เสียดายอนาคต หนุ่มเพิ่งสอบติดนายสิบตำรวจ คิดสั้น วิ่งราวทอง ก่อนเปิดปากสารภาพเป็นช่างซ่อมสีรถค่ายดัง แต่เงินไม่พอใช้ จึงลงมือก่อเหตุ เผยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง
วิ่งราวทอง วันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี ว่าเมื่อคืนวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี และ พ.ต.ท.ศิริพงษ์ สุดา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำ ของ น.ส.สุพัตรา พวงมาลี อายุ 29 ปี ที่บริเวณถนนสรรพสิทธิ์ หน้าโบสถ์คริสต์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ผู้ก่อเหตุใช้รถจยย.ฮอนด้าคลิก หมายเลขทะเบียน กช-1990 อุบลราชธานี เป็นยานพาหนะหลบหนีไปตามถนนสรรพสิทธิ เจ้าหน้าที่ได้ขี่รถจยย.และรถยนต์ไล่ติดตามผู้ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด
จนกระทั่งผู้ก่อเหตุขี่รถจยย.เสียหลักล้มลงบริเวณริมถนนสมเด็จ หน้าร้านวราสัตวแพทย์ ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายเมธา เจริญยุทธ อายุ 23 ปี ชาว ต.นาคำ อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 เส้น
พ.ต.อ.สานิตย์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายเมธา ได้ก่อเหตุเวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมจี้สร้อยลายคิตตี้ น้ำหนัก 1 สลึง จากนางฐิติพร แสนทวีสุข อายุ 38 ปี เจ้าของร้านขายกาแฟ อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี และมาก่อเหตุอีกในครั้งนี้ จึงนำตัวไปตรวจค้นห้องพักพบสิ่งของภายในห้องเป็นหมวกกันน็อกเต็มใบ เสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบที่ใช้ก่อเหตุ
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ตระเวนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ดังกล่าวจริง เนื่องจากตนทำงานเป็นช่างซ่อมแผนกสีรถยนต์ยี่ห้องดังแห่งหนึ่ง ที่ไม่พอใช้ จึงได้ตระเวนวิ่งราวทรัพย์ ได้เงินมาก็จะนำไปใช้เที่ยวเตร่ เมื่อเงินหมดก็จะก่อเหตุซ้ำเพื่อหาเงินใช้ไปเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาพยายามวิ่งราวทรัพย์ (สร้อยคอทองคำ) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม
จากการตรวจสอบกับบุคคลที่รู้จักกับ นายเมธา ทราบว่า นายเมธา เพิ่งสอบติดนักเรียนนายสิบตำรวจ ที่เปิดสอบครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งการก่อเหตุในครั้งนี้จะทำให้เสียอนาคตในการรับราชการด้วย
