ปักกิ่ง, 28 พ.ค. (ซินหัว) - - คณะนักสำรวจชาวจีนเดินทางถึงยอดเขาโชโมลังได้สำเร็จเมื่อวันพุธ (27 พ.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อปฏิบัติภารกิจวัดความสูงของยอดเขาอีกครั้ง แต่เหตุใดนักสำรวจจึงมักออกเดินทางวัดความสูงของยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกในเดือนพฤษภาคม?
ภูเขาโชโมลังมา (Mount Qomolangma) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพรมแดนจีน-เนปาลนั้น มีลมแรงพัดปะทะตั้งแต่เดือนตุลาคม-มีนาคมและเมษายน ส่วนช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน เป็นฤดูฝนที่เกิดจากอิทธิพลของลมมรสุมอินเดีย ด้วยเหตุนี้ เดือนพฤษภาคมจึงเป็นช่วงที่สภาพอากาศสงบนิ่งมากที่สุด ทำให้เหมาะแก่การปีนเขา
การวัดความสูงภูเขาโชโมลังมาต้องอาศัยเทคโนโลยีการสำรวจและทำแผนที่ทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ อาทิ การสำรวจด้วยดาวเทียมระบุตำแหน่งบนผิวโลก (GNSS) การปรับระดับน้ำตั้งเครื่อง มาตรวัดระยะ การตรวจวัดความลึกของหิมะด้วยเรดาร์ การตรวจวัดแรงโน้มถ่วง การตรวจวัดทางดาราศาสตร์ และการสำรวจระยะไกลผ่านดาวเทียม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีนระบุว่าคณะนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยข้อมูลการวัดต่างๆ จะใช้เทคนิคการวัดทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ในการคำนวณอย่างครอบคลุม และเดินหน้าการศึกษาเชิงทฤษฎีและการตรวจสอบซ้ำ เพื่อระบุความสูงที่ถูกต้องแม่นยำของภูเขาโชโมลังมา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการคำนวณและเผยแพร่ข้อมูลราว 2-3 เดือน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 1949 นักสำรวจชาวจีนได้ทำการวัดและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์บนภูเขาโชโมลังมาแล้ว 6 ครั้ง และเผยตัวเลขความสูงของยอดเขา 2 ครั้ง ได้แก่ 8,848.13 เมตร เมื่อปี 1975 และ 8,844.43 เมตร เมื่อปี 2005
(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการปีนเขามุ่งหน้าสู่ยอดเขาโชโมลังมา เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2020)