วันนี้ (16 ม.ค. 62) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร) เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อสอบปากคำนายธีรพล ปิ่นอมร อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยา และคนในครอบครัวฝ่ายหญิงเสียชีวิตรวม 5 ศพ และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คนเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนี แต่ถูกทหารและตำรวจสนธิกำลังจับกุมตัวได้ภายในสวนปาล์มน้ำมันติดชายแดนไทย-เมียนมาพื้นที่หมู่ 6 ตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี จังหวัดระนองเมื่อช่วงสายวานนี้ (15 ม.ค.)
ขณะที่หลังสอบปากคำ ตำรวจได้คุมตัวนายธีรพลมาแถลงผลการจับกุมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด โดยนายธีรพลให้การรับสารภาพว่า ที่ผ่านมาได้ทุ่มเทเงินทองให้ครอบครัวของภรรยามากมายแต่กลับถูกบอกเลิกหลายครั้ง และยังโดนบีบให้ออกจากครอบครัว แถมยังไม่ยอมคืนทรัพย์สินใดๆจนเป็นเหตุให้โกรธแค้นซื้อปืนมาก่อเหตุดังกล่าว
จากนั้น ตำรวจนำตัวนายธีรพลลงมาทำแผนบริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจตำรวจภูธรจังหวัดเนื่องจากหากนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนยังพื้นที่เกิดเหตุเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยจุดแรกนายธีรพลระบุว่า ได้ลงมือยิงนายวิรัตน์ กิ่งแก้ว พ่อตาก่อน จากนั้นยิงนางกัญญารัตน์ที่พยายามเข้ามาแย่งปืน และพยายามจะไล่ยิงน้องสาวภรรยาแต่หนีรอดไปได้แบบหวุดหวิด หลังจากนั้นได้ขับรถไปที่บ้านของแม่ยายซึ่งอยู่ในตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย ก่อเหตุยิงนางน้ำผึ้ง อินทร์สิทธิ์ แม่ยาย นางน้ำผา และนางกนกวรรณ อินทร์สิทธิ์ พี่สาวของแม่ยายจนเสียชีวิตแล้วหลบหนี
อย่างไรก็ตาม การทำแผนเป็นไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อีกทั้งมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่บ้านผู้ตายซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่แน่นหนา ซึ่งตำรวจจะเร่งสรุปสำนวนและนำตัวส่งฟ้องศาลต่อไป
ขณะที่มีรายงานจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรอุตรดิตถ์ว่า เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบบ้านเรือนไม้สักมูลค่ากว่า 3,000,000 บาท,รถไถนาคันสีแดง,รถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน กว-3510 พิษณุโลก และทรัพย์สินอื่นๆของนายธีรพลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหารายนี้อาจเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงเงิน 32 ล้านจากมูลนิธิแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรีแล้วนำมาปล่อยกู้ในพื้นที่รวมถึงเงินจากคดียาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแล้วนำมาฟอกในพื้นที่ตำบลพญาแมน ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาไม่ถูกต้องจะดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินเอาไว้ทั้งหมด
