โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เหตุใดผู้คนถึงตกหลุมรัก % Arabica ร้านกาแฟเปิดใหม่สัญชาติญี่ปุ่นกับ Flagship Store สาขาแรกในประเทศไทย

THE STANDARD

อัพเดต 03 มิ.ย. 2563 เวลา 13.02 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2563 เวลา 13.02 น. • thestandard.co
เหตุใดผู้คนถึงตกหลุมรัก % Arabica ร้านกาแฟเปิดใหม่สัญชาติญี่ปุ่นกับ Flagship Store สาขาแรกในประเทศไทย
เหตุใดผู้คนถึงตกหลุมรัก % Arabica ร้านกาแฟเปิดใหม่สัญชาติญี่ปุ่นกับ Flagship Store สาขาแรกในประเทศไทย

“คนไทยมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟมายาวนานมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็เข้าถึงกาแฟได้” เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ % Arabica เลือกมาเปิดสาขาที่ 58 ในประเทศไทย

 

ความตั้งใจของ % Arabica คือการหลอมรวมคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับความทันสมัยของโลก และสืบทอดปรัชญาหลักของร้าน ‘See the World Through Coffee’ ที่เห็นได้ชัดจากร้าน % Arabica สาขาเกียวโต ในย่านอาราชิยามะ ริมแม่น้ำคัตสึระ รายล้อมไปด้วยขุนเขาที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ธรรมชาติอันสวยงามที่โอบกอดร้านกาแฟสีขาวเรียบง่ายร้านนี้ไว้ ทำให้ผู้คนที่เคยแวะไปเยี่ยมเยียนย่านอาราชิยามะหลงรัก % Arabica ได้แบบไม่ยาก แม้คิวรอซื้อกาแฟจาก % Arabica จะยาวแค่ไหน ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ เพราะผู้คนที่มายืนรอสามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันสวยงามของย่านอาราชิยามะได้อย่างเต็มที่ และเมื่อได้กาแฟแก้วที่ต้องการมาแล้ว ส่วนผสมของความสงบในใจที่ประกอบด้วยกาแฟจากฝีมือชั้นดีของบาริสต้าและบรรยากาศอันสวยงามของธรรมชาติที่ได้มองจากหน้าร้านก็ก่อกำเนิดขึ้น

 

 

การเลือกที่ตั้งของแฟลกชิปสโตร์สาขาแรกของประเทศไทยและสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญพอกับการออกแบบ กว่าจะออกมาเป็น % Arabica ที่ ICONSIAM นั้น % Arabica เฟ้นหาพื้นที่ที่เหมาะสมและไปสำรวจมากว่า 50 จุดในกรุงเทพฯ ด้วยเกณฑ์ที่ว่าพื้นที่ร้านจะต้องสะท้อนวัฒนธรรมได้ดี สวยงาม เดินทางมาได้สะดวก ไม่ต้องลำบากหาที่จอดรถ และมีระบบระบายอากาศที่สามารถตั้งเครื่องคั่วกาแฟสองเครื่องไว้ได้ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติดีที่สุด จนได้พบกับ ICONSIAM ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่สามารถสะท้อนวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี พื้นที่บริเวณชั้น 1 ที่สวยงาม และระบบระบายอากาศที่ไม่ได้ตั้งได้แค่เครื่องคั่วกาแฟ แต่สามารถตั้งครัวจีนขนาดใหญ่ได้เลย ทำให้ เคนเนธ โชจิ ผู้ก่อตั้ง % Arabica ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น และใช้เวลาแค่ 5 นาทีในการตัดสินใจเลือกพื้นที่นี้เป็นที่ตั้งของ % Arabica แฟลกชิปสโตร์สาขาแรกในประเทศไทย

 

 

The Vibe:

ร้านกาแฟสีขาวสว่างสะอาดตาฝีมือทีมที่ 10 ของบริษัทออกแบบตกแต่งชื่อดังของโตเกียวอย่าง Nomura Kougeisha และเครื่องหมาย % ขนาดใหญ่ที่ไม่ได้หมายถึงวิธีคิดทางคณิตศาสตร์ แต่หมายถึงผลกาแฟบนกิ่งก้านของต้นกาแฟ โดดเด่นดึงดูดสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาใน ICONSIAM ไม่ว่าจะภายในชั้นเดียวกันหรือชั้นอื่น เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งที่ดูเหมือนเป็นร้านกาแฟจากโลกอนาคตนั้นมีอะไรซ่อนอยู่มากมาย เพราะทาง Nomura Kougeisha ได้บินมาดูสถานที่จริง และหาแรงบันดาลใจจากพื้นที่รอบๆ เพื่อทำให้ร้านมีทั้งจิตวิญญาณของความงามในรูปแบบญี่ปุ่นและเข้ากับความเป็นไทยของ ICONSIAM ทั้งเทคนิคทางสถาปัตยกรรมแบบ ‘Inside Out, Outside In’ ที่เชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกและภายในให้มีความสัมพันธ์กัน ถ้าคุณเดินอยู่ข้างนอกร้านแล้วมองเข้ามา คุณก็จะพบกับความสวยงามของร้าน และถ้าคุณนั่งอยู่ในบาร์ 360 องศาของร้าน แล้วมองออกไปข้างนอก คุณก็จะพบกับความสวยงามของบรรยากาศในชั้นเดียวกัน หรือการใช้เพดานกระจกและพื้นเรืองแสง ที่ทำให้ร้านดูสว่าง กว้างขวาง และทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในอนาคต แต่ก็ยังคงความเรียบง่ายในแบบญี่ปุ่น

 

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนรักใน % Arabica คือความเรียบง่ายของเมนู และรสชาติที่มีการตั้งมาตรฐานไว้ชัดเจน จะดื่มกี่ทีต้องได้รสชาติเดิมที่เป็นมาตรฐาน เมล็ดกาแฟดิบของ % Arabica จึงไม่ใช้การขนส่งทางเครื่องบิน เนื่องจากแรงดันอากาศจะทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนแปลงไป เมล็ดกาแฟดิบเหล่านี้จึงถูกขนส่งทางเรือ เพื่อรักษารสชาติดั้งเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด บริเวณจุดศูนย์กลางของร้านเป็นที่ตั้งของเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟสัญชาติญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันมีแค่ที่นี่ที่เดียวในประเทศไทยอย่าง Tornado King Coffee Roaster ที่มีความพิเศษด้านความรวดเร็วในการคั่วเมล็ดกาแฟที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ทำให้คุณสามารถเลือกซื้อเมล็ดกาแฟดิบที่คุณชื่นชอบ และสั่งคั่วในโปรไฟล์ที่คุณต้องการ เพื่อนำกลับไปทำดื่มเองที่บ้านได้ และเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด เมล็ดกาแฟแต่ละประเภทจะมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตัวเอง สำหรับ % Arabica Blend นั้นจะอยู่ที่ 4-7 วันหลังจากการคั่ว นอกจากนี้ในแต่ละวันบาริสต้าต้องชิมเพื่อทดสอบเมล็ดกาแฟและปรับเครื่องบดเมล็ดกาแฟให้ได้รสชาติที่ตรงตามมาตรฐานของ % Arabica เนื่องจากเมล็ดกาแฟแม้จะมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน แต่สภาพดินและสภาพอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาสามารถส่งผลกับรสชาติของเมล็ดกาแฟได้ การปรับเครื่องบดเมล็ดกาแฟจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ

 

 

The Drinks:

ในช่วงนี้ % Arabica มีเมล็ดกาแฟให้เลือก 2 แบบ คือ % Arabica Blend เมล็ดกาแฟผสมสูตรพิเศษของ % Arabica นำมาคั่วระดับกลางถึงเข้ม ทำให้ได้รสชาติออกแนวช็อกโกแลต คาราเมล และมีกลิ่นของถั่ว และแบบ Single Origin จากแหล่งเพาะปลูกอย่าง Ethiopia Yirgacheffe ที่มีกลิ่นหอมของผลไม้และรสชาติเปรี้ยวอันเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับการคั่วแบบอ่อน เพราะจะได้เข้าถึงรสชาติและกลิ่นหอมที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟ ส่วนหลังจากนี้จะมีเมล็ดกาแฟที่หลากหลายมากขึ้น

 

 

กาแฟของ % Arabica แบ่งออกเป็น Espresso Based และ Drip Based ในส่วนของ Espresso Based กาแฟทุกแก้วจะถูกชงด้วยเครื่อง Slayer Espresso ที่หุ้มด้วยเกราะไม้สีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของ % Arabica ที่มีอยู่ในทุกสาขาทั่วโลก เมนูยอดนิยมของ % Arabica นั้นคงจะไม่พ้น Spanish Latte (150-180 บาท) ที่เป็นเมนูสูตรพิเศษเฉพาะของ % Arabica และมีรสชาติถูกปากคนไทย เพราะ Spanish Latte นั้นเป็นลาเต้ที่ใส่นมข้นหวานลงไปด้านล่าง ทำให้ได้รสชาติที่หวานกลมกล่อมขึ้นกว่าเดิม ส่วน Caffe Latte (130-175  บาท) ธรรมดานั้นก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะเมล็ดกาแฟ % Arabica Blend นั้นมีรสชาติออกไปทางช็อกโกแลตและคาราเมล เมื่อใส่นมลงไปจะได้ความหวานแบบธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง ในส่วนของนมที่ใช้นั้นสามารถเลือกเป็นนมถั่วเหลืองได้อีกด้วย นอกจากรสชาติ ฝีมือการวาดลวดลายลาเต้อาร์ตของเหล่าบาริสต้าก็ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน เพราะเหล่าบาริสต้านั้นถูกส่งไปศึกษามาตรฐานและวัฒนธรรมของ % Arabica ไกลถึงประเทศสิงคโปร์และประเทศญี่ปุ่น เพื่อจะได้สร้างสรรค์กาแฟรสชาติดีเยี่ยมตรงตามมาตรฐานของ % Arabica ทั่วโลก ตรงตามปรัชญาหลักของร้าน ‘See the World Through Coffee’ ส่วน Drip Based จะเป็นการ Drip แบบ Chemex ที่ถึงจะใช้เวลามากกว่า แต่จะได้กาแฟที่รสชาติเข้มข้นและหอมกว่า

 

 

สำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟแต่อยากสัมผัสความสวยงามและความตั้งใจของ % Arabica ก็มี ‘Matcha Latte’ (150-180 บาท) ที่ใช้ผงมัตฉะส่งตรงจากญี่ปุ่น หรือจะเป็น ‘Lemonade’ (150-170 บาท) ที่ใช้เลมอนสดนำมาคั้น มีทั้งแบบ Still และแบบ Sparkling เพิ่มมิติให้กับรสชาติ ทั้งสองเมนูนี้จะไม่เติมน้ำเชื่อมเลย เพราะทางร้านตั้งใจรักษารสชาติดั้งเดิมตามธรรมชาติของวัตถุดิบไว้ให้ได้มากที่สุด

 

แม้ % Arabica จะไม่มีเมนูพิเศษหรือเมนูที่ถูกปรับรสชาติให้เข้ากับความนิยมของคนไทย แต่ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตกาแฟชั้นดีมากมาย ต้องรอดูกันต่อไปว่า % Arabica จะนำเมล็ดกาแฟไทยมาใช้ในร้านด้วยหรือไม่ ส่วนการขยายสาขานั้นมั่นใจได้เลยว่า % Arabica จะมีการขยายสาขาในประเทศไทยแน่นอน 

 

% Arabica

Open: 10.00-21.00 น.

Address: ชั้น 1 ศูนย์การค้า ICONSIAM กรุงเทพฯ

Budget: 200-300 บาท

Contact: info@arabicasea.com

Website: https://www.facebook.com/arabica.th

Map:

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0