โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เสรีพิศุทธ์ ฉะแหลก 2 ส.ส. ปารีณาโต้กลับ แปรปรวน

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 14 พ.ย. 2562 เวลา 16.58 น. • เผยแพร่ 14 พ.ย. 2562 เวลา 22.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

นายกฯปรับแก้ลายเซ็นใหม่

“เสรีพิศุทธ์” ซัด “สิระ” มีสิทธิอะไรเสนอปลด ยัน ปธ.กมธ.ป.ป.ช.โควตาฝ่ายค้าน ข้องใจแอบซุบซิบ ส.ส.ฝ่ายค้านมีแจกกล้วยหรือเปล่า หยามแค่สวะไม่สนใจ ฉะ “ปารีณา” ยังไม่รู้เงาหัวตัวเองจะถูกตั้งอนุฯสอบ ท้า “บิ๊กตู่” เป็นลูกผู้ชายจริงให้มาแจง กมธ. “เอ๋” เหน็บคนอารมณ์แปรปรวน จ่อฟ้อง “ชวน” ให้ปรามพฤติกรรม “ชวน” ชี้ช่องล่าชื่อปลด ปธ.กมธ.ได้ “บิ๊กตู่” เมินโดนตามตื๊อไม่เลิกบอกปล่อยเขา “ป้อม” ยักไหล่ไม่สนถูกรบเร้า คนสนิทท้าแน่จริงให้ออกเป็นคำสั่งเรียก เปิดหนังสือชี้แจง “ตู่-ป้อม” ยัน กมธ.ไร้อำนาจสอบ กระตุกให้ทำหน้าที่ ตามข้อบังคับ “ชวน” ออกปากเตือน ส.ส.ทำสภาให้น่าเชื่อถือ นายกฯเล็งจัดมีตติ้งกระชับสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล

หลังจากเปิดศึกซัดกันนัวกลางวงประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ล่าสุด ทั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประธาน กมธ.ฯ กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กมธ.ฯ ยังคงตั้งท่างัดข้อกันหนักขึ้น

“เสรีพิศุทธ์” เฉ่ง “สิระ” แค่สวะ

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กมธ.ป.ป.ช. เตรียมเสนอปลดออกจากตำแหน่งประธาน กมธ.ฯ ว่า นายสิระอยู่ในห้องประชุมก็ เรียบร้อยดี แต่พอออกนอกห้องกลับมาเสนอปลด ประธาน คนอย่างนี้เป็นคนอย่างไร มีสิทธิ์อะไรจะมาปลด หรือมาเปลี่ยน เป็นขบวนการทางการเมืองที่ฝ่ายรัฐบาลเอามาใช้ในสภาฯ ส่วนที่นายสิระอ้างว่ามี กมธ.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลสนับสนุนให้ปลดถึง 8 คนนั้น ไม่รู้ไปซื้อใครมาบ้างล่ะ “ตั้งแต่รับราชการมาที่นี่แย่ที่สุดเป็นแหล่งทุจริตมาก ใครจะมาพูดกับผมว่ามา เพราะที่นี่พูดกันด้วยเงินหมด เมื่อวานเห็นดึงตัวฝ่ายเราไปคุยด้วย ก็ไม่รู้แจกกล้วยหรือเปล่า อย่าไปสนใจเลยสวะ ส.ส.พวกนี้เดี๋ยวจัดการหมด” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

งงชาวหลักสี่เลือกมาได้ไง

เมื่อถามว่า ที่นายสิระเสนอให้ปลดประธาน กมธ.สามารถทำได้หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ทำไม่ได้ เห็นเขาบอกว่าเมื่อปลดตนแล้วจะเป็นประธานเอง แต่ตำแหน่งนี้เป็นโควตาฝ่ายค้าน นายสิระอยู่ฝ่ายรัฐบาลจะมาเป็นได้อย่างไร อ้าปากก็ไม่รู้อะไรสักอย่าง ไม่รู้พี่น้องประชาชนชาวหลักสี่เลือกมาได้อย่างไรคนอย่างนี้ ไม่รู้อะไรสักอย่าง ตำแหน่งประธาน กมธ.เขาเลือกกันในสภาฯ แสดงว่าที่ผ่านมาไม่เคยมาประชุมเลยจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตนจำได้หมดว่าพรรคไหนได้โควตา กมธ.กี่คณะ นายสิระไปหลับอยู่ที่ไหน ตำแหน่งประธาน กมธ.ป.ป.ช.เป็นของฝ่ายค้าน ใครจะมาเปลี่ยน แม้แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังเปลี่ยนไม่ได้เลย

ท้า “บิ๊กตู่” ลูกผู้ชายก็มาแจง กมธ.

เมื่อถามว่า ต้องไปทำความเข้าใจกับ กมธ.หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ไม่ต้องคุยเพราะทำตามหน้าที่ ไม่เป็นประธานมันจะตายหรือ เป็นก็เป็นไม่เป็นก็ไม่เป็น เพราะมีเสียงเดียวใน กมธ. แล้วโหวตให้ตนเป็นประธานกันเอง เมื่อเป็นแล้วทำงานถูกใจประชาชนหรือไม่ จะเรียกนายกฯ และรองนายกฯ มาสอบถามข้อเท็จจริงใน กมธ.ชุดนี้แล้วผิดตรงไหน ทำไมไม่ยอมมา บอกเป็นชายชาติทหารปฏิญาณตนไว้ว่าจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่พอ กมธ.เรียกทำไมไม่ยอมมาสักที เป็นหน้าที่อย่ามาบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ ขอให้มาแบบลูกผู้ชาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังมา ทำไมคนอื่นยึกยักนัก อย่าเอาการเมืองมาเล่น ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเสรีรวมไทยเห็นว่าไม่ต้องการเล่นเกมเล่นกล รัฐมนตรีหลายคนเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ยังไม่มีข้อทุจริตคอร์รัปชันหรือข้อร้องเรียนใดๆ ควร ให้โอกาสทำงาน หากจะมีอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นการอภิปรายรายบุคคล เช่น รัฐมนตรีเก่า ไม่ใช่ไม่ชอบใจใครแล้วจะมาอภิปราย

“ปารีณา” ยังไม่รู้เงาหัวตัวเอง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กมธ.ป.ป.ช. ก่อนเข้ามาก็ซ่า บอกจะขุดคุ้ยตนเรื่องการจัดซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไทเกอร์ ถือว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไปฟังเขามาแล้วเอามาพูดต่อ เมื่อวานในที่ประชุมยังถามเลยว่าไม่เอาเรื่องมอเตอร์ไซค์ไทเกอร์มาเสนอหรือ ตนจะบรรจุวาระให้ก็ไม่ตอบ คนอย่างนี้ไม่รู้เรื่องประชุมอยู่ก็มานั่งเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจอะไรเลย มาถึงก็มายกมือค้านไม่ให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ. ประวิตรมาชี้แจง พอเสร็จแล้วก็เก็บของออกจากห้อง มารยาทอย่างนี้มีด้วยหรือ ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะตั้งอนุ กมธ.สอบตัวเอง แต่ยังไม่มีแนวทางปลด น.ส.ปารีณาออกจาก กมธ. ยังเป็นเด็กจะให้ทำงานไปก่อน

“เอ๋” เหน็บอารมณ์แปรปรวน

ด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตั้งเรื่องสอบการครอบครองที่ดิน ภบท.5 จำนวน 1,700 ไร่ ที่ จ.ราชบุรี ขณะที่ตนไม่อยู่ในห้องประชุมนั้น เป็นเพราะอารมณ์แปรปรวน หลายคนคงไม่เข้าใจ แต่ตนเข้าใจ เพราะมีเพื่อนผู้หญิงเยอะเวลามีประจำเดือนจะอารมณ์แปรปรวน น่าจะเป็นนิสัยของแต่ละคน แต่ตนทนได้ ยืนยันจะทำหน้าที่ กมธ.ต่อไป พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์คอยจับผิดตนคนเดียว สัปดาห์หน้าจะเสนอให้เปลี่ยนตัวประธานกมธ.ฯใหม่ มั่นใจว่าเสียงในที่ประชุมเพียงพอ เพราะคุยกับเพื่อนคนอื่นแล้ว เห็นตรงกันว่าควรเปลี่ยนตัวประธาน กมธ.ฯ หลายคนรู้สึกไม่ไหวแล้ว การทำงานที่สภาฯกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มันต่างกัน ส.ส.แต่ละคนมีเอกสิทธิ์ มีสิทธิที่จะลงมติหรือเลือกงานอะไรก็ได้

ฟ้อง “ชวน” ปรามพฤติกรรม

น.ส.ปารีณากล่าวอีกว่า ประธานฯไม่สามารถไปบังคับใครให้ทำตามใจได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็น ส.ส.ใหม่อาจยังไม่เข้าใจ หลายเรื่องทำผิดกฎหมาย เช่น การเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรมาชี้แจง แม้จะมีอำนาจ แต่ผู้ถูกเชิญมีสิทธิมอบตัวแทนมาชี้แจง กมธ.ไม่มีสิทธิไปบังคับ เบื้องต้นจะร้องเรียนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ปรามพฤติกรรม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ยังไม่ขอดำเนินคดีอาญาอื่นๆ เนื่องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อายุมากแล้ว อยากให้อยู่นานๆ จึงแค่ตักเตือน หวังว่าจะปรับเปลี่ยน และขอเตือน กมธ.คนอื่นอย่าตามใจประธาน เพราะอาจเข้าข่ายกระทำความผิดไปด้วย ตนไม่เคยมีปัญหา แต่ กมธ.ชุดที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นประธานมีปัญหามาตลอด สังคมจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครที่อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงมีประจำเดือน

“ชวน” ชี้ล่าชื่อปลด ปธ.กมธ.ได้

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กมธ.ป.ป.ช. เตรียมล่ารายชื่อปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากตำแหน่งประธาน กมธ.ป.ป.ช. เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมว่า สามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมาธิการในชุดนั้น เพราะกรรมาธิการแต่ละชุดเมื่อได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ จะเลือกประธานกันเอง

เชิญ มท.1 เเจงจัด ลต.ท้องถิ่นช้า

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลถึงความล่าช้าในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย บอกว่ายังไม่พร้อมจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยไม่ยอมให้เหตุผล ขณะที่ กกต.ประกาศว่าพร้อมจะจัด เราต้องการคำตอบจากนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ว่าความไม่พร้อมเกิดจากอะไร โดยวันที่ 20 พ.ย. จะเชิญ รมว.มหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ กกต. มาชี้แจงขอคำตอบที่ชัดเจนต่อไป

เมิน “เสรีพิศุทธ์” ตามตื๊อไม่เลิก

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สั้นๆก่อนเป็นประธานหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. ยังคงยืนยันเชิญนายกฯไปชี้แจงรอบที่ 4 กรณีการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนในวันที่ 20 พ.ย. โดยขู่ว่าหากไม่เข้าชี้แจงรอบนี้เตรียมดำเนินคดีอาญาว่า “ปล่อยเขา ก็แล้วแต่” ต่อมาหลังประชุมนายกฯพยายามปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว โดยกล่าวเพียงว่า “อย่ามีเลยเรื่องการเมือง ฉันเหนื่อยแล้ว ขี้เกียจดูข่าวความขัดแย้ง เรามัวเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

“ป้อม” ยักไหล่ไม่สนถูกรบเร้า

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ก็ว่ากันไป ยังไม่รู้ว่าจะไปด้วยตัวเองหรือไม่ เมื่อถามว่า กมธ.ชุดดังกล่าวระบุว่าหากไม่มาชี้แจงด้วยตัวเอง อาจดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้เขาจะทำอะไร เมื่อถามว่าคิดว่ามีนัยอะไรหรือไม่ เพราะได้ยื่นชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว พล.อ.ประวิตรตอบว่า ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว และเป็นคนลงนามในหนังสือดังกล่าวด้วยตัวเอง ส่วนจะมีนัยหรือไม่นั้นตนไม่รู้ เมื่อถามถึงกรณี 5 พรรคเล็กประกาศจับมือกันพร้อมโหวตสวนมติรัฐบาล หากรัฐมนตรีไม่สามารถตอบในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีๆ ทุกคนก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ที่ว่าจับกลุ่มนั้นมีใครบ้าง มีกี่คน ไม่ต้องห่วง เมื่อถามถึงการเตรียมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พล.อ.ประวิตรตอบว่า พรรคพลังประชารัฐส่งผู้สมัครลงแน่นอน

ท้าแน่จริงออกเป็นคำสั่งเรียก

นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ. ป.ป.ช. ไม่รับหนังสือชี้แจงของนายกฯและรองนายกฯ ว่า ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรลงนามไปแล้ว และตอบครบแล้ว ไม่เข้าใจในสิ่งที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ทำ หากคิดว่ายังมีประเด็นที่เป็นข้อสงสัย ขอให้กำหนดเป็นประเด็นๆมา จะได้ตอบไปเป็นข้อๆ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมสภาฯ ระบุไว้ว่าการชี้แจงจะไปชี้แจงด้วยตนเอง มอบหมาย หรือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยืนยันจะให้นายกฯและ พล.อ.ประวิตรไปชี้แจงด้วยตัวเอง นายประสานตอบว่า เป็นสิทธิของเขา ความจริงการเชิญของ กมธ.ป.ป.ช. ทั้ง 3 ครั้ง เป็นการเชิญตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่ใช่เชิญตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียกแต่ต้องดูเป็นอำนาจ กมธ.หรือไม่

เมื่อถามย้ำว่ามีแนวโน้มที่ พล.อ.ประวิตรจะเดินทางไปเองหรือไม่ นายประสานตอบว่า ตอบไม่ได้ ภารกิจของทั้ง 2 ท่านเยอะมาก หากไม่ไป พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็ไม่สามารถแจ้งดำเนินคดีทางอาญาได้ เพราะมีกระบวนการอยู่ ต้องมีมติอีกครั้งว่าเป็นการเรียกตาม พ.ร.บ.ตามคำสั่งเรียก ถึงจะเข้ากระบวนการนี้ แต่ต้องมาดูตามกฎหมายว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการตาม พ.ร.บ.ตามคำสั่งเรียกแล้ว อยู่ในกฎเกณฑ์อำนาจหน้าที่ของ กมธ.ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯหรือไม่ หากเรียกโดยไม่ชัดเจน หรือนอกเหนืออำนาจ ก็เป็นการใช้อำนาจที่นอกเหนือจากกฎหมายให้อำนาจไว้ ทุก กมธ.เป็นแบบนี้ ไม่ใช่เฉพาะ กมธ.ป.ป.ช.

ยันไร้อำนาจสอบปมถวายสัตย์ฯ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ลงนามในหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง กมธ.ป.ป.ช. มีเนื้อหาสรุปว่า หน้าที่ของ กมธ.ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 129 วรรค 2 ว่า การสอบหาข้อเท็จจริงต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของสภาฯ เรื่องการถวายสัตย์–ปฏิญาณ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา โดยมีเหตุผลสรุปได้ว่า “การถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ดังกล่าว จึงไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบขององค์กรตามรัฐธรรมนูญใด” จึงเห็นว่าสภาฯ และกรรมาธิการ ไม่อาจตรวจสอบในเรื่องเดียวกันนี้ ส่วนเรื่องการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เห็นว่าคณะรัฐมนตรีได้ถวายสัตย์ปฏิญาณเฉพาะพระพักตร์พระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 แล้ว และได้ชี้แจงสภาฯไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ขอถือเอาคำชี้แจงนั้นเป็นคำชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช. โดยจะไม่ขอตอบคำถามอื่นใดในประเด็นนี้อีก และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ที่ ครม.เสนอ ที่ประชุมสภาฯมีมติรับหลักการในวาระแรก จึงถือได้ว่าเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติถูกต้องครบถ้วน ไม่มีเหตุผลที่ กมธ. หรือสภาฯ จะมีความเห็นเป็นอื่น

เตือนให้ทำหน้าที่ตามข้อบังคับ

นางนฤมลกล่าวอีกว่า กมธ.ตั้งขึ้นตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระบุขอบเขตหน้าที่และอำนาจไว้ชัดเจน กมธ.ป.ป.ช.ไม่ได้แจ้งว่ามีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต นายกฯจึงมอบหมาย รมช.กลาโหม เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผอ.สำนักงบประมาณ และเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังรับทราบประเด็น แถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นแทน นายกฯได้ดำเนินการชี้แจงเรื่องดังกล่าวตามที่ กมธ.ได้แจ้งมาครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ จึงขอให้ กมธ.ปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ หากมีประเด็นใดที่ต้องการทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ นายกฯพร้อมให้ความร่วมมือ

ผู้ตรวจฯรับคำร้องสอบอำนาจ กมธ.

นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการ แผ่นดิน เมื่อวันที่ 12 พ.ย. มีมติรับคำร้องที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภามาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 ที่ให้อำนาจคณะกรรมาธิการมีอำนาจออกคำสั่งเรียกเอกสารจากบุคคล หรือเรียกบุคคลใดมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ไว้พิจารณาและมีคำสั่งให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานผู้ตรวจฯ ทำการศึกษาประเด็นข้อกฎหมายต่างๆโดยเร็ว และให้มีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาในวันที่ 15 พ.ย. เมื่อถามว่าผู้ตรวจการฯรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว กมธ.ฯต้องระงับการเชิญนายกฯมาชี้แจงประเด็นถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนไว้ก่อนหรือไม่ นายรักษเกชาตอบว่า มติของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้มีผลผูกพันทุกองค์กร องค์กรที่มีหน้าที่ชี้ขาดคือศาลรัฐธรรมนูญ เป็นดุลพินิจของ กมธ.ฯว่าจะเห็นอย่างไร

“บิ๊กตู่” ชงจัดมหกรรมดนตรีโลก

ช่วงเช้าวันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทย เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทย มีตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ หอการค้า และสมาคมด้านการท่องเที่ยวเข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องการท่องเที่ยวมีหลายส่วนเกี่ยวข้อง สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุด คือการดูแลผู้มีรายได้น้อย ต้องอาศัยภาคธุรกิจมาช่วยทำให้คนไทยทุกคนมีความสุขมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต้องเข้มแข็งไปด้วยกัน เปรียบดั่งไม้ไผ่มัดรวมกันเป็นกำจะหักยากและแข็งแรงขึ้น ต่อมานายกฯให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ข้อสำคัญคือทุกคนต้องรู้จักเผื่อแผ่แบ่งปัน ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็ก อย่างร่วมกันจัดกีฬา จัดมหกรรมดนตรี ตนคิดมานานแล้ว การเอานักดนตรีที่มีชื่อเสียงของโลกมาจัดแสดงในสถานที่สำคัญสวยงามของไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยว

“บิ๊กป๊อก” ปล่อย “เอาตามสะดวก”

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวเกิดความระหองระแหงในพรรคร่วมรัฐบาล และอาจมีการโหวตสวนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่มี ไม่ทราบ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเครื่องมือในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีอะไร แต่จะโหวตสวนก็เกินไป ให้เริ่มอภิปรายก่อนไหม และใครจะโหวตอย่างไรเอาตามสะดวก ประชาธิปไตยใช้คำว่าโหวต ไม่ได้บังคับ ถ้าจะโหวตออกมาก็ได้สองทาง ก็ให้เป็นไป ประชาชนจะได้ไม่ต้องกังวลมาก ไม่ต้องไปใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ เมื่อถามว่าพรรคร่วมต้องมีการพูดคุยเพื่อกระชับความสัมพันธ์หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ ให้มันเป็นไปเถอะ”

เล็งจัดมีตติ้งกระชับสัมพันธ์

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความมั่นใจในเสียงพรรคร่วมรัฐบาลที่มีข่าวว่าระหองระแหงกันอยู่ ว่า ปัญหาของการเมืองพรรค การเมือง ไม่ใช่มีเฉพาะรัฐบาล ฝ่ายค้านเองก็มีปัญหา เมื่อทำงานกันไปมีเสียงปริ่มน้ำก็มีบ้าง แต่มองว่าเสียงรัฐบาลวันนี้ทุกคนทำงานอย่างเข้มแข็ง เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีปัญหาหรือไม่ มีข่าวนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่อาจถูกอภิปรายถ้าถูกปรับออก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะออกด้วย นายพุทธิพงษ์ตอบว่า เสถียรภาพรัฐบาลมั่นคงและสามัคคีในพรรคร่วม รัฐมนตรีที่มาจากทุกพรรคก็ทำงานกันเข้มแข็ง เมื่อถามต่อว่าสมาชิกพรรคภูมิใจไทยบางคนพูดว่ามีคนในรัฐบาลแทงข้างหลังกันเอง นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ยังไม่เห็น ทุกคนพูดคุยกันดี คิดว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เร็วๆนี้แกนนำแต่ละพรรคน่าจะมีการหารือร่วมกันก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯกำลังหาเวลาเพื่อพบปะพูดคุยกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯอยากพบปะพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการบ้าง ครั้งต่อไปอาจมีโอกาสพบปะพูดคุยกับ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล ส่วนปัญหาการทำงานใน กมธ.คงต้องปรับตัว อาจแรงหน่อย สักพักประธานฯ คงพูดคุยกันได้

ชพน.รอ พปชร.นัดถกพรรคร่วม

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีแนวโน้มอาจเลื่อนไปเป็นสัปดาห์หน้า เมื่อถามว่าก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลจะมีการประชุมกับแกนนำพรรคร่วมหรือไม่ นายเทวัญตอบว่า ไม่ทราบเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ แต่ใน ครม.มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาถ้าเขานัดมาเราก็พร้อมพูดคุย พรรคชาติพัฒนาไม่มีปัญหาในเรื่องเสียงอยู่แล้ว เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

พท.ส่งอดีต ส.ส.ขอนแก่นลงซ่อม

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย พ้นสมาชิกภาพจากความเป็น ส.ส.ว่า หัวหน้าพรรคได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาตัวบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมแล้ว จะได้ข้อสรุปภายใน 2 วันนี้ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อคัดเลือกรอบสุดท้าย ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งรักษาเก้าอี้แน่นอน เพราะเป็นพื้นที่เดิม อีกทั้ง จ.ขอนแก่น และภาคอีสาน คือบ้านของพรรคเพื่อไทย และตัวบุคคลที่พรรคจะส่งลงเป็นอดีต ส.ส.ขอนแก่น ของพรรคเพื่อไทย มีหลายคน และทุกคนทำงานในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง

ลั่นไม่ปล่อยเก้าอี้หลุดมือแน่

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ปล่อยให้พื้นที่เขต 7 เป็นของพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคใหญ่ที่คาดหวัง ส.ส.ในเขตนี้ และไม่หนักใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เตรียมการเพื่อสื่อสารให้คนขอนแก่นรับรู้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ขอเรียกร้องให้ กกต.จับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าจะมีบางฝ่ายใช้อำนาจรัฐเข้ามาเอาเปรียบ กกต.ต้องเข้ามาดูแลตั้งแต่ต้น เพราะหากเป็นการแข่งขันที่ทัดเทียมเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย จะสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เหมือนการเลือกตั้งใหญ่ที่มีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินเข้ามาช่วย

ส.ส.โวยอาหารสภาฯมาตรฐานต่ำ

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้ยกเรื่องมาตรฐานอาหารในสภาฯ ต่ำมาขึ้นมาหารือ ทราบจาก ส.ส.ว่ามีมาเฟียตามมาจากสภาเก่า อยากให้ยกระดับมาตรฐานอาหารในรัฐสภาใหม่ให้ดีกว่านี้ ขณะที่นายชวนเปิดโอกาสให้นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า มาตรฐานอาหารที่บริการภายในรัฐสภาแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.อาหารที่ให้บริการแก่ กมธ.ชุดต่างๆ 2.อาหารที่ให้บริการแก่ ส.ส. บริเวณห้องอาหาร และ 3.อาหารที่จำหน่ายกับบุคคลทั่วไป จะรับข้อท้วงติงไปพิจารณาและปรับปรุงต่อไป

“ชวน” ท้วงงบ กมธ.ส.ว.สูงกว่า ส.ส.

จากนั้นนายชวนกล่าวขอบคุณ ส.ส.ที่ช่วยเป็นหูเป็นตานำเสนอความเห็นเพื่อปรับปรุงกิจการภายในสภาฯ อย่างไรก็ตามมีบางเรื่องที่ตนเข้าไปดูแลด้วยตนเอง อาทิ การรักษาความสะอาดห้องน้ำ ที่กำชับให้เข้าทำความสะอาดทันที เมื่อมีผู้ใช้บริการแล้วเสร็จ รวมถึงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพิ่มเติมบริเวณพื้นที่ของผู้มารอการชี้แจงต่อ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 รวมถึงกรณีที่พบว่าเงินงบประมาณในส่วน กมธ.สามัญคณะต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร ได้น้อยกว่า กมธ.ของวุฒิสภา ได้ทำหนังสือถึงนายกฯ ไปแล้วว่า เรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะสภาที่มาจากการเลือกตั้งได้งบประมาณน้อยกว่า ถือเป็นการจัดงบประมาณที่ไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ได้นัดประชุมสภาฯ นัดพิเศษ วันที่ 22 พ.ย. เพื่อพิจารณาญัตติทั่วไปที่ค้างอยู่ในวาระ 111 เรื่องเพราะมีญัตติด่วนแทรกมา หากไม่ทำจะมีเรื่องค้างจำนวนมาก

เตือน ส.ส.ทำให้สภาน่าเชื่อถือ

นายชวนกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องวาระเพื่อทราบต่างๆ หลังจากนี้จะให้บรรจุแค่ 3 วาระ จากเดิมที่บรรจุ 6-7 เรื่อง หาก ส.ส.สนใจจะอภิปรายให้มารับเอกสารข้อมูลไปศึกษาล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อม “ผมขอความร่วมมือจาก ส.ส. ให้เคารพและปฏิบัติตามข้อบังคับ เพื่อให้สภาฯ มีความน่าเชื่อถือ สภาฯ ไม่ใช่ที่เรียกร้องผลประโยชน์ หรือสถานที่ขัดแย้งแต่เป็นสถานที่เป็นปากเสียงแทนประชาชน สภาฯในฐานะผู้ออกกฎหมายต้องเป็นตัวอย่างผู้เคารพกฎหมาย อย่าให้สภาท้องถิ่นวิจารณ์ว่าสภาท้องถิ่นทะเลาะกันได้ เพราะสภาผู้แทนยังทะเลาะกัน”

“บิ๊กตู่” ปรับลายเซ็นใหม่เสริมดวง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังนายคฑา ชินบัญชร หมอดูชื่อดัง ทำนายดวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมยังคงมีความโดดเด่นมาก แต่จะมีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะปี 2563 เป็นปีชงของ พล.อ.ประยุทธ์ ล่าสุด เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปรับเปลี่ยนลายเซ็นของตัวเอง โดยอักษรหน้าคือตัว ป.ปลา มีการตวัดให้มีตัวกลมและใหญ่ขึ้น ส่วนนามสกุลตัวหน้า “จันทร์โอชา” ก็ได้ปรับเปลี่ยนให้ตัว จ.จาน มีลักษณะกลมใหญ่และมาชิดกับชื่อในลักษณะค้ำยันตัว ป.ปลา คาดว่าเป็นการเสริมดวงให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0