ศูนย์ข่าวศรีราชา - เสื่อมหนัก..ครูยุคใหม่ใช้วิธีทำโทษรุนแรง คราวนี้ที่เมืองพัทยา หนูน้อยวัย 7 ปี ถูกใช้ไม้ตีศรีษะฐานตอบคำถามคณิตศาตร์ผิดจนญาติต้องพาไปพบแพทย์ ระบุถูกกระแทกศรีษะจนมีอาการบวมแดงหรือเลือดคั่ง แม่สุดทนโพสต์ประจาน
จากกรณีที่มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊คชื่อ “J-juneny Nuchnanrt” ที่ได้มีโพสต์ภาพเด็กผู้หญิง วัยประมาณ 6-7 ปี สภาพตาทั้ง 2 ข้างบวมแดง ศรีษะด้านข้างขวามีอาการบอบช้ำจากภายในพร้อมระบุข้อความ “เพราะบวกเลขช้านี่คือผล เอาไม้ตีหัวเด็ก ตรวจเอ็กซเรย์ 2 รอบ ศรีษะไม่ร้าวแต่ช้ำในหรือเลือดคั่ง หมอให้ยาแก้ปวด ไปแจ้งความเรียบร้อยว่าจะเอายังไง เรื่องนี้ครูต้องรับผิดชอบไม่ยอมเหมือนกัน โดนขนาดนี้ ถ้าไม่เอาเรื่องเด็กคนอื่นจะโดนเหมือนกัน”
โดยหลังจากที่ภาพและเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกนำเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของครูรายนี้ ที่กระทำการรุนแรงเกินกว่าเหตุ กับเด็กผู้หญิงวัยเพียง 6-7 ปี ที่สำคัญเรื่องราวในลักษณะนี้ก็เพิ่งจะเกิดขึ้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.ปราจีนบุรี จนกระทั่งครูผู้ก่อเหตุต้องออกมาขอโทษสังคมและครอบครัวนักเรียน รวมทั้งรับผิดชอบการกระทำด้วยการขอลาออกจากหน้าที่นั้น
ในวันนี้ ( 17 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานไปยังเจ้าของเฟซบุ๊คดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยได้พบกับ นางนุชนารถ ตุลาพันธุ์ อายุ 26 ปี ซึ่งระบุว่าเป็นแม่ของ ด.ญ.ชวัลนุช หรือ “น้องจ๊ะจ๋า” ตุลาพันธุ์ อายุ 7 ปี นักเรียนที่ถูกโพสต์ภาพถ่ายลงในโลกสังคมออนไลน์ ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับแม่ของเด็กหญิงรายนี้พบว่าน.ส.นฤมล อินทะพงษ์ ผู้อำนวยโรงเรียนฯ และครูผู้ช่วยได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมดูอาการของเด็กหญิงเช่นกัน
นางนุชนารถ บอกว่าลูกสาวของตนเองเรียนอยู่ชั้น ป.2/2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย ลูกสาวบ่นว่าปวดหัว และในครั้งแรกตนเองคิดว่าลูกคงเรียนหนักหรือไม่สบายจึงรีบพาลูกกลับบ้านหลังเดินทางไปรับที่โรงเรียน แต่เมื่อถึงช่วงกลางดึกของวันดังกล่าวกลับพบว่าบริเวณศีรษะของลูกสาวมีลักษณะบวมและช้ำ ขณะที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง และแก้มขวามีอาการบวมช้ำจากภายใน เมื่อสอบถามจึงรู้ว่าถูกครูทำโทษด้วยการใช้ไม้ตีที่ศีรษะเนื่องจากตอบคำถามวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้
“ จากนั้นจึงรีบพาลูกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบางละมุง เพื่อตรวจเช็คอาการและเอ็กซเรย์สมอง โดยแพทย์ระบุว่า ศรีษะไม่แตกร้าวแต่มีอาการช้ำในหรือเลือดคั่งจนทำให้เกิดอาการบวมแดง ก่อนให้ยามารับประทานและทา ซึ่งเรื่องถือเกิดขึ้นถือว่าไม่ถูกต้องและเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อขอพูดคุยกับทางโรงเรียนก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร”
นางนุชนารถ ยังบอกอีกว่าในวันนี้ตนเองจะพาลูกไปเอ็กซเรย์สมองที่โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่อีกครั้ง และหากพบว่ามีอาการหนักขึ้นก็จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับครูคนดังกล่าว เพราะถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุและจากนี้จะไม่พาลูกไปเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวอีกหากครูคนเดิมยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่
ด้าน นางเพ็ญจันทร์ ตุลาพันธุ์ อายุ 50 ปี ยายของเด็กหญิงเล่าว่าหลังเกิดเหตุตนเองได้พาหลานสาวไปพบครูประจำชั้น ป.2/2 ของโรงเรียนแห่งนี้แต่ก็ได้รับเพียงคำตอบ ขอโทษและแจ้งว่าใช้ไม้ตีเด็กไม่แรง ตนเองจึงพาหลานเดินทางกลับบ้านจนกระทั่งแม่ของเด็กได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นโพสต์ในโลกสังคมออนไลน์ เพื่อถามหาความยุติธรรม
ขณะที่ นางนฤมล อินทะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเผยว่าหลังทราบเรื่องได้เรียกครูประจำชั้นมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยได้รับแจ้งเพียงว่าเป็นการทำโทษที่ไม่รุนแรง โดยไม่ทราบว่าอาการของเด็กจะรุนแรงเช่นนี้กระทั่งมาเห็นภาพของเด็กในโลกสังคมออนไลน์จึงรับเดินทางมาเยี่ยมและดูอาการเพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าทางโรงเรียนจะดำเนินการให้อย่างเป็นธรรมที่สุด
“ขณะนี้ได้แจ้งเรื่องไปยังสำนักการศึกษาเมืองพัทยา เพื่อฬฆ็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และหากพบว่าครูคนดังกล่าวมีความผิดจริงก็จะดำเนินการทางวินัยและให้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องของคดีความเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองและครูจะต้องพูดคุยกันอีกครั้ง” ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าว
…
