เรื่องเงินทอง ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีเงินก็ไม่มีความสุข บางทีของแบบนี้ก็เกี่ยวเนื่องกันอย่างไม่มีเหตุผล แต่มันโคตรจะเป็นความจริง
น่าจะมีหลายคนที่มีปัญหาเรื่องการเงิน ไม่พอใช้ ไม่มีเก็บ รายได้ไม่เพิ่ม แต่รายจ่ายขึ้นเอา ๆ ทำเอาปวดกบาลกันไปเลย
ปัญหาการเงินเหล่านี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่มีการบริการจัดการเงินที่ดีพอ ทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกร้อยแปด แต่ของแบบนี้มีทางแก้ แค่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและควบคุมตัวเองให้มากขึ้น ซึ่ง 5 วิธีนี้ช่วยได้ เพื่อสุขภาพการเงินที่ดีในระยะยาว
ต้องไม่หนี้ถึงจะเป็นลาภอันประเสริฐ
สมัยก่อนไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ แต่สมัยนี้ต้องไม่มีทั้งโรค ทั้งหนี้ จะประเสริฐที่สุด
ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ แต่คนเราก็มีเงื่อนไขในชีวิตต่างกัน คนไม่มีหนี้ไม่มีวันรู้ว่าชีวิตที่มีหนี้นั้น ลำบากแค่ไหน ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนเป็นอย่างไร ทั้งต้องจ่ายดอกเบี้ย ไม่มีจะกิน ไม่มีเงินเก็บ ยิ่งเป็นหนี้นอกระบบ ยิ่งหนักหนากว่าที่คิด
เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือไม่สร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น รายจ่ายมีทั้งแบบที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะคุมได้แต่ไม่คุม เอาความต้องการมาอยู่เหนือความจำเป็น อย่าปล่อยให้ความสุขมาพร้อมกับหนี้ ยังไงก็ไม่ดีแน่นอน
ออมก่อน สบายก่อน
เดี๋ยวนี้คนเราสนใจเรื่องการเก็บออมกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีบางคนที่ได้แต่บอกว่า จะกินยังไม่มี จะเอาที่ไหนเก็บ..บอกเลยว่าถึงจะหาเช้ากินค่ำ มีหนี้มีสินมากมายยังไง ก็ขอให้คิดเรื่องเงินออมไว้บ้าง
หลักการก็คือต้องปลดหนี้ให้ได้ก่อน หนี้ในที่นี้คือหนี้นอกระบบ ใครขายืม ยอมเสียดอกโหด ขอให้รีบปลดหนี้เหล่านี้ให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนพวกหนี้ในระบบทั้งหลาย อย่างบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ไม่ใช่ว่าไม่ต้องรีบใช้ แต่ดอกเบี้ยยังไม่โหดมาก
ต่อมาก็พวกหนี้ดีอย่าง หนี้บ้าน หนี้คอนโดฯ อันนี้ผ่อนกันยาว ๆ ไม่ต้องรีบร้อน มีค่อยโปะ
เมื่อปลดหนี้ได้แล้ว ก็มาเริ่มลงมือออมกันจริง ๆ จัง ๆ กันเสียที อย่างที่หลายคนรู้ว่าไม่มีใครกล้าฟันธงว่าต้องเก็บเงินเท่าไหร่ถึงจะพอใช้ยันแก่ ยันตาย แต่ทุกสำนักฟันธงเหมือนกันว่า ยังไงก็ต้องเก็บ จำนวนมากน้อยก็สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือต้อง ‘เริ่ม’ ถ้าไม่คิดจะเริ่ม ยังมัวแต่อ้างว่าไม่มี ไม่พอใช้ ผ่านไปกี่ปีก็ไม่มีเงินออมอยู่นั่นแหละ
ทำให้เงินออม = รายจ่าย
หลายคนคิดว่าเงินออมคือเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายแล้ว ถ้าใครคิดแบบนี้ถือว่าผิดมหันต์ เพราะแค่เริ่มต้นก็ผิดแล้ว ไม่แปลกเลยที่จะไม่มีเงินเก็บ
เงินออมไม่ใช่เงินที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่เงินออม = รายจ่ายที่ต้องจ่ายเป็นอันดับต้น ๆ ของรายได้เลยต่างหาก วิธีการก็คือทำให้เงินออมเป็นรายจ่ายประจำอย่างหนึ่งที่ต้องหักทุกเดือน เหมือนค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์นั่นแหละ จะกี่มากน้อยก็แล้วแต่จัดสรร แต่รู้ใช่ไหม..ว่ายิ่งออมมากก็ยิ่งสบายมาก
อย่าลืมคิดเรื่องเงินเฟ้อด้วย
โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า ‘เงินเฟ้อ’ ศัตรูตัวสำคัญที่ทำให้จำนวนเงินออมลดน้อยลง
เงินเฟ้อ คือภาวะที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นในการซื้อของ ซึ่งล่าสุดปี 2561 ตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.07% แม้ตัวเลขจะไม่น่าวิตกกังวล แต่ก็ทำให้เงินที่เก็บไว้น้อยลงอยู่ดี
พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าออมเงินไว้ในธนาคารด้วยบัญชีออมทรัพย์จะได้ดอกเบี้ยเงินฝากมากสุดแค่ 0.75% ในขณะที่เงินเฟ้อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.07% ตัวเลขแค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเงินในมือจะมีมูลค่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นสมัยนี้แค่ออมเงินใส่ธนาคารอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้จักทำให้เงินที่มีอยู่เพิ่มพูน ผลิดอกออกผลด้วย สมัยนี้เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ใครไม่มีข้อมูลถือว่าผิด! เพราะฉะนั้นจะออมเงินทั้งที ต้องออมอย่างมีข้อมูลและความรู้ด้วย ซึ่งกูรูด้านนี้เค้าก็ออกมาบอกแล้วว่าวิธีออมเงินให้มีมูลค่ามากกว่าเงินเฟ้อ ไล่เรียงตามผลตอบที่เพิ่มสูงขึ้นไปก็คือทอง ที่ดิน และหุ้น แต่ถ้าเป็นมือใหม่ ยังอ่อนด้อยเรื่องข้อมูล อย่างน้อยจะออมเงินในธนาคารก็ควรฝากประจำเพื่อให้ได้รับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ทีนี้ก็แล้วนะว่าเงินออมของเราจะเอาไปที่ไหน ลงยังไงให้มันเพิ่มขึ้นแบบชนะศัตรูอย่างเงินเฟ้อขาดลอย
อัปเดตจำนวนเงินอย่างสม่ำเสมอ
จริงอยู่ที่ข้อสำคัญของการออมคือต้องเริ่มออมให้ได้เสียก่อน และวิธีการออมที่ดีอย่างหนึ่งก็คือการไม่ไปสนใจเงินออมจำนวนนั้นเลย แต่ทริคเล็ก ๆ ที่จะช่วยเพิ่มจำนวนเงินออมได้ก็คือการหมั่นอัปเดตจำนวนเงินออมเป็นระยะ การทำแบบนี้ก็เหมือนกับการขยับเข้าไปใกล้เป้าหมายไปเรื่อย ๆ พอมีเงินออมถึงจำนวนที่ตั้งไว้ครั้งแรก ก็ค่อย ๆ ขยับเป้าให้จำนวนเพิ่มขึ้น แต่วิธีนี้ใช้สำหรับคนที่มีวินัยในการออมเท่านั้นนะ ส่วนคนที่มีทีท่าว่าจะเอาเงินออมไปใช้จ่ายอยู่บ่อย ๆ ขอให้ลืมเงินจำนวนนี้ไปได้เลย
