แน่นอนว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์ของใครหลาย ๆ คน การออกจากบ้านเพื่อไปเดินตากแอร์เย็นฉ่ำเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ตึกสูงระฟ้าที่เห็นได้ทั่วทุกบริเวณในกรุงเทพ ฯ เป็นที่ตั้งของบรรดาห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั้งอุปโภคบริโภคมากมาย ซึ่งหนึ่งในห้างยอดนิยมของนักกิน นักชอป ก็คือห้างเซ็นทรัลนั่นเอง
หากมีโอกาสได้ลองเงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดตึกสูงของห้างเซ็นทรัลแล้วนั้น ก็จะพบกับรูปปั้นตราครุฑที่ถูกอัญเชิญให้อยู่ ณ จุดที่เด่นที่สุดของห้างเซ็นทรัล และนั่นก็นำมาซึ่งความสงสัยว่า ตราครุฑที่ปกติจะพบเห็นได้ตามตึกที่เป็นหน่วยงานของทางราชการหรือบริเวณพระบรมมหาราชวัง ทำไมจึงมาปรากฏอยู่บนตัวตึกที่เป็นของเอกชนเช่นนี้?
ที่มาของภาพ : centralgroup
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเริ่มก่อตั้งโดย คุณเตียง จิราธิวัฒน์ ด้วยการเปิดกิจการเป็นร้านขายของชำเล็ก ๆ ดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2490 ก่อนที่ นายสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ บุตรชายจะเริ่มดำเนินการสร้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาแรกเมื่อปี พ.ศ. 2499
ที่มาของภาพ : moneybuffalo
แต่ทว่าปัจจุบันนอกจากห้างเซ็นทรัลแล้ว ก็ยังมีองค์กรเอกชนอีกมากมายที่มี ตราครุฑ นี้ปรากฏอยู่ เช่น
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย
- ธนาคารกรุงเทพ และอื่น ๆ
ที่มาของภาพ : readthecloud
นั่นจึงเพิ่มความสงสัยมากเข้าไปอีกว่าแล้วทำไมจึงมีเพียงบางองค์กรเท่านั้นที่มีตราครุฑปรากฏอยู่ทั้ง ๆที่ส่วนใหญ่ก็เป็นองค์กรเอกชนแทบทั้งสิ้น แต่ก่อนที่จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับตราครุฑกับห้างเซ็นทรัล เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับตำนานของพญาครุฑ สัตว์ในตำนานผู้ทรงพลังกันก่อนดีกว่า
ครุฑ เป็นสัตว์กึ่งเทพที่ปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า พญาครุฑนั้นเป็นสัตว์ที่ทรงอำนาจและเป็นพาหนะของพระนารายณ์ มีรูปร่างครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะและเชื่อกันว่าไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้
ที่มาของภาพ : upload.wikimedia
ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อครั้งที่พญาครุฑนั้นต้องการไปเอาน้ำอมฤตเพื่อช่วยเหลือมารดา ได้มีเหตุให้ต้องต่อสู้กับพระนารายณ์ ซึ่งพระองค์ก็ได้ออกมาขวางพญาครุฑไว้และสู้รบกับพญาครุฑด้วยเช่นกัน โดยต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอาชนะกันได้ ทั้งสองจึงตกลงยุติศึกต่อกัน โดยพระนารายณ์ให้พรแก่พญาครุฑว่าจะให้พญาครุฑเป็นอมตะและให้อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าพระองค์ ส่วนพญาครุฑก็ถวายสัญญาว่าจะเป็นพาหนะของพระนารายณ์ และเป็นธงครุฑพ่าห์สำหรับปักอยู่บนรถศึกของพระนารายณ์นั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของพญาครุฑอีกว่า หากสถานที่ไหนมีอาถรรพ์ ผีแรง ผีเฮี้ยน ก็ให้นำเอาตราครุฑไปติดไว้ จะทำให้อาถรรพ์นั้นเสื่อมสลายไป เพราะพลังของพญาครุฑนั่นเอง เช่นที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ ตรงบริเวณสี่แยกราชประสงค์หรือสี่แยกมหาเทพ ที่กล่าวขานกันมาว่า ‘เจ้าที่แรง’ ก็มีพญาครุฑปรากฏอยู่
ด้วยความเชื่อที่ถูกสืบต่อกันมา ทำให้พญาครุฑได้รับความเคารพบูชาว่าเป็นของสูง เสมือนหนึ่งตัวแทนของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง มหาอำนาจ
ที่มาของภาพ : tnews
มีเรื่องเล่าและอาถรรพ์เกี่ยวกับเหรียญบาทตราครุฑของปี พ.ศ. 2517 ว่า ตามคำเล่าขานของพรานป่าและคนตัดไม้ การเข้าป่าและพักค้างคืนในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับและอันตราย ซึ่งหากจะนอนในป่า ไม่ว่าบริเวณใดก็ตาม ให้ตอกตราครุฑ โดยตอกให้ด้านที่เป็นรอยครุฑติดไว้เหนือบริเวณที่เราจะนอน ตอกเสร็จแล้วเก็บเหรียญพกไว้เหมือนเดิม เพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับหรืออันตรายทั้งปวง
พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ ใช้ในสมัยรัชกาลที่ 5
ที่มาของภาพ : upload.wikimedia
ย้อนไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงระลึกได้ว่า พระเจ้าแผ่นดินสมัยกรุงศรีอยุธยาเคยใช้ตราพระครุฑพ่าห์มาก่อน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้มีการเขียนพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ขึ้นเป็นตราแผ่นดินเพื่อใช้แทนตราแผ่นดินแบบเดิม โดยครั้งแรกทรงเขียนเป็นรูปตราพระนารายณ์ทรงครุฑจับนาค ตรานี้ใช้อยู่ระยะหนึ่งจึงทรงโปรดเกล้า ฯ ให้เขียนตราครุฑขึ้นใหม่อีกครั้งเป็นตราวงกลม โดยยกรูปพระนารายณ์และนาคออก เหลือไว้แค่รูปครุฑ และมีพระราชประสงค์ที่จะให้ใช้ตราครุฑเป็นตราแผ่นดินสืบไป
ที่มาของภาพ : readthecloud
ดังนั้น ตราครุฑที่ปรากฏอยู่ตามองค์กรเอกชนต่าง ๆ นั้น ก็เปรียบเสมือนว่ามีตราของแผ่นดินประดับอยู่ ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการพระราชทาน ‘ตราตั้งห้าง’ มีความหมายว่า กิจการห้างร้านแห่งนั้นได้รับพระราชทานเกียรติยกย่องให้เป็นบริษัทห้างร้านที่ประกอบการค้ากับพระราชสำนักมาเป็นเวลานาน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประกอบกิจการภายในประเทศ ประหนึ่งเป็นการรับรองห้างร้านที่ประกอบกิจการดี เป็นที่ยอมรับนับถือ ประกอบกิจการด้วยคุณธรรม และเพื่อเป็นสิริมงคลต่อผู้ประกอบกิจการนั้น ๆ ด้วยนั่นเอง
การที่มีตราครุฑ ซึ่งเป็นตราแผ่นดินปรากฏอยู่นั้น นอกเหนือจากความเชื่อเรื่องพลังในการปราบอาถรรพ์และนำมาซึ่งโชคลาภหรืออำนาจใด ๆ นั้น ก็คงจะเป็นเครื่องหมายเพื่อเตือนใจผู้ประกอบการ ให้ดำเนินกิจการไปด้วยความสุจริต และร่วมกันสร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติสืบต่อไป
ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ : เรื่องราวของ ‘ครุฑ’ ตราสัญลักษณ์ทรงสง่ากับตำนานอันน่าเหลือเชื่อ