โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'เสี่ยท็อป'จากชีวิตหรูเข้าสู่คุก แม่เก็บ8ล.ไว้ให้ทำทุนดีกว่า

เดลินิวส์

อัพเดต 19 ต.ค. 2562 เวลา 00.15 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. 2562 เวลา 18.12 น. • Dailynews
'เสี่ยท็อป'จากชีวิตหรูเข้าสู่คุก แม่เก็บ8ล.ไว้ให้ทำทุนดีกว่า
ไทม์ไลน์ “เสี่ยท็อป” หลังถูกจับหนีฟังคำพิพากษาคดีเช็คเด้ง ถูกจำคุก 6 เดือน ด้าน “แม่เสี่ยท็อป” ยันไม่ช่วยลูก เงิน 8 ล้านเก็บไว้ หากพ้นโทษเอาไปทำทุนดีกว่า ก่อนหน้านี้ขายที่ดินชดใช้แล้วแต่ไม่จบ อย่างนี้เรียกว่า ตบทรัพย์

"เดลินิวส์ออนไลน์" ขอสรุปไทม์ไลน์หลังตำรวจจับกุมตัว นายธนณัฎฐ์ สิริปิยพร หรือ "ท็อป" หรือ เสี่ยท็อป เสี่ยหมื่นล้าน ในคดีสั่งจ่ายเช็กเด้ง ขณะเดินทางกลับเข้าประเทศไทยที่สนามบินดอนเมือง หลังเดินทางไปฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนคุมตัวไปส่งยังศาลแขวงพระนครเหนือตามหมายจับ กระทั่งต้องรับโทษตามคำพิพากษาเดินหน้าเข้าสู่เรือนจำมาให้เข้าใจกันอีกครั้งดังนี้ 

หลังตำรวจจับกุมตัว "เสี่ยท็อป" คาสนามบินดอนเมืองกลางดึกคืนวันที่ 17 ต.ค. จากนั้นได้ส่งตัวไปคุมขังที่สน.ดอนเมือง เพื่อรอนำตัวไปส่งศาลแขวงพระนครเหนือในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น (18 ต.ค.) เสี่ยท็อป เปิดเผยว่า คดีเช็กเด้งเป็นคดีเก่าตั้งแต่ปี 59 ตนได้ชำระค่าเสียหายหมดแล้ว *ก่อนเดินทางกลับรู้อยู่แล้วว่า จะต้องโดนจับ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งก็ขอต่อสู้ในทุกคดี รวมทั้งเรื่องแต่งงานที่ผ่านมา โดยจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง และจะดำเนินการตามหลักฐาน รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เนื่องจากตนถูกหลอกแต่งงาน ไม่ใช่เขาถูกเราหลอก *

ต่อมาตำรวจคุมตัว "เสี่ยท็อป" นำตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ตามหมายจับระหว่างพิจารณาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.8062/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ.9319/2559  ข้อหากระทำความผิดฐานพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 โดยคำร้องพฤติการณ์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2557 น.ส.สุภาพรณ์ อัมภาพันธุ์กิจ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ ในคดีออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น โดย น.ส.สุภาพรณ์ ได้รับการติดต่อจาก นายธนณัฏฐ์ เพื่อที่จะขอซื้อคลินิกเสริมความงามชื่อไอซิสคลินิก ที่ น.ส.สุภาพรณ์เป็นเจ้าของ โดยพูดสร้างความน่าเชื่อถือ พูดจาหว่านล้อมต่างๆ จนทำให้ น.ส.สุภาพรณ์ตัดสินใจขายคลินิกให้แก่ นายธนณัฏฐ์ ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท

*โดยที่ นายธนณัฏฐ์ ได้สั่งจ่ายเช็คให้ น.ส.สุภาพรณ์ ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท แต่หลังจากที่ น.ส.สุภาพรณ์นำเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน และหลังจากนั้นนายธนณัฏฐ์ได้นำชื่อคลินิกไปใช้ในการแอบอ้างหลอกลวงผู้อื่นในทางเสียหาย จนทำให้คลินิกของ น.ส.สุภาพรณ์ เสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก น.ส.สุภาพรณ์จึงดำเนินคดีนายธนณัฏฐ์ให้ถึงที่สุดเพื่อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว หลังจากที่ศาลได้นัดฟังคำพิพากษา นายธนณัฏฐ์ได้หลบหนีไม่มาขึ้นศาล ศาลแขวงพระนครเหนือจึงออกหมายจับลงวันที่ 14 พ.ย. 2559 *

ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรพล สินธุนาวา ทนายความของเสี่ยท็อป ได้เดินทางมายังศาลแขวงพระนครเหนือ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์จำนวน 3 แสนบาท เพื่อใช้ในการประกันตัวนายธนณัฏฐ์ ส่วนขั้นตอนขณะนี้ที่ศาลอยู่ระหว่างรอศาลพิจารณาคดี

และหลังจาก "เสี่ยท็อป" ขึ้นศาล ศาลได้แจ้งทราบว่าวันที่ 14 พ.ย.59 ได้นัดให้มาฟังคำพิพากษาแต่จำเลยไม่มา และไม่อ้างเหตุแห่งความจำเป็น โดยอ้างว่าเพียงว่า ติดภารกิจที่ต่างประเทศ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย สั่งจำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ แก้การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมกับให้ออกหมายจับจำเลยไว้ จากนั้นจำเลยไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทำให้ขาดอุทธรณ์ เป็นผลให้คดีถึงที่สุดแล้ว และให้รับโทษตามคำพิพากษาคือ จำคุก 6 เดือน จึงต้องส่งตัวไปคุมขังที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 

"หลังเสี่ยท็อปรู้ว่าจะต้องรับโทษก็บอกว่ามีความกังวลในเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน และกังวลเรื่องเงินจากการทำธุรกิจที่จะได้รับประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นธุรกิจด้านไหน และเกี่ยวกับเรื่องอะไร" ทนายความเสี่ยท็อป เผย จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ใส่กุญแจมือ "เสี่ยท็อป" คุมตัวขึ้นรถไปเรือนจำพร้อมผู้ต้องหาคดีอื่นๆ โดยเจ้าตัวมีสีหน้าเรียบเฉย แสยะยิ้มให้นักข่าวแต่ไม่ตอบคำถามใดๆ

ด้านนางญาณี รักติปกรณ์ อายุ 72 ปี แม่เสี่ยท็อป ให้สัมภาษณ์หลังจากรู้ข่าวลูกชายถูกจับและต้องเข้าเรือนจำว่า "แม่จะไม่ไปช่วยเหลือ หรือช่วยประกันตัวลูกชาย คนที่แจ้งจับเป็นเจ้าของคลินิกเสริมสวย ซึ่งท็อปตกลงจะมีการซื้อขายกัน โดยท็อปเขียนเช็คไว้ให้ เมื่อเช็คถูกปฏิเสธการสั่งจ่าย เจ้าของร้านเสริมสวยจึงไปฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งในเรื่องนี้แม่ได้นำโฉนดที่ดินที่คลองสี่ จ.ปทุมธานี ชดใช้ค่าเสียหายให้ไปแล้ว ทำไมเขาจึงมาแจ้งความอีก ซึ่งฝ่ายร้านเสริมสวยก็ได้โอนโฉนดไปเป็นของเขาเรียบร้อยแล้ว เช็คก็ไม่คืนให้แล้วทำไมมาแจ้งจับกันอีก"

  

เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า จะไม่ไปให้การช่วยเหลือจริงๆ หรือ แม่เสี่ยท็อปตอบว่า "ไม่ไปๆ ให้เขาต่อสู้กันเอง เงิน 8 ล้าน แม่จะเก็บไว้ดีกว่า หากเขาพ้นโทษออกมาเอาเงิน 8 ล้านไปทำทุนดีกว่า อย่างนี้เขาเรียกว่าตบทรัพย์กันนี่ ค่าเสียหายจ่ายไปแล้ว จะเอาอะไรอีก แม่คงไม่มีอะไรจะพูด เพราะเหมือนเป็นการทับถมเขา ทุกวันนี้ท็อปไปไหนก็ถูกคนประณามกันไปหมดแล้วว่าเขาขี้โกง"

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0