เรามีเรื่องตลกมาฝาก รู้ไหมว่าบรรดาคุณแม่มักจะเหนื่อยอยู่เสมอและสามารถนอนหลับได้นานหลายพันปีเลยเชียวล่ะ ขณะที่คุณพ่อมีเวลานอนหลับแค่ 2 ชั่วโมงก็รอดตายแล้ว เอ่อ..เดี๋ยวก่อนมันไม่ตลกใช่ไหม? แต่ก็เป็นความจริงนะที่ฉันมักจะเหนื่อยอยู่เสมอและต้องการนอนมากกว่าสามีของฉัน ฉันเคยคิดว่านี่อาจเกิดจากกรรมพันธุ์เนื่องจากสามีของฉันเป็นเกษตรกรที่มีชีวิตตรากตรำและไม่ค่อยได้นอนหลับ ขณะที่ฉันมาจากครอบครัวที่ชอบงีบหลับเป็นงานอดิเรก พวกเราชอบหยอกล้อกันเรื่องความขี้เกียจของฉันและบางครั้งก็ลุกลามมากไปจนกลายเป็นทะเลาะกัน
ศาสตราจารย์จิม ฮอร์น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการนอนหลับแห่งมหาวิทยาลัย Lufbra และผู้เขียนเรื่อง Sleepfaring กล่าวว่า “ผู้หญิงมักจะทำงานทุกอย่างในเวลาเดียวกันและใช้สมองมากกว่าผู้ชาย ด้วยเหตุนี้พวกเธอจึงจำเป็นต้องนอนมากกว่า” ฉันชอบวิธีคิดแบบนี้จริงๆ แต่โชคไม่ดีที่มีการศึกษาใหม่ซึ่งวิเคราะห์สมองของเพศชายและเพศหญิงเพื่อนำมาหักล้างข้อพิสูจน์ก่อนหน้านี้ สุดท้ายก็พบว่าสมองไม่มีการแบ่งแยกเป็น “เพศชาย” และ “เพศหญิง” แต่เราสามารถแย้งได้ว่าอาจเป็นเพราะเงื่อนไขทางสังคมหรือความจำเป็นทำให้รูปแบบการใช้สมองของเราแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงจึงต้องทำงานทั้งวันและทุกวันหนักกว่าผู้ชาย ฉันรู้สึกเหนื่อยมากหลังจากที่ตลอดทั้งวันฉันต้องวิ่งไล่จับลูกๆ เตรียมอาหาร ทำความสะอาด จัดตารางเวลาไปรับ-ส่งลูกๆที่โรงเรียน ทำกิจกรรมต่างๆ และออกกำลังกาย บางครั้งฉันก็รู้สึกสับสนว่าทำไมการเป็นแม่ถึงได้เหนื่อยอะไรขนาดนี้
ศาสตราจารย์ฮอร์นชี้ให้เห็นว่ายิ่งในตอนกลางวันคุณใช้สมองมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งอยากจะนอนหลับเพื่อฟื้นฟูสมองมากเท่านั้น เห็นไหมว่าอย่างไรก็ตามผู้หญิงก็สมควรนอนหลับมากกว่าผู้ชาย และเหตุใดผู้หญิงจึงต้องการนอนมากกว่าผู้ชาย อาจเป็นเพราะยุ่งเกินไป? ทำงานหนักเกินไป? ถูกรบกวนโดยเสียงกรนของสามี? มูลนิธิเพื่อการนอนหลับแห่งชาติได้ให้ความกระจ่างในเรื่องดังกล่าวแล้ว
- ความยากลำบากในการนอนหลับมากกว่าผู้ชาย
- ง่วงในตอนกลางวันมากกว่า
ไม่แปลกใจหรอกที่พวกเขาจะโทษว่าเป็นเพราะความแตกต่างกันของฮอร์โมน บอกตามตรงว่าฉันเริ่มเบื่อเล็กน้อย เอะอะอะไรๆก็โทษฮอร์โมนเพศหญิง ผู้ชายก็มีฮอร์โมนเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทั้งนี้ฉันเชื่อว่าการพิสูจน์ว่าผู้หญิงต้องนอนหลับมากกว่าผู้ชายจะไม่มีวันจางหายไปตามกาลเวลาแน่นอน ดังนั้นจงทำการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต่อไปเถอะ
