วันแรกที่ทารกน้อยถือกำเนิดมาบนโลกนี้ หลังจากหมอดูดน้ำคล่ำในช่องปากเพื่อเปิดการแสดงออกต่อโลกใบใหม่ สิ่งที่เด็กตอบสนองคือการร้องไห้กระจองงองแง เพื่อเปิดรับอากาศเข้าไปในปอดเป็นครั้งแรก
เค้าหยุดการกรีดร้องนี้เมื่อมีผ้ามาห่อหุ้มพร้อมอ้อมกอดอันอบอุ่นและการกระตุ้นความสุขที่ปาก
จากพฤติกรรมนี้เราจะเห็นได้ว่าทารกน้อยคนนี้เกิดมาพร้อมกับความทุกข์และความต้องการที่จะมีความสุข
ดังที่เรียกร้องตั้งแต่วันที่เกิดมา แล้วเราทุกคนก็ต่างเคยเป็นเด็กทารกน้อยคนนั้นมาก่อน
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าเราจะรู้สึกไม่ชอบความทุกข์และอยากมีความสุขตลอดเวลา
เมื่อมีปัจจัยแวดล้อมที่ไม่ได้เป็นดั่งที่คิด ได้ยินเสียงที่ไม่อยากได้ยินมากระทบ
ทั้งที่เราก็รู้สึกว่าฉันทำดีแล้ว ฉันคิดดีแล้ว ฉันพูดถูกแล้ว กลับยังไม่ดีพอแล้วตกลงฉันควรฟังใคร
ฉันควรคิดอย่างไร ฉันควรทำอะไร แล้วอะไรคือความจริง
ความจริงคือ ความทุกข์คือส่วนหนึ่งของชีวิต
ทุกข์จากอะไร
1.การมีขอบเขตและกำแพงของตัวเอง ตัวกู ของกู (ทั้งที่ความจริงเราเกิดมาเพื่ออิงอาศัย)
2.การพยายามรักษาสภาวะทุกข์อย่างให้ตัวเองรู้สึกดีเหมือนเดิม เพื่อนต้องรักเราเหมือนเดิม ต้องมีชื่อเสียงเท่าเดิม ต้องมีเงินไม่น้อยกว่าเดิม อื่นๆ (ทั้งที่ความจริงชีวิตคือการเปลี่ยนแปลงและไม่มีอะไรเหมือนเดิมตลอดเวลา)
3.พยายามแสวงหาความสุขหลีกเลี่ยงความทุกข์ (ทั้งที่ความจริงเราเลี่ยงทุกข์ไม่ได้)
( จากหนังสือ สมองพุทธะ)
ความจริงคือปกติ คิดตามแล้วรู้สึกเป็นปกติ ได้ยินแล้วรู้สึกปกติ ทำตามแล้วรู้สึกปกติ
และการมีความสุขคือทักษะอย่างนึงที่เราฝึกฝนได้ เพราะสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิดและจิตใจของเรา ( Psychological mind ) ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ
1.สมองส่วนหน้า ( Frontal lobe) ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว การรับรู้ ความคิด สติปัญญา สมาธิ การมีเหตุผล การแก้ปัญหา
2.สมองส่วนการเก็บข้อมูล ( Parietal lobe ) ทำหน้าที่ในการรวบรวมและประมวลข้อมูลความรู้สึก
3. สมองส่วนระบบลิมบิก ทำหน้าที่ควบคุมการตอบสนองต่ออารมณ์ พฤติกรรม สัญชาติญาณความต้องการในด้านต่างๆ และความจำระยะยาว
ซึ่งเมื่อเราเกิดมาสมองส่วนที่สามจะทำงานเป็นหลักเพื่อให้ชีวิตเราอยู่รอด เพื่อให้สมองส่วนที่หนึ่งและสองค่อยๆเติบโตตามพัฒนาการและการฝึกฝน เพื่อให้เราสามารถมีชีวิตที่สมดุลและหลากหลายได้
ดังนั้นเราสามารถฝึกฝนสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ในทุกส่วนได้รวมถึงการมีความสุข
เหมือนเราฝึกเดิน ฝึกพูด ฝึกขับรถ ฝึกเล่นดนตรี ทั้งที่ไม่เคยเป็นก็เป็นได้
เพราะการฝึกฝนทำให้สมองของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา
ฝึกอย่างไร?
1. ฝึกที่จะช้าลง สังเกตอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของตนเองอย่างซื่อสัตย์ เปิดใจยอมรับและไม่ตัดสิน
2.ความเพียรในการปล่อย ปล่อยความคิด ความรู้สึกที่เราต่อยอดมาจากการรับรู้
3.เพิ่มอารมณ์ที่เป็นบวก ช้าลงเพื่ออิ่มเอมกับความดีและคุณค่า แม้เป็นสิ่งเล็กน้อย
การฝึกตนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้สมองเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ที่สำคัญ เราจะมีความสุขจากการมีความรักและเมตตาต่อตนเองและผู้อื่นได้อย่างแท้จริง
**เพราะความสุขเป็นทักษะที่เราฝึกฝนได้**
Youtube : https://youtu.be/X2ZlC3Q1muc พาไปทานอาหารเช้าแถวบ้าน
----------------------------------------------------------------------------
Page FB ดีต่อใจ โดย หมอเอิ้น พิยะดา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10156783544953550&id=306538978549
----------------------------------------------------------------------------
IG : https://www.instagram.com/earnpiyada/
----------------------------------------------------------------------------
Website : http://www.earnpiyada.com/
หมอเอิ้น พิยะดา