โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เมียแฉ 6 คนรุมตีผัวถึงบ้าน งงแค่เปิดไฟสูงขอทาง – โจ๋โต้โดนชกก่อน ฟ้องพ่อเอาคืน (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 26 มิ.ย. 2562 เวลา 20.16 น.
เมียแฉ 6 คนรุมตีผัวถึงบ้าน งงแค่เปิดไฟสูงขอทาง – โจ๋โต้โดนชกก่อน ฟ้องพ่อเอาคืน (คลิป)
จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย. 62 เกิดเหตุวัยรุ่นยกพวกรุมทำร้าย นายสมพงษ์ วงศ์วรรณ อายุ 56 ปี ชายรับเหมาก่อสร้างที่บ้านพักจนได้รับบาดเจ็บ สา

จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย. 62 เกิดเหตุวัยรุ่นยกพวกรุมทำร้าย นายสมพงษ์ วงศ์วรรณ อายุ 56 ปี ชายรับเหมาก่อสร้างที่บ้านพักจนได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเกิดจากชายรับเหมาเปิดไฟสูงเพื่อขอให้วัยรุ่นผู้ก่อเหตุที่นั่งอยู่ในรถเก๋งให้หลบทาง แต่วัยรุ่นคนนี้เกิดไม่พอใจ จึงออกจากรถมาด่าทอและขู่จะตามไปทำร้ายชายรับเหมาก่อสร้าง เมื่อชายรับเหมากลับมาถึงบ้าน วัยรุ่นคนนี้ก็ยกพวกตามมาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ

นายสมพงษ์ วงศ์วรรณ ผู้บาดเจ็บ
นายสมพงษ์ วงศ์วรรณ ผู้บาดเจ็บ

วันที่ 26 มิ.ย. 62 นางอนงค์ พุทธแสน ภรรยาของนายสมพงษ์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองเห็นเหตุการณ์ตอนที่วัยรุ่นยกพวกมาทำร้านสามีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องป้องกันหลาน ๆ ที่อยู่ในบ้านไม่ให้เกิดอันตราย ซึ่งเท่าที่ตนเองพอจะรู้เรื่องคือ สามีขับรถไปทำธุระที่บ้านเพื่อน ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของชายวัยรุ่นคนก่อเหตุ ระหว่างเดินทางกลับบ้านมีรถของวัยรุ่นจอดขวางทางอยู่ จึงกระพริบไฟเพื่อขอให้คนบนรถขับหลบทางให้ ซึ่งคนขับก็ค่อย ๆ ขับเดินหน้าไป แต่วัยรุ่นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนขับรถก็ลงจากรถ พร้อมกับแฟนสาวที่นั่งมาด้วยกัน และตะโกนต่อว่าสามีตนเอง สามีของตนเองกับลูกน้องจึงลงไปพูดคุยและมีปากเสียงกัน ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้าย แต่ก่อนที่สามีจะขับรถออกมา วัยรุ่นคนนี้ตะโกนขู่ว่าจะมาทำร้าย และเมื่อสามีขับรถมาจอดที่หน้าบ้านได้ไม่ถึง 20 นาที ก็มีรถเก๋งและรถกระบะขับมาจอดที่ข้างถนนฝั่งตรงข้ามกับบ้าน ก่อนที่วัยรุ่นที่เพิ่งมีปัญหากับสามีจะลงมากับพวก 2-3 คน และกรูเข้าทุบตีสามีอย่างรุนแรง

ภาพจำลองเหตุการณ์
ภาพจำลองเหตุการณ์

จากนั้นตนรีบออกมาช่วยสามีและใช้เหล็กขุดดินตีคนที่มาทำร้ายสามี 1 ครั้ง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าโดนใคร แต่ฝั่งวัยรุ่นก็ไม่ยอมหยุด และยังจะหันมาทำร้ายตนด้วย ตนจึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนละแวกใกล้บ้าน และรีบพาสามีหลบเข้ามาอยู่ในบ้าน พร้อมกับล็อกประตูไม่ให้ฝั่งวัยรุ่นเข้ามาทำร้าย ซึ่งตอนนั้นวัยรุ่นได้พยายามทำลายข้าวของ ทั้งทุบประตูบ้าน ทุบรถของสามีที่จอดอยู่หน้าบ้าน ก่อนจะแยกย้ายหนีไป หลังจากเกิดเหตุตนเองและลูกชายได้รีบนำตัวสามีส่งโรงพยาบาล เพราะสามีหมดสติไป ซึ่งเบื้องต้นหมอบอกว่าสามีหัวแตก 3 จุด กระดูกโหนกแก้มแตก และตาข้างขวาบวมจนไม่สามารถมองเห็นได้ชัด และยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ ทั้งนี้ สามีตนไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากับวัยรุ่นคนนี้ แต่ก็ไม่คิกว่าสาเหตุเพียงเพราะการไปกระพริบไฟใส่ จะทำให้วัยรุ่นคนนี้ไม่พอใจจนตามมาทำร้าย

นางอนงค์ พุทธแสน ภรรยาของนายสมพงษ์
นางอนงค์ พุทธแสน ภรรยาของนายสมพงษ์

ด้านนายศราวุธ อ้อมแก้ว อายุ 27 ปี ยอมรับว่าทำร้ายนายสมพงษ์จริง แต่เพราะตนเองถูกนายสมพงษ์ทำร้ายก่อน โดยเมื่อคืนนี้รถของนายสมพงษ์ขับผ่านหน้าบ้าน และบีบแตรให้ตนเองออกไปขยับรถ ตนเองก็ออกไปเพื่อจะขยับรถให้ แต่ด้วยที่ยังขับไม่คล่อง ประกอบกับฟิล์มรถมืด ทำให้มองทางไม่ค่อยสะดวก จึงค่อย ๆ ขยับเดินหน้า แต่ถูกนายสมพงษ์กระพริบไฟสูงใส่ตลอด ทำให้ตนเองเกิดโมโห ออกมาต่อว่า ไม่ให้นายสมพงษ์กระพริบไฟสูง แต่นายสมพงษ์กับลูกน้องกลับลงมาล็อกคอและรุมจะทำร้าย

นายศราวุธ อ้อมแก้ว ผู้ก่อเหตุ และแฟนสาว
นายศราวุธ อ้อมแก้ว ผู้ก่อเหตุ และแฟนสาว

ตอนนั้นแฟนสาวตนกลัวว่าจะเกิดเรื่อง จึงเข้าไปห้ามและขอให้คนแถวนั้นเข้ามาช่วยห้าม ก่อนที่กลุ่มของนายสมพงษ์จะหยุดและขับรถออกไป ตนจึงนำเรื่องไปบอกพ่อ ซึ่งทำให้พ่อไม่พอใจและพาตนเองพร้อมกับเพื่อนตามไปหานายสมพงษ์ที่บ้าน เพื่อจะถามว่าทำไมถึงต้องทำร้ายลูกชาย และเข้าไปทำร้ายนายสมพงษ์จริง แต่พ่อของตนเองก็ถูกภรรยาของนายสมพงษ์ใช้เหล็กตีจนหัวแตกเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นตนเองและเพื่อนจึงไปทุบรถของนามสมพงษ์จนพังเสียหาย ก่อนที่จะกลับมาและพาพ่อไปทำแผลที่โรงพยาบาล

สภาพรถของผู้เสียหาย
สภาพรถของผู้เสียหาย

ตนยอมรับผิดเรื่องที่ตนเองอารมณ์ร้อน แต่ที่ทำไปนั้นไม่ใช่ว่าตนเองเป็นคนเริ่มก่อน และอยากให้สังคมฟังความทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนที่จะตัดสินว่าใครถูกหรือผิด ซึ่งเบื้องต้นได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี แต่หลังจากนี้ตำรวจจะเรียกตนเองและฝั่งคู่กรณีเข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง

https://youtu.be/fvUMidNxCJE

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0