โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแมวเปอร์เซีย

Petcitiz

เผยแพร่ 11 ก.ย 2560 เวลา 01.59 น. • petcitiz.info
เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซีย เป็นสายพันธุ์แมวที่มีความน่ารัก ขี้อ้อน ช่างประจบประแจง แถมยังเป็นที่นิยมเลี้ยงของกลุ่มคนรักแมวอีกด้วย ใครที่กำลังพลิกผันตัวเองมาเป็นทาสแมวเปอร์เซีย (หรือเป็นอยู่แล้ว) เรามีเรื่องดีๆ ที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับแมวสายพันธุ์นี้มาฝากค่ะ

แมวเปอร์เซีย ถือว่าเป็นแมวที่ได้รับความนิยมเลี้ยงในกลุ่มของคนรักแมว เป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย เพราะด้วยความน่ารักแถมยังมีนิสัยอ่อนโยนเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ร่าเริง ชอบการปีนป่ายไปตามที่ต่างๆ และเป็นแมวที่ช่างประจบเจ้าของซะเหลือเกิน หากเพื่อนๆ คนไหนกำลังตัดสินใจที่จะเลี้ยงแล้วล่ะก็ วันนี้ Petcitiz มีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับน้องแมวเปอร์เซียมาฝากกันค่ะ

1. หมั่นแปรงขนเป็นประจำ

เพราะเสน่ห์ของเจ้าเปอร์เซียนั้น คือ ขนที่ยาวสลวย ทำให้แมวเปอร์เซียดูสง่าหรูหรามากกว่าพันธุ์อื่น ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย เพราะฉะนั้นจึงควรดูแลตัดแต่งขนให้เขาดูดีอยู่เสมอ ใช้หวีแปรงขนให้น้องแมวของคุณอย่างน้อยวันละ 15 นาที โดยเน้นในจุดที่น้องแมวของคุณไม่สามารถเอื้อมไปเลียขนได้เป็นพิเศษด้วยนะคะ เช่น คอ ขา และหาง ควรอาบน้ำให้เขาอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการทำความสะอาดร่างกายของน้องแมวไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคนั่นเองค่ะ

2. อย่าปล่อยให้แมวอ้วนจนเกินไป

การดูแลสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติ โดยเฉพาะการให้อาหารกับเขา ควรให้อาหารแต่พอเหมาะนะคะ ไม่ควรให้กินอาหารในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้น้องแมวอ้วนได้ เมื่อปล่อยให้เขาอ้วนก็จะก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยตามมา รวมถึงหลีกเลี่ยงการวางอาหารไว้ในบริเวณที่น้องแมวอยู่ เพราะจะทำให้เจ้าแมวเดินกินอาหารตลอดเวลา งานนี้มีหวังได้ตัวกลมเป็นลูกบอลแน่ๆ ค่ะ เมี๊ยววววววว~

3. ดูแลรอบดวงตา

อีกหนึ่งปัญหาของเจ้าเหมียวพันธุ์นี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องคราบน้ำตา หรือขี้ตานั่นเองค่ะ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในท่อน้ำตา จึงทำให้น้องแมวเปอร์เซียต้องประสบกับปัญหาคราบน้ำตา และขี้ตาเกาะติดรอบตาจนยากจะเอาออก การดูแลรอบดวงตาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย สำหรับการทำความสะอาดก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เพื่อนๆ นำคอตตอนบัด หรือสำลีชุบน้ำอุ่น แล้วเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบน้ำตา เพียงเท่านี้น้องแมวก็จะหมดปัญหาเรื่องคราบน้ำตา หรือขี้ตาแล้วล่ะค่ะ

4. รับมือกับโรคถุงน้ำที่ไต

เรื่องที่เราต้องรู้จัก และรับมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็น่าจะเป็นเรื่องของ “โรคถุงน้ำที่ไต” ไอ้เจ้าโรคนี้เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม หากพบว่าพ่อหรือแม่พันธุ์เป็นโรคนี้ ลูกแมวก็จะยิ่งมีโอกาสเกิดโรคนี้สูงมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้มันสูญเสียในเรื่องของการกรองสารพิษออกจากร่างกาย โดยโรคนี้จะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ช่วงอายุ 3–10 ปี ซึ่งจะมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาเจียน เซื่องซึม และกระหายน้ำมากจนผิดสังเกต หากพบว่าแมวของคุณมีอาการดังกล่าว ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาโดยด่วนค่ะ

5. ทำความสะอาดหูเป็นประจำ

เรื่องความสะอาดในใบหูของน้องแมวก็เป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงหลายคนไม่ควรมองข้ามนะคะ เราทุกคนก็รู้กันอยู่แล้วว่าเจ้าเหมียวนั้นมักจะทำความสะอาดตัวเองอยู่เสมอ แต่คุณก็ควรรู้ไว้อีกอย่างหนึ่งว่ามันไม่สามารถทำความสะอาดหูด้วยตัวเองได้ ถ้าปล่อยไว้อาจจะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคจนทำให้เกิดโรคช่องหูอักเสบ ดังนั้น ผู้เลี้ยงอย่างเราต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดช่องหูให้เจ้าเหมียวอยู่เสมอ ขอบอกก่อนนะคะว่าหูของน้องแมวเป็นส่วนที่อ่อนไหวมาก จึงควรทำอย่างเบามือที่สุด และหลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมที่จะให้รางวัลกับน้องเขาด้วยนะคะ

6. การดูแลช่องปาก

การดูแลสุขภาพปากของสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เลยทีเดียวค่ะ เพราะถ้าคุณละเลยการดูแลช่องปากของเจ้าเหมียวแล้วล่ะก็… อาจทำให้น้องแมวของคุณเสี่ยงเป็นโรคช่องปากอักเสบตามมาก็ได้ ดังนั้น คุณจึงควรดูแลฟันของเขาให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการเลือกใช้แปรงสีฟันที่เหมาะกับขนาดของฟันแมว หากบางตัวไม่ชอบแปรงฟัน คุณอาจใช้นิ้ว หรือแปรงซิลิโคนสวมนิ้วทำความสะอาดฟันให้เขาแทนก็ได้ สำหรับการฝึกแปรงฟันเราควรเริ่มตั้งแต่เขาเป็นลูกแมว แต่ไม่ควรบังคับน้องแมวนะคะ ที่สำคัญควรให้รางวัล หรือชมเขาเมื่อทำธุระเสร็จด้วยนะเจ้าทาส

สุดท้ายนี้ขอฝากไว้นิดนึงสำหรับมือใหม่ทุกคนที่กำลังต้องการเลี้ยงน้องแมวเปอร์เซีย หรือสายพันธุ์อื่น ควรศึกษาเรื่องการเลี้ยงดูก่อนว่าคุณสามารถดูแลเขาได้จริงๆ หรือไม่ เพราะถ้าคุณไม่ใส่ใจในรายละเอียดของการดูแล ก็อาจทำให้น้องแมวของคุณเสี่ยงเสียชีวิตได้เลยนะคะ ทางที่ดีควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะรับน้องแมวมาเลี้ยง อย่าเลี้ยงเพราะตามกระแส เอาที่ตัวเองเลี้ยงไหว และมีเวลาให้น้องแมวแค่นี้ก็พอแล้วล่ะค่ะ

เรื่องต้นฉบับ:petcitiz.info

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0