มีผลิตภัณฑ์มากมายที่อ้างสรรพคุณว่าสามารถป้องกันผิวหนังหย่อนคล้อยได้ไม่ว่าจะถูกต้องตามกฎหมายหรือเป็นเพียงความฝันลมๆแล้งๆเท่านั้น และถ้าไม่สามารถป้องกันได้จริงๆ งั้นเราควรจะแก้ไขด้วยวิธีไหนดี?
ครีมหรือเซรั่มทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ไหม?
บริเวณของผิวหนังที่พบคอลลาเจนกับอีลาสตินคือผิวหนังชั้นใน โครงสร้างเหล่านี้จะทำให้ผิวหนังกระชับหรือที่เรียกว่าการยกของผิวหนัง เมื่อคนเราอายุมากขึ้นและได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมอย่างรังสียูวี ความเครียด มลภาวะ และการสูบบุหรี่ คอลลาเจนกับอีลาสตินก็จะค่อยๆเสื่อมถอยลงไปทำให้เกิดริ้วรอยและผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อยซึ่งแม้แต่การทาครีมก็ไม่อาจแก้ไขปัญหานี้ได้ อย่างไรก็ตามว่ากันว่าเซรั่มกับครีมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจะสามารถปกป้องผิวหนังและช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดจากมลพิษและแสงแดดได้หากใช้เป็นประจำ
ผลิตภัณฑ์ใดที่สามารถต่อสู้กับผิวหนังหย่อนคล้อยได้? (ถ้ามี)
คุณควรทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้กระทั่งในช่วงฤดูหนาว แม้ว่าในช่วงฤดูหนาวจะมีรังสียูวีบีน้อยกว่า แต่ระดับยูวีเอก็ยังมหาศาลอยู่ รังสียูวีเอมีความยาวคลื่นที่สามารถทะลุผ่านแก้วได้ยาวกว่ารังสียูวีบีแถมยังทำให้คอลลาเจนกับอีลาสตินเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คุณจึงควรเลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี ขณะเดียวกันรังสีอินฟราเรดและแสงที่มองเห็น (HEVL) ซึ่งมีความยาวคลื่นที่ยาวกว่าและมีพลังงานสูงก็สร้างความเสียหายได้รุนแรงไม่แพ้กัน ครีมกันแดดชนิด Physical Block อย่างซิงค์ออกไซด์ซึ่งพบได้ใน SheerZinc SPF 30 ของ DermaQuest ราคา 41 ปอนด์ อาจมีความสำคัญเนื่องจากพวกมันจะสะท้อนแสงออกไปจากผิวหนัง นอกจากนี้ก็ยังมีครีมกันแดดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดได้ เช่น Murad Environmental Shield Essential C Day Moisture SPF 30 ราคา 60 ปอนด์
วิถีชีวิตและการเลือกรับประทานอาหารทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ไหม?
เมื่อเวลาผ่านไปเราจะสูญเสียปริมาตรของเนื้อเยื่อใต้ผิวผ่านการเปลี่ยนแปลงของไขมัน กล้ามเนื้อและกระดูก การเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ การเลิกสูบบุหรี่ การลดดื่มแอลกอฮอล์ การผ่อนคลายความตึงเครียด และการทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพจะช่วยชะลอปัจจัยภายนอกต่างๆที่ทำให้แก่เหล่านี้ได้ การศึกษาชี้ว่าตัวแปรภายนอกมีความสำคัญยิ่งกว่าพันธุกรรมเสียอีก ความเสียหายที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระจะส่งผลให้เอนไซม์ MMP-1 เพิ่มจำนวนตัวรับสัญญาณและทำให้คอลลาเจนกับอีลาสตินเสื่อมสภาพลง สารต้านอนุมูลอิสระชนิดทาภายนอกและรับประทานจะช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ การเลือกรับประทานผักและผลไม้ก็มีส่วนช่วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นพริกเหลืองกับพริกส้มจะมีแคโรทีนอยด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมาก ส่วนมะเขือเทศมีไลโคปีนที่ป้องกันแสงแดด ขณะที่อะโวคาโด้อุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อผิวหนัง
อะไรคือทางเลือกล่าสุดในการ ‘ยกกระชับ’ แบบไม่ใช้เครื่องสำอาง?
ฉันเชื่อมั่นในกระบวนการดูแลและบำรุงสุขภาพผิวที่ดี การเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และการรักษาโดยไม่ผ่าตัด เช่น การใช้เข็มขนาดเล็ก การรักษาด้วยวิธีนี้จะไม่ทำลายคอลลาเจนแต่จะกระตุ้นผิวในการฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัยทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น สว่างขึ้น และแข็งแรงขึ้น ทั้งนี้คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการบำรุงผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับผิวของคุณมากที่สุด การรักษาอื่นๆที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้แก่ เลเซอร์และการใช้คลื่นวิทยุ รวมถึงเทคโนโลยีการรักษาด้วยเครื่องอัลเทอร่าซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกับอีลาสตินใต้ผิวหนังขึ้นมาใหม่เพื่อยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
แล้วการรักษาโดยการผ่าตัดล่ะ?
แน่นอนว่าการยกกระชับผิวหน้าโดยการผ่าตัดจะเห็นผลได้โดยทันที แต่ทุกวันนี้คนเราก็เริ่มมองหาทางเลือกอื่นที่ใช้เวลาน้อยลง ผลที่ตามมาคือการร้อยไหมกระชับผิวหน้ากลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะร้อยไหมเหล่านี้ไว้ใต้ผิวหนังเพื่อสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผิวหน้ากระชับตามที่ใจปรารถนา
