เมื่อ AI กำลังจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดและโฆษณาในยุคหน้า วันนี้เราลองมาดูตัวอย่างแคมเปญการตลาดขององค์กรที่รณรงค์เรื่องการกำจัดโรคไข้มาลาเรียอย่าง Malaria No More ที่ประเทศอังกฤษ ที่เลือกใช้ซูเปอร์สตาร์อย่าง David Beckham อดีตนักฟุตบอลสุดหล่อชื่อดังระดับโลกมาเป็นพรีเซนเตอร์ในการถ่ายทำวิดีโอโฆษณาหนึ่งชิ้น แต่สามารถทำให้ David Beckham คนนี้พูดได้ถึง 9 ภาษาในครั้งเดียว
ปกติในการทำโฆษณาหนึ่งภาษาต้องใช้การถ่ายทำหนึ่งครั้ง ดังนั้นถ้าจะทำโฆษณาที่ให้พรีเซนเตอร์พูดถึง 9 ภาษาได้อย่างคล่องแคล่วนับว่าเป็นเรื่องที่ยากถึงยากมาก แทบจะเรียกได้ว่า Impossible ก็ว่าได้ครับ
สิ่งที่ทำได้ในสมัยก่อนคือการพากษ์เสียงใหม่ลงไป เหมือนที่เราเคยเห็นบ่อย ๆ เวลาหนังฝรั่งแต่เป็นเสียงไทย แต่สิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติคือปากไม่ตรงกับเสียง ทำให้อารมณ์ที่ได้ไม่เต็มอิ่มเท่ากับการดู Sound Track จริงมั้ยครับ
แต่ด้วยเทคโนโลยี AI ที่พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะในสาขาที่เรียกว่า Machine Vision จนออกมาเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Deepfake ทำให้การสร้างภาพวิดีโอที่เลียนแบบคน ๆ หนึ่งขึ้นมาสามารถเป็นไปได้เหมือนจริงมากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะด้วยเทคโนโลยี Deepfake นี้ทำให้การถ่ายวิดีโอโฆษณาของ David Beckham แค่ครั้งเดียวด้วยการพูดหนึ่งภาษา แต่กลับสามารถทำให้ปากของเบ็คแฮมพูดได้ถึง 9 ภาษาได้อัตโนมัติ
ลองดูคลิปที่ว่าก่อนจะอ่านต่อครับ
จากคลิปวิดีโอของแคมเปญนี้ จะเห็นเหมือนว่า Beckham สามารถพูดได้ถึง 9 ภาษาอย่างไม่มีสะดุด พูดได้ประหนึ่งเป็นภาษาแม่ของตัวเองทั้งนั้น ทั้งหมดนี้ทำให้การถ่ายทำโฆษณาดาราดังที่มีค่าตัวแพงแค่หนึ่งครั้ง สามารถเอาไปต่อยอดใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพราะคุณลองคิดดูซิว่าถ้าต้องจ่ายค่าตัว Beckham เพื่อให้ถ่ายโฆษณาได้ครบทั้ง 9 เวอร์ชั่นของภาษาท้องถิ่นที่จะเอาไปเผยแพร่จนเสร็จ คงจะต้องจ่ายค่าตัวคูณ 9 ไปเป็นอย่างน้อยโดยไม่ต้องสงสัย
เราจะเห็นว่าเทคโนโลยี AI เข้ามาใกล้ตัวกับธุรกิจ การตลาด และโฆษณามากขึ้นเรื่อย ๆ ในวันนี้อาจดูเป็นเรื่องไกลตัวมาก แต่เชื่อได้เลยว่าในอนาคตอีกไม่นานพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็จะสามารถใช้ดาราดังมาพูดถึงเราดี ๆด้วยเทคโนโลยี Deepfake จาก AI นี้ได้ง่าย ๆ แน่นอนครับ
