โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เมื่ออาเซียนขยับรับมือเศรษฐกิจ-การเมืองโลกป่วน

Money2Know

เผยแพร่ 24 มิ.ย. 2562 เวลา 09.30 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
เมื่ออาเซียนขยับรับมือเศรษฐกิจ-การเมืองโลกป่วน

ผู้นำอาเซียนยืนยันที่จะผลักดันการเจรจาRCEP ให้สำเร็จภายในปีนี้เพื่อที่จะช่วยให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนรวมทั้งสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคโดยเฉพาะผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้าของโลก 

ทั้งนี้ ผู้นำอาเซียนประกอบด้วยไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่ม G-20 ที่เมืองโอซากา ญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ด้วย โดยจะร่วมผนึกกันในการแสดงความคิดเห็นในเวทีดังกล่าว เพื่อหวังให้ภาวะการค้าโลกผ่อนคลายความเสี่ยงลงจากความขัดแย้งร้อนแรงในขณะนี้

การประชุมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ซึ่งมีขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายนนั้นถือได้ว่า เป็นข่าวดี เพราะรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนทั้ง 10 ประเทศได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเจรจา RCEP 

เพื่อที่จะให้สรุปผลเรื่องการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน ภายในปีนี้ตามที่ตั้งเป้าไว้ในการประชุมซัมมิตครั้งที่ 35 ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ และท่ามกลางภาวะตึงเครียดและความไม่แน่นอนทางการค้า ทางกลุ่มผู้นำอาเซียนยังหวังจะร่วมมือกันให้ RCEP เป็นเขตการค้าที่สามารถสร้าง Supply Chain ให้กับโลก 

หาก RCEP รวมตัวกันได้สำเร็จก็จะประกอบด้วยสมาชิดอาเซียน 10  ประเทศ กับอีก 6 ประเทศในเอเชีย-แปซิฟิกที่มีจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีประชากรรวมกันกว่า 3,560 ล้านคน และมีมูลค่าการค้ารวมกันมากกว่า 10.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 29% ของมูลค่าการค้าโลก 

นอกจากนี้ หลังจากประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้แล้ว จะมีการประชุม RCEP ที่สำคัญในระดับรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคมที่กรุงปักกิ่ง และที่ไทยในเดือนกันยายนและพฤศจิกายน รวมทั้งการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส RCEP ในปลายเดือนมิถุนายน ที่ออสเตรเลีย และปลายเดือนกรกฎาคมที่เมืองเจิ้งโจวของจีน สำหรับการขับเคลื่อนให้มีการเจรจาที่คืบหน้าและข้อสรุปตามเป้าหมาย

ขณะที่การเตรียมอาเซียนรับมืออนาคตนั้น จะร่วมกันทำแผนงานด้านดิจิทัล การทำแผนงานด้านนวัตกรรม การวางนวทางพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับการใช้ดิจิทัลในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย การเชื่อมโยงระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็น One Stop Service ของอาเซียนที่เรียกว่า ASEAN Single Window ทั้ง 10 ประเทศ

รวมทั้งการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวและนวัตกรรมอาหารตามหลักการของ Green Economy เช่น ส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืน การทำงานในลักษณะที่ร่วมมือกันทำวิจัย รวมถึงพัฒนาพลังงานชีวภาพ

อย่างไรก็ตาม ในอีกซีกหนึ่งของภูมิภาคตะวันออกกลางที่ร้อนระอุมากขึ้น จากการที่ทั่วโลกจับตาทองประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศล่าสุดว่า จะใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมอีกในวันจันทร์นี้ ซึ่งสหรัฐได้กล่าวหาอิหร่านยิงโดรนของกองทัพสหรัฐ ทำการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านในขณะที่บินอยู่เหนือน่านฟ้าสากลแถบช่องแคบฮอร์มุซ

หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว สหรัฐได้เปิดฉากโจมตีทางไซเบอร์แต่ในวันเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์ ได้สั่งถอนการโจมตีทางอากาศที่พุ่งเป้าไปที่ระบบขีปนาวุธและจรวดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน โดยที่ผู้นำสหรัฐระบุว่า การโจมตีดังกล่าวอาจจะทำให้ชาวอิหร่านเกิดการสูญเสียถึง 150 คน

ทั้งนี้ วอชิงตัน โพสต์ ได้รายงานว่า การโจมตีของสหรัฐดังกล่าว ถือป็นการตอบโต้การยิงโดรนของสหรัฐร่วงลง รวมทั้งการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งสหรัฐกล่าวโทษอิหร่านว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ขณะเดียวกัน นักลงทุนทั่วโลกก็กำลังจับตามองแผนการระดมทุน 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำเนียบชาวได้มอบหมายจาเร็ต ครุชเนอร์ บุตรเขยของประธานาธิบดีทรัมป์ ไปดำเนินการตามแผนสร้างสันติภาพในเขตฉนวนกาซาและ West Bank 

ทั้งนี้ จะมีการประชุมกันในบาห์เรนช่วงวันที่ 25-26 มิถุนายน โดยร่วมกับภาคเอกชน สำหรับการระดมและจัดหาทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาให้กับชาวปาเลสไตน์ 28,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลือจะเป็นการจัดสรรให้กับจอร์แดน 7,500 ล้านดอลลาร์ ให้กับอียิปต์จำนวน 9,000 ล้านดอลลาร์ และให้กับเลบานอนอีก 6,000 ล้านดอลลาร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0