โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เราไม่ทิ้งกัน จี้ ‘คนสละสิทธิ์’ เร่งคืนเงินเยียวยา 5,000 บาทด่วน!

The Bangkok Insight

อัพเดต 08 ก.ค. 2563 เวลา 23.28 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. 2563 เวลา 10.50 น. • The Bangkok Insight
เราไม่ทิ้งกัน จี้ ‘คนสละสิทธิ์’ เร่งคืนเงินเยียวยา 5,000 บาทด่วน!

เราไม่ทิ้งกัน จี้ "คนสละสิทธิ์" 7,666 ราย เร่งคืนเงินเยียวยา 5,000 บาทด่วน ชี้ล่าสุดหลังส่งหนังสือมีผู้คืนเงินแล้ว 84 ราย 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ขอความร่วมมือ ให้ผู้แสดงความประสงค์ สละสิทธิ์ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท ที่ยังไม่ได้คืนเงิน ให้เร่งคืนเงินที่ได้รับไปเต็มจำนวน ให้แก่กระทรวงการคลังโดยด่วน เพื่อให้การ สละสิทธิ์ เสร็จสมบูรณ์  โดยสามารถคืนได้ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารใดก็ได้ หรือ นำหนังสือที่ได้รับไปติดต่อ ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ

เราไม่ทิ้งกัน
เราไม่ทิ้งกัน

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้สละสิทธิ์รับเงิน โครงการ เราไม่ทิ้งกัน แล้ว 10,121 ราย ในจำนวนนี้ มีผู้คืนเงินให้กระทรวงการคลังครบถ้วนแล้ว 2,455 ราย คงเหลือผู้ที่ยังไม่คืนเงิน 7,666 ราย คลังจึงทำหนังสือแจ้ง ให้กลุ่มผู้ สละสิทธิ์ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท มาเร่งคืนเงินเยียวยาที่ได้รับไปแล้วทั้งหมดกลับคืน โดยหลังจากมีหนังสือออกไปแล้ว ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 มีผู้คืนเงินเพิ่มแล้ว 84 ราย

นายลวรณ กล่าวว่า กรณีสื่อสังคมออนไลน์ มีการเผยแพร่เอกสาร การเรียกคืนเงิน จากกลุ่มผู้ สละสิทธิ์ มาตรการเยียวยา 5,000 บาทนั้น ยืนยันว่า การส่งหนังสือขอเรียกเงินคืน จากโครงการเราไม่ทิ้งกัน จะส่งให้เฉพาะผู้ที่ได้รับสิทธิ์และมีการขอ สละสิทธิ์ เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการปกติ ส่วนคนที่ได้รับเงินไปแล้ว และไม่ได้แจ้งขอ สละสิทธิ์ ก็จะไม่ได้หนังสือเรียกเงินคืนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยากมาก ที่การยื่นความประสงค์สละสิทธิมาตรการเยียวยา 5,000 บาท จะเกิดขึ้นจากความผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ หรือมีผู้อื่นดำเนินการแทน โดยที่เจ้าตัวไม่รับทราบหรือยินยอม เนื่องจากการสละสิทธิ์จะต้องทำผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จะต้องระบุข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้ในการลงทะเบียน รวมทั้ง มีการยืนยันตัวตนผ่านรหัสโอทีพีที่ถูกส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการลงทะเบียนอีกด้วย

สำหรับหนังสือเรียกเงินคืน ระบุว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) และท่านได้แสดงความประสงค์สละสิทธิ์การได้รับเงินชดเชยตามมาตรการฯ นั้น

เราไม่ทิ้งกัน
เราไม่ทิ้งกัน

สำนักงานเศรษฐกิจการคลังพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า เพื่อให้การดำเนินการสละสิทธิ์ดังกล่าวเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จึงขอความร่วมมือให้ท่านดำเนินการคืนเงินชดเชยรายได้ที่ท่านได้รับไปแล้วทั้งหมดให้กระทรวงการคลัง ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ โดยสามารถคืนเงินได้ผ่านช่างทางต่างๆ ดังนี้

1. ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เลือกปุ่มสละสิทธิ์ (สีชมพู) และดำเนินการชำระเงินผ่านช่องทางที่กำหนด

2. ชำระคืนผ่าน Mobile Banking/ Internet Banking/ ATM ของธนาคารใดก็ได้ โดยดำเนินการดังนี้

2.1 เลือกระบบการจ่ายเงินหรือชำระเงิน (Bill Payment)

2.2 เลือกหมวดหมู่หน่วยงานราชการ และเลือกหัวข้อ รับชำระเงินจากผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 (97612) หรือ เลือกค้นหาจากชื่อผู้รับเงิน รับชำระเงินจากผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 หรือเลือกค้นหาจาก Company Code หมายเลข 97612 หรือเลือกค้นหาจาก Biller ID หมายเลข 199400016022408

2.3 ระบุ รหัสอ้างอิง 1 (ช่องแรก) = เลขบัตรประจำตัวประชาชน และ รหัสอ้างอิง 2 (ช่องที่ 2) = หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน

2.4 ระบบจะดำเนินการตรวจสอบยอดเงินทั้งหมดที่ท่านต้องชำระคืน และขอให้ท่านยืนยันการทำรายการ

3. ติดต่อสาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศ โดยแจ้งคืนเงินตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) พร้อมแจ้งเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน

อนึ่ง หากท่านได้ชำระคืนเงินชดเชยรายได้ ตามมาตรการฯ แล้ว ก่อนได้รับหนังสือฉบับนี้ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการคืนเงินชดเชยตามมาตรการฯ ด้วย จะยิ่งขอบคุณยิ่ง

เราเที่ยวด้วยกัน
เราเที่ยวด้วยกัน

สำหรับโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" นั้น นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้กำหนดคุณสมบัติ ของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิ์ แพ็กเกจ เราเที่ยว ด้วยกัน โดยต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ

ทั้งนี้ ขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง ซึ่งการลงทะเบียนขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” มาเตรียมไว้

โดยจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 แบบไม่จำกัดจำนวน คือ เข้ามากี่ล้านคนก็ได้ โดยลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยว ด้วยกัน.com ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ทุกวัน จากนั้นจะต้องรอ SMS ยืนยันการลงทะเบียนภายใน 3 วัน

เมื่อได้รับสิทธิ์แล้วต้องรีบเข้าไปจองโรงแรม หรือโฮมสเตย์ เพราะสิทธิ์ดังกล่าวมีจำกัดแค่ 5 ล้านคืนเท่านั้น ดังนั้น ใครได้รับสิทธิ์แล้ว จะต้องรีบไปจองทันที เช่นเดียวกับสิทธิ์การได้รับเงินคืนจากตั๋วเครื่องบิน 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ที่จำกัดไว้แค่ 2 ล้านใบ

“ใครใช้ก่อนมีสิทธิ์ก่อน และ ขอย้ำกว่าการได้สิทธิ์ตั๋วเครื่องบิน ต้องผูกกับการจองห้องพักผ่านระบบเท่านั้น ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ส่วนลด 2 ใบต่อ 1 ห้องพัก ผู้รับสิทธิ์จะต้องจ่ายเงินไปก่อน เมื่อบินแล้วต้องมาแจ้งขอคืนเงิน โดยจะมีการโอนเงินคืนให้ ทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน การร่วมรับสิทธิ์ส่วนนี้ต้องรีบเข้ามาลงทะเบียนเพราะจำกัดแค่ 2 ล้านใบ” นายลวรณ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0