่อนรับยา แพทย์บอกอีกว่า “ไม่ต้องชำระเงิน หมอให้ยาฟรี” แต่ตนไม่อยากติดค้าง จึงชำระไปตามปกติ และกลับมาปรึกษากับพี่สาวว่า กรณีนี้ไม่ใช่การรักษาอย่างแน่นอน จนกระทั่งมาเห็นเหยื่อรายอื่นโพสแชร์เรื่องราวลักษณะเดียวกันลงในโซเชียล

เมื่อย้อนกลับมาถามว่าทำไมขณะตรวจแล้วพบความผิดปกติ จึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือหรือบอกให้แพทย์หยุดทันที ตนขอชี้แจงว่า ด้วยความไม่รู้ เพราะไม่เคยตรวจภายในมาก่อน อีกทั้งไว้วางใจในวิชาชีพแพทย์ ว่าทำการตรวจรักษาจริง แต่สุดท้ายกลับไม่ใช่ จึงรู้สึกว่าไม่อยากหาแพทย์คนนี้อีก ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม เพราะมองว่าไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ และไม่เชื่อว่าเป็นการรักษาต่างชาติ เพราะเมื่อไปตรวจกับแพทย์รายอื่น เกิดข้อเปรียบเทียบว่าวิธีการรักษามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0