โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เสี่ยปอร์เช่เยียวยา จ่ายก้อนแรก 1 แสน พ่อเหยื่อเรียก 12 ล้าน

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 18 พ.ย. 2562 เวลา 17.24 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2562 เวลา 22.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เสี่ยหนุ่มร้านเพชรคนขับปอร์เช่ มอบเงินเยียวยาให้ครอบครัวเหยื่อรายละ 1 แสนบาท ยืนยันวันเกิดเหตุไม่ได้เมาแต่รถแหกโค้งไปชน จยย. 2 หนุ่มสาวคู่รัก ตาย 1 คน อีก 1 คนเจ็บสาหัส พ่อหญิงสาวที่เสียชีวิตระบุเรียกค่าชดเชยไป 12 ล้านบาท เผยอยากได้คำขอโทษจากคู่กรณีตั้งแต่วันแรก ตำรวจย้ำไม่ได้ละเลยคดี ตั้งข้อหาหนักคนขับรถแล้ว

กลายเป็นกระแสดราม่าในโลกโซเชียล กรณีเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งยี่ห้อปอร์เช่ สีขาว ทะเบียน ษณ 86 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนกับรถ จยย.ฮอนด้า รีเบล ทะเบียน 6 กต 8251 กรุงเทพมหานคร เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 พ.ย. ทำให้นายวริศ ศรีลาชัยมณีกุล อายุ 31 ปี ผู้ขับขี่บาดเจ็บสาหัส และ น.ส.อันธิกา ทูลไธสง อายุ 24 ปี แฟนสาว ที่นั่งซ้อนท้าย เสียชีวิต หลังเกิดเหตุสื่อออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และผู้ขับขี่รถเก๋งคันเกิดเหตุอย่างรุนแรง

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 พ.ย. นายธีรเทพ ดุรงค์ อายุ 29 ปี คนขับ รถปอร์เช่คันเกิดเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 55/152 หมู่ 7 ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี และเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ ร้านเพชรของครอบครัว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี พร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 1 แสนบาท ให้กับ นายธนกฤต ธัญญธนภัท บิดาของ น.ส.อันธิกา ผู้เสียชีวิต และมอบเงินเยียวยาอีก 1 แสนบาทให้กับนายวริศ ศรีลาชัยมณีกุล อายุ 31 ปี ผ่านทาง บิดาของผู้บาดเจ็บ

นายธีรเทพกล่าวว่า วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 02.00 น. ขณะขับรถมาจากสุขุมวิทมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ตนขับรถมาประมาณ 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปรากฏว่าได้เกิดอุบัติเหตุแหกโค้งไปเฉี่ยวชนกับรถ จยย.คู่กรณี หลังเกิดเหตุตนนั่งรออยู่ในรถจนเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึง และได้เข้าไปดูผู้บาดเจ็บแต่ถูกกันตัวออกมา จากนั้น โทร.ไปหาเพื่อนรุ่นน้องให้มาอยู่เป็นเพื่อน ก่อนจะพาไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ และย้อนกลับมายังจุดเกิดเหตุ กระทั่งตำรวจมาตรวจสอบ กว่าจะเสร็จเกือบ 06.00 น. ก่อนเดินทางมาที่โรงพักเพื่อให้ปากคำ รับทราบข้อกล่าวหา และได้นัดเจรจากับคู่กรณีเพื่อจะมอบเงินเยียวยา ยืนยันไม่ได้คิดหนี และไม่ได้เมาสุราแต่อย่างใด

นายธนกฤต บิดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันนี้ตำรวจนัดคู่กรณีทั้งหมดมาที่โรงพัก ตนรู้สึกสบายใจขึ้นที่คู่กรณีมาเซ็นรับทราบและจ่ายเงินเยียวยาตามที่ร้องขอเป็นเงินจำนวน 12 ล้านบาท เพื่อชดเชยค่าเลี้ยงดูบุพการีที่ลูกต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ คำนวณจากลูกสาวทำงานได้เงินเดือนเดือนละ 3 หมื่นบาท หากยังมีชีวิตอยู่จนอายุถึง 60 ปี จะเป็นเงินเท่าใด เบื้องต้นคู่กรณียอมรับจะชดใช้ให้ แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจะชดใช้ให้เมื่อไหร่ และถึงจะได้เงินมากแค่ไหนก็ไม่คุ้มกับความสูญเสีย ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยเสนอข่าว มั่นใจในพลังสื่อว่าจะช่วยให้ความเป็นธรรมได้ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องคู่กรณีพยายามบ่ายเบี่ยง และเพิ่งไปร่วมงานศพลูกสาวเมื่อวานเป็นคืนแรก แต่ไม่รู้ว่าไปขอขมาหรือแค่ไปไหว้ศพเฉยๆ แต่ไม่น่าจะขอขมา ชีวิตลูกตนมีค่ามากกว่าคำขอโทษ อยากได้คำขอโทษตั้งแต่วันแรกมากกว่า แต่เพิ่งจะมาขอโทษวันนี้ สำหรับพิธีฌาปนกิจศพลูกสาวจะจัดขึ้นที่วัดออเงิน ในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้

พ.ต.อ.วัชระพงศ์ ฉุยฉาย ผกก.สภ.ปากคลอง-รังสิต กล่าวว่า คดีนี้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้แจ้งข้อหากับนายธีรเทพ ดุรงค์ อายุ 29 ปี คนขับรถปอร์เช่ ว่า “ขับรถประมาท เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับ บาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย” ส่วนเรื่องการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหาย ตำรวจไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้คู่กรณีเจรจาและตกลงกัน เมื่อตกลงกันได้ อย่างไร ตำรวจจะลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเรื่องของคดีต้องดำเนินการสอบสวนและส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันคดีนี้ตำรวจไม่ได้ละเลยหรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0