วันที่ 18 พ.ย. 62 ความคืบหน้าจากกรณีอุบัติเหตุรถยนต์ปอร์เช่ ประสบอุบัติเหตุข้ามเลนไปชนรถจักรยานยนต์ จนทำให้นายวริศ ศรีลาชัยมณีกุล อายุ 31 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บาดเจ็บสาหัส แขนหักผิดรูป ขาขาด และนางสาวอันธิกา ทูลไธสง อายุ 24 ปี คนซ้อนท้ายบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 พ.ย. บริเวณ ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี โดยครอบครัวได้ออกมาเรียกร้องเพื่อให้คู่กรณีรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ล่าสุด เวลา 16.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต นายธีรเทพ ดุรงค์ศักดิ์ อายุ 29 ปี คนขับรถปอร์เช่คันดังกล่าว ได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับนายธนกฤต ธัญญธนภัทร พ่อของผู้เสียชีวิต และนายลือชัย ศรีลาชัยมณีกุล พ่อผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีการมอบเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นรายละ 100,000 บาท
โดยนายธีรเทพ เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง รถตนมองไม่เห็นรถของอีกฝ่ายที่สวนเลนมา จึงเกิดชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ ขณะนั้นตนขับรถมาด้วยความเร็วเพียงแค่ 60-70 กม./ชม. และได้เปิดกระจกขับมาด้วย เพราะถนนไม่เรียบจึงไม่สามารถขับเร็วได้ ซึ่งช่วงเกิดเหตุตนเห็นไฟของรถจักรยานยนต์ช่วงที่กำลังจะชนแล้ว เพราะรถของตนค่อนข้างเตี้ย แต่รถจักรยานยนต์อยู่ในระดับที่สูงกว่า ส่วนเหตุที่ตนเบรกไม่ทันเป็นเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ซึ่งสาเหตุที่ชนน่าจะเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเข้าโค้งมาพร้อมกัน แล้วมาชนกันที่เส้นกลางถนนพอดี
ทั้งนี้ นายธีรเทพยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เมาตามที่มีข่าวออกมา ซึ่งตนโทรศัพท์ตามรุ่นน้องมาที่เกิดเหตุจริง เพราะอยากให้มาอยู่เป็นเพื่อน เพราะต้องอยู่ถึงเวลา 06.00 น. ส่วนที่มีข่าวว่าตนยังให้รุ่นน้องขับรถพาไปร้านสะดวกซื้อยอมรับว่าเป็นความจริง แต่เป็นช่วงที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายขึ้นแล้ว และตนก็รู้สึกอยากอาเจียน จึงไปซื้อน้ำเท่านั้น โดยยืนยันว่าตนได้เดินลงไปดูคนเจ็บแต่ไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะเจ้าหน้าที่กำลังให้การช่วยเหลืออยู่ ซึ่งตนก็ค่อนข้างช็อก ตนไม่ได้คิดหลบหนีไปไหน เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านตนเพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น ตนได้กล่าวขอโทษกับพ่อผู้เสียชีวิตสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษหากทำให้พ่อรู้สึกว่าตนไม่ได้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ตอนนี้สภาพจิตใจของตนแย่มาก ตนดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวทุกวัน โดยที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนน่าจะขับรถเร็วนั้น ยืนยันว่าจุดเกิดเหตุถนนไม่เรียบ และรถตนก็เตี้ยตนไม่สามารถขับเร็วได้ ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ลงจากรถทันทีเพราะประตูเปิดไม่ได้ และพยายามจะงัดประตูด้วยตนเองก่อนเดินลงมา ซึ่งก็เป็นระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
ด้านนายธนกฤต ธัญญธนภัทร พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังการพูดคุยเจรจาตนก็พอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งนายธีรเทพ คนขับรถปอร์เช่ ได้จ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นมาจำนวน 100,000 บาท เป็นค่าช่วยจัดการงานศพ แต่มีการตกลงกันว่าอีกฝ่ายจะชดใช้ค่าเสียหายให้ตนจำนวน 12 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้ต้องจ่ายภายใน 60 วัน มีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นอกจากนี้ นายธนกฤต กล่าวต่อว่า ตนไม่เชื่อว่านายธีรเทพจะไม่เมา รวมถึงไม่เชื่อว่าใช้ความเร็วแค่ 70 กม./ชม. เพราะหากขับในระดับนั้นจริงน่าจะเบรกอยู่ และลูกตนก็ไม่น่าจะกระเด็นออกจากรถและเสียชีวิตได้
https://youtu.be/OcHeycCqFBo