วันที่ 23 ต.ค. 62 วันที่ 23 ต.ค. 62 ความคืบหน้าจากกรณีที่โลกโซเชียลแชร์สนั่นคลิป นายรชฏ หนุ่มแว่นขับรถยนต์ซีวิคมีอาการหัวร้อน หลังขับรถชน และเหยียดคู่กรณี ลามถึงด่าคนไทยทั้งประเทศ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณสี่แยกถนนอักษะ (อ่าน : โซเชียลรุมจวก หนุ่มซีวิคหัวร้อนเหยียดคู่กรณี-พาลด่าคนไทยชั้นต่ำทั้งประเทศ ) ต่อมาบริษัทต้นสังกัดที่หนุ่มดังกล่าวทำงานอยู่ได้ออกประกาศไล่ออกตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น (อ่าน : หนุ่มซีวิคหัวร้อนยอมขอโทษ หลังพ่อแม่โผล่เจรจา ล่าสุดบริษัทไล่ออกแล้ว ) ล่าสุดเมื่อเรื่องราวของหนุ่มแว่นรายนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีผู้เคยพบเจอหนุ่มรายนี้ก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน
โดยนายสมชาย จันทรอำนวยงาม เปิดเผยว่า ตนเองเคยเจอหนุ่มหัวร้อนรายนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ต.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. บนทางด่วนใกล้ รพ.พระราม 9 ตนจะเดินทางไป จ.บุรีรัมย์ ขณะนั้นสภาพการจราจรติดขัด รถคู่กรณีพยายามแทรกด้านหน้าตน ทั้งที่ช่องว่างที่จะแทรกเข้ามา แค่หมาตัวเดียวก็ผ่านไม่ได้ ซึ่งเขาพยายามบีบแตรส่งเสียงดังอยู่หลายครั้ง ตนจึงหันไปดูก็พบรถของคู่กรณีประกบด้านข้าง ส่วนตัวคู่กรณีก็ชูนิ้วกลางแกว่งไปมา พร้อมด่าตนเองด้วยถ้อยคำหยาบคายสารพัด ตอนนั้นตนไม่ได้เปิดกระจกหรือลงจากรถ แม้ว่าเขาจะกวักมือให้ตนลงไป แต่ขณะนั้นยอมรับว่ากลัวเขาจะลงมาทำร้าย จึงได้หยิบมีดที่พกไว้ในรถออกมาวางไว้ที่ตักเพื่อเตรียมไว้กรณีจำเป็น
เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัว ตนก็หยุดรถให้คู่กรณีขับไปก่อน ซึ่งคู่กรณีได้ขับรถปาดหน้าตน และเปิดไฟฉุกเฉินใส่ จากนั้นก็ยังชูนิ้วกลางออกมานอกรถอีก ซึ่งตนไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย เพราะคิดถึงหน้าหลานที่รอให้ตนไปหา ไม่เช่นนั้นยอมรับว่าตนเองก็คงลงจากรถไปแล้ว ซึ่งตลอดทางก็ยังเห็นรถคันเดิมขับรถปาดรถคันอื่นไปมาอยู่ตลอด จึงไม่เข้าใจว่าคนแบบไหนที่จะกล้ามีเรื่องกับคนบนถนน ขณะรถติดอยู่แบบนี้ ส่วนตัวไม่คิดว่าคู่กรณีจะป่วย เพราะตนทำงานที่โรงพยาบาล เห็นผู้ป่วยมาก็เยอะ เชื่อว่าเหมือนคนดีด หากจะบอกว่าตัวเองป่วย ตนเชื่อว่าตอแ-ล หลังเกิดเหตตนได้ถ่ายรูปรถไว้ และเอาเลขทะเบียนไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย
อย่างไรก็ตาม นายสมชายกล่าวว่า หากเด็กคนนี้ไปเจอกับคนอื่นที่ไม่ใช่ตน ก็อาจจะตายหรือเจ็บหนัก ตนเห็นข่าววันนี้ยังสงสารคู่กรณีของเขาเลย
https://youtu.be/MBCd3XcB6WY
