โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เลือดกำเดาไหล อันตรายกว่าที่คิด

Health Addict

อัพเดต 23 ก.ย 2562 เวลา 07.48 น. • เผยแพร่ 23 ก.ย 2562 เวลา 07.48 น. • Health Addict
เพราะเลือดกำเดาไหลเป็นอาการที่พบเห็นกันบ่อย ทำให้คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ตระหนักถึงสัญญาณเตือนภัยของโรคร้าย วันนี้เรามีวิธีมาให้ลองสังเกตดูว่า เลือดกำเดาไหลแบบไหนควรต้องไปพบแพทย์
เพราะเลือดกำเดาไหลเป็นอาการที่พบเห็นกันบ่อย ทำให้คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ตระหนักถึงสัญญาณเตือนภัยของโรคร้าย วันนี้เรามีวิธีมาให้ลองสังเกตดูว่า เลือดกำเดาไหลแบบไหนควรต้องไปพบแพทย์

เชื่อว่าใครหลายคนเคยมีประสบการณ์เลือดกำเดาไหลอย่างน้อยก็สัก 1 ครั้งในชีวิต หรือต่อให้ไม่เคยเกิดกับตัวเองก็น่าจะเคยเห็นเกิดขึ้นกับคนรอบตัวอยู่บ้าง จนหลายคนมองว่าเลือดเป็นเรื่องที่ไม่ได้แปลกอะไร แค่เงยหน้าเอาทิชชู่ยัดจมูก โปะน้ำแข็งบนหน้าผากแค่นี้ก็หายแล้ว แต่จริงๆ นอกจากการแคะจมูก หรืออุณหภูมิในร่างกายสูง สาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหลอาจเกิดจากโรคร้ายอย่างเนื้องอกในโพรงจมูก มะเร็งหลังโพรงจมูก หรืออาจเป็นวัณโรคหลังโพรงจมูกที่พยายามส่งสัญญาณเตือนเราอยู่ก็เป็นได้

เลือดกำเดาคืออะไร?
พญ.นภารัตน์ จิระวัฒนผลิน ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก โรงพยาบาลพญาไท 3 บอกว่า เลือดกำเดาไหล (Epistaxis) เป็นภาวะที่เลือดออกทางจมูก แบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือเลือดออกทางจมูกด้านหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรุนแรงนัก และเลือดออกทางจมูกด้านหลังโพรงจมูก เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่ใหญ่กว่า จึงทำให้อาการรุนแรงและมีปริมาณเลือดออกมากกว่า อาจมีเลือดออกทางปากได้ด้วย ซึ่งถ้าคนไข้ไม่รู้ตัวว่ามีเลือดออกทางโพรงจมูกด้านหลัง ก็จะกลืนลงไป ทำให้อาเจียนเป็นเลือด หรือถ้าลงไปที่ปอดก็อาจไอเป็นเลือดได้ 
เพราะอะไรกำเดาถึงไหลออกมา?
คุณหมอบอกว่าสาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหล แบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ

  • ภาวะโรคในจมูก อาจเกิดจากการที่มีก้อนในจมูก หรือเนื้องอกบริเวณหลังโพรงจมูก รวมถึงการติดเชื้อต่างๆ ทำให้มีแรงดันและส่งผลให้คัดจมูกหรือจาม จนเส้นเลือดฝอยแตกกลายเป็นเลือดกำเดาไหลออกมา นอกจากนี้คนที่เคยประสบอุบัติเหตุถูกกระแทกจมูกหัก ผนังจมูกคด ใช้ยาพ่นสเตียรอยด์รักษาภูมิแพ้ ถ้าพ่นไม่ถูกวิธีก็จะทำให้ผนังจมูกบางจนเลือดออกได้เหมือนกัน
  • ความผิดปกติของร่างกาย เช่นคนที่มีโรคประจำตัวอย่างเช่นโรคที่การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ โรคความดันโลหิตสูง โรคตับ หรือคนที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด ก็จะมีโอกาสเลือดกำเดาออกง่ายกว่าคนปกติทั่วไปทางที่ดีควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติในร่างกายให้แน่ชัด เพราะปกติแล้วเส้นเลือดคนเราจะไม่แตกง่ายๆ เว้นแต่ว่าจะไปกระแทกแรงๆ หรือขาดวิตามินเค ก็อาจทำให้เส้นเลือดแตกได้ง่ายเช่นกัน 

Photo by Velizar Ivanov on Unsplash
เลือดกำเดาไหลแบบไหน ควรไปพบแพทย์
วิธีการสังเกตอาการที่คุณหมอแนะนำคือ ลักษณะการไหลและสีของเลือด ถ้ามีลักษณะแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย

  • กำเดาไหลบ่อย และมักจะไหลซ้ำข้างเดิม ข้างเดียวตลอด
  • กำเดาไหลปริมาณมาก ถึงจะเป็นแค่ครั้งเดียวก็ควรไปพบแพทย์
  • กำเดามีก้อนลิ่มเลือด
  • กำเดาไหลนานต่อเนื่องไม่หยุดภายใน 10 นาที
  • ถ้าสีของเลือดกำเดาเป็นสีแดงสด จะรุนแรงน้อยกว่าสีชมพูจางๆ
  • กำเดาไหลพร้อมมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัดจมูก หูอื้อ รู้สึกมีก้อนในโพรงจมูกหรือที่คอ 

Photo by Should Wang on Unsplash
นี่คือสิ่งที่ต้องทำ เมื่อกำเดาไหล
ใครที่ชอบเงยหน้าเวลาเลือดกำเดาไหลฟังทางนี้… เพราะนั่นเป็นวิธีที่ผิด เรามาทำความเข้าใจวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้องสำหรับคนที่มีเลือดกำเดาไหลกันดีกว่า สามารถทำตามได้ง่ายๆ ตามสเต็ปต่อไปนี้
#1 หยุดทำกิจกรรมแล้วนั่งเอนในลักษณะคล้ายเตียงผ้าใบชายหาด
#2 ห้ามแหงนหน้าขึ้นเด็ดขาด เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการสำลักเลือด 
#3 ถ้าเลือดออกเยอะ ให้บีบจมูก หายใจทางปาก แล้วรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบเเพทย์
#4 ถ้าเลือดไหลน้อย ให้บีบจมูกแล้วอมน้ำเย็นหรือน้ำแข็ง เพราะบริเวณเพดานปากเป็นตำแหน่งของเส้นเลือด การอมน้ำแข็งจึงช่วยประคบห้ามเลือดได้ตรงจุดมากกว่า
เพราะเลือดกำเดาไหลเป็นอาการที่พบเห็นกันบ่อย ทำให้คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ตระหนักถึงสัญญาณเตือนภัยของโรคร้าย ถ้าตัวเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการเลือดกำเดาไหลผิดปกติ แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัด จะปลอดภัยที่สุด
 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0