วันนี้ (22 ส.ค.62) แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางเริ่มโอนเงินตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้าบัตรสวัสดิการให้ผู้ถือบัตร จำนวน 14.6 ล้าน คนตามมติ ครม. แบ่งเป็น เงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับเงิน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้ เริ่มโอนวันที่ 21 สิงหาคม
สำหรับผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 31 33 37 38 และ 39 มีจำนวนผู้ได้รับเงินกว่า 5 ล้านคน วงเงินกว่า 2,500 ล้านบาท หลังจากนั้นวันที่ 22 สิงหาคม โอนเงินเข้าบัตรสำหรับเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วย 32 34 35 และ 36 มีจำนวนผู้รับเงินกว่า 5 ล้านคน วงเงินกว่า 2,500 ล้านบาท และวันที่ 23 สิงหาคม ผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 1 2 4 5 และ 8 มีผู้ได้รับเงินกว่า 3.9 ล้านคน วงเงิน 1,971 ล้านบาท ส่วนในเดือนกันยายน เริ่มโอนตั้งแต่วันที่ 6-8 กันยายน ตามลำดับโอนเหมือนเดือนสิงหาคม
สำหรับอีก 2 มาตรการ เริ่มจ่ายเดือนแรกคือวันที่ 24 สิงหาคม และอีกเดือนในวันที่ 9 กันยายน รวมระยะเวลา 2 เดือน ประกอบด้วยเงินช่วยเหลือสำหรับ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน มีผู้ได้รับสิทธิจำนวนประมาณ 5 ล้านราย
และการจ่ายเงินช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับสิทธิภายใต้โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน มีจำนวนกว่า 8 แสนราย "เงินที่โอนเข้าบัตรสวัสดิการดังกล่าวมีวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท สามารถนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าและบริการ หรือถอนเงินสดมาใช้ก็ได้
ส่วนบรรยากาศที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย หน้าร้านหมอยาพลาซ่า ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อวานนี้ ได้มีประชาชนนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากดเงินกันอย่างคึกคัก นอกจากนี้ยังมีประชาชนเดินทางมาต่อคิวหน้าตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา อย่างเนืองแน่น จนกระทั่งตู้ ATM ธนาคารกรุงไทยเกือบทุกแห่ง มีปัญหาเงินธนบัตร 100 และ 500 บาท หมดตู้ เหลือเพียงธนบัตรใบละ 1,000 บาท ประชาชนที่มากดช้าต้องผิดหวังไปตามๆ กัน
นางฐานิตา กิรักษา อายุ 68 ปี ชาว อำเภอเมืองนครราชสีมา หนึ่งในผู้ที่นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากดเงิน และผิดหวังเพราะเงินหมด เผยว่า ตนเองตั้งใจที่จะมากดเงินสดจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งรัฐบาลจะโอนให้จำนวน 500 บาท เพื่อนำไปซื้อของอุปโภคบริโภคใช้ แต่มาแล้วปรากฏว่าเงินในตู้ ATM ธนบัตรใบละ 100 และ 500 บาทหมด เหลือเพียงธนบัตรใบละ 1,000 บาท จึงผิดหวังมาก ดังนั้นก็จะไปหากดที่ตู้อื่น ซึ่งก็มีคนบอกว่าหลายตู้เงินหมดเช่นกัน อย่างไรก็ตามก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้เงินมาซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนสำหรับคนจนได้เป็นอย่างดี
ด้าน นางต่วน นาคแท้ อายุ 89 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา ผู้ที่ยังกดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้ กล่าวว่า ตนเองตระเวนไปหากดเงินหลายตู้ ATM แล้ว แต่ก็ปรากฎว่าเงินธนบัตร 100 และ 500 บาทหมดทุกตู้ ตอนนี้ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารนำเงินมาใส่ไว้ให้ใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าตอนไหน ตนคิดว่าที่เงินหมดคงจะเป็นเพราะว่าคนแห่มากดเงินกันตั้งแต่เช้ากันหมด ถ้าได้เงินมาก็คงจะไว้ซื้อของกินของใช้ เพราะเงินจำนวน 500 บาทนี้มีค่ามากสำหรับคนจน
