EVERYBODY FALL IN LINE! pic.twitter.com/B9JU5nvpMu
— OH no Type Co (@OHnoTypeCo) 13 กุมภาพันธ์ 2561
เหตุใดโลโก้ของบริษัทหลายๆแห่งจึงมีหน้าตาคล้ายๆกัน? ตั้งแต่ Google, Airbnb ไปจนถึง Spotify และ Pinterest บริษัทเหล่านี้ค่อยๆเปลี่ยนตราสินค้าจากตัวอักษรแปลกๆไปเป็นตัวอักษร Sans Serif แบบเดียวกัน แล้วการเปลี่ยนครั้งนี้มีเหตุผลไหม? วัฒนธรรมเป็นปัจจัยหรือเปล่า? บริษัทเหล่านี้พยายามส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขาเป็นองค์กรระดับพันล้านแล้วใช่ไหม? เพื่อหาคำตอบเราจึงติดต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านตราสินค้าและนี่คือทฤษฎีของพวกเขา
Sans Serif = ทำให้เข้าใจง่าย
พวกเขาแค่กำลังมองหาตัวตนที่มีการเชื่อมต่อกันจริงๆ ทั้งประสบการณ์ รูปลักษณ์ และความรู้สึก ที่สำคัญคือการทำให้เข้าใจง่าย เมื่อคุณเข้าใจก็จะยิ่งห่างไกลจากความแปลกและโลโก้บริษัทเหล่านี้ก็จะยิ่งมีความเป็นเอกลักษณ์
– ฮาเวิร์ด เบลก์ ผู้บริหารระดับสูงและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความคิดสร้างสรรค์แห่ง Siegel+Gale
ผู้บริโภคต้องมองเห็นโลโก้เหล่านี้ทุกวันทั้งตามท้องถนน บนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก หรือสมาร์ทโฟน ดังนั้นผลสะท้อนและความชัดเจนจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของสินค้าทุกยี่ห้อ การใช้โลโก้ที่ชัดเจนและเป็นกลางคือการบอกลูกค้าด้วยข้อความแบบเดียวกัน เช่น สินค้าและบริการของเราเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และชัดเจน แถมยังอ่านง่ายมากอีกด้วย
– เทียรี่ บรุนโฟต์ ผู้อำนวยการฝ่ายความคิดสร้างสรรค์และหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง Base Design
ยิ่งธรรมดา ยิ่งน่าเชื่อถือ
ผมมองว่านี่คือขั้นตอนตามธรรมชาติของแบรนด์ต่างๆ ในการเติบโตจากธุรกิจใหม่ไปเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดแล้ว เป้าหมายก็จะเปลี่ยนจากการโฆษณาไปเป็นสินค้าในชีวิตประจำวันที่ผู้คนสามารถไว้วางใจได้ แบรนด์ส่วนใหญ่เริ่มมีการถ่ายทอดอัตลักษณ์ของตัวเองผ่านงานบริการ เนื้อหา เสียง และกิจกรรมต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ
– แอนดี้ ฮาร์วีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายความคิดสร้างสรรค์แห่ง Moving Brands
โลโก้ไม่ใช่แบรนด์อีกต่อไป
ผู้บริหารในแบรนด์ดิจิทัลอันทรงพลังเหล่านี้รู้ดีว่าแบรนด์ไม่ได้ถูกกำหนดด้วยโลโก้อีกต่อไปแต่เป็นตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างหาก ก่อนหน้านี้นักออกแบบโลโก้จะมองหา “แนวคิด” เวลาที่ต้องออกแบบโลโก้ แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วเนื่องจากแบรนด์นี่แหละคือแนวคิด โลโก้อาจดูคล้ายกันแต่สินค้าหรือบริการของพวกเขาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อผู้บริโภคและแน่นอนว่าแบรนด์เหล่านี้เป็นที่จดจำได้ถึง 100% แบรนด์เหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและวัฒนธรรมของเรา ด้วยเหตุนี้โลโก้จึงไม่จำเป็นเนื่องจากพวกเขาเลือกใช้แค่คำ (หรือเป็นคำกริยา) เช่น “ฉันจะลองกูเกิ้ลดูนะ”
–เทียรี่ บรุนโฟต์ ผู้อำนวยการฝ่ายความคิดสร้างสรรค์และหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง Base Design
ผมว่าเทรนด์ตอนนี้คือโลโก้ไม่จำเป็นสำหรับทุกงาน ในแง่ของอัตลักษณ์จะถูกกำหนดด้วยองค์ประกอบกับประสบการณ์ต่างๆที่อยู่รายล้อมโลโก้และต้องเข้ากับองค์ประกอบส่วนอื่นๆด้วย
–แอนดี้ ฮาร์วีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายความคิดสร้างสรรค์แห่ง Moving Brands
โลโก้เรียบง่ายยิ่งใช้ได้ดีบนสมาร์ทโฟน
เราไม่ต้องการคำอุปมาอุปไมยใน UX หรือประสบการณ์ผู้ใช้เหมือนอย่างที่แล้วมาเนื่องจากมันจะทำงานเร็วกว่าและดีกว่าเมื่ออยู่บนหน้าจอเล็กๆของสมาร์ทโฟน การออกแบบตัวอักษรได้รับอิทธิพลมามากจนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อและคาดเดาได้ ผมว่าถ้าคุณลองสังเกตคร่าวๆ (แต่ไม่ทั้งหมด) คุณจะเห็นว่ามีหลายสิ่งเกิดขึ้นเหมือนกัน บางทีอาจไม่ใช่ตัวอักษรแบบเดียวกันแต่ก็เป็นสไตล์ที่คล้ายกัน ดังนั้นเราอาจจะติดอยู่กับมันสักพักหนึ่งจนกระทั่งมีคนมาจุดประกายอีกครั้งและผมจะพูดว่า “มีอะไรก็งัดมาให้หมด”
–นิก คลาร์ก ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายความคิดสร้างสรรค์แห่ง Superunion New York