ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์จุดความร้อนจากภาพถ่ายดาวเทียมนาซ่า ในระบบ VIIRS ของเมื่อวานนี้( 26 ม.ค.63) พบว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่พบจุดความร้อนมากที่สุด จำนวน 4,581 จุด อันดับ 2 คือประเทศกัมพูชา จำนวน 2,966 จุด และอันดับ 3 ประเทศพม่า มีจุดความร้อน 2,566 จุด ซึ่งค่าความร้อนนี้ถูกนำมาเปิดเผยผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก "Smoke watch" ที่เครือข่ายนักวิชาการสร้างขึ้นเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลและให้ประชาชนได้ติดตามสถานการณ์ค่าความร้อน ที่อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ไฟป่า, การเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง หรือ ไฟหม้ ซึ่งมีผลต่อสถานการณ์ฝุ่นละออง ที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้เหล่านี้ตามมาด้วย
หากเปรียบเทียบกับจุดความร้อนเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.63 พบว่าประเทศไทย มีจำนวน 4,716 จุด มากเป็นอันดับ 2 แต่เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.2563) แม้จำนวนจุดค่าความร้อนลดลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ก็ทำให้ไทยยังเป็นประเทศที่อยู่ที่อันดับ 1 เมื่อดูพื้นที่ค่าความร้อนแบบระดับภาคพบว่า ความค่าร้อนส่วนใหญ่ยังปรากฎครอบคลุมพื้นที่ทั้งภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนเป็นหลัก
ภาคเหนือ มีจุดความร้อนจำนวนทั้งสิ้น 2,414 จุด จ.ลำปาง เป็นจังหวัดที่พบมากที่สุด 638 จุด, จ.ตาก 623 จุด และ จ.เชียงใหม่ 378 จุด
ส่วนพื้นที่ จังหวัดภาคกลางตอนบนหรือ ภาคเหนือตอนล่าง พบจุดความร้อนทั้งสิ้น จำนวน 1,039 จุด พบมากที่สุดอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 321 จุด ตามด้วย จ.สุโขทัย 197 จุด และ จ.กำแพงเพชร 191 จุด
ผู้สื่อข่าวระบุด้วยว่า นอกจาก สถานการณ์ไฟป่า และการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นจากการปรากฎจุดความร้อนมากพอที่ดาวเทียมนาซ่าจับค่าได้แล้ว ยังมีปัจจัยจากข้อมูลทิศทางลมจาก ศูนย์อุตุนิยมวิทยาอาเซียน (ASMC)จะเห็นได้ชัดถึงทิศทางลม ข้ามจังหวัด และลมข้ามแดนจากประเทศกัมพูชาเข้ามา เป็นสถานการณ์ซ้ำในประเทศไทยด้วยเช่นกัน และเกิดขึ้นต่อเนื่องมาตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สัปดาห์ที่แล้ว ฝุ่นข้ามแดนลอยเข้ามาปกคลุมบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ภาคกลางตอนล่าง เช่น จ.นครสวรรค์, จ.ลพบุรี, จ.สุพรรณบุรี,จ.สระบุรี และ จ.กำแพงเพชร และทำให้ในพื้นที่เหล่านี้เผชิญกับฝุ่น 2 แหล่ง ทั้งฝุ่นในพื้นที่และฝุ่นข้ามแดนอยู่ร่วมกัน
เมื่อดูจากข้อมูลในช่วงเช้ามืดเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.63) ฝุ่นข้ามแดนนี้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปทางภาคกลางตอนบน และ ภาคเหนือ ซึ่งจะทำให้ช่วงสัปดาห์นี้ ประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร, จ.สระบุรี, จ.กาญจนบุรี ไม่ต้องเผชิญกับฝุ่นข้ามแดนแล้ว
แต่จะทำให้จังหวัดต่อไปนี้ เผชิญกับฝุ่นข้ามแดนที่ลอยไปปกคลุมแทน ทั้งที่ จ.นครสวรรค์, จ.พิจิตร,จ.พิษณุโลก,จ.กำแพงเพชร, จ.ตาก, จ.สุโขทัย,จ.อุตรดิตถ์, จ.ลำปาง, จ.ลำพูน, จ.น่าน, จ.พะเยา และ จ.เชียงใหม่ และเมื่อดูสถานการณ์ที่มีการเผาไหม้หลายจุด ในภาคเหนือ และ ภาคกลางตอนบนขณะนี้ ซึ่งหากยังแก้ปัญหาไม่ได้ จะทำให้สัปดาห์นี้ พื้นที่เหล่านี้จะเผชิญกับฝุ่น 3 แหล่งใหญ่เข้าด้วยกัน ทั้งฝุ่นในพื้นที่, ฝุ่นข้ามจังหวัด และ ฝุ่นข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน
เรื่อง : ภัทราพร ตั๊นงาม