โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เมียคาใจผัว ดับคาห้องขัง รุดดูวงจรปิด สั่งเปลี่ยนกก.สอบสวนข้อเท็จจริง

Khaosod

อัพเดต 07 เม.ย. 2563 เวลา 04.30 น. • เผยแพร่ 07 เม.ย. 2563 เวลา 04.25 น.
ดับคาห้อง
เปิดวงจรปิดคลี่คดีหนุ่มดับคาห้องขัง

เมียรุดดูวงจรปิดหลังผัว ดับคาห้องขัง สภ.เวฬุวัน ตามตัวมีบาดแผล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น สั่งเปลี่ยนคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดใหม่ให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

กรณี นายพุทธพร โสภาพล หรือโท อายุ 35 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เสียชีวิตภายในห้องขัง สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น ซึ่งภรรยาและญาติติดใจสาเหตุการตายว่า ถูกตำรวจซ้อมจนเสียชีวิตหรือไม่ เนื่องจากพบบาดแผลตามร่างกาย เมียยืนยันว่าก่อนกลับโทรแจ้งตร.ให้ช่วยควบคุมตัวสามีไปสงบสติอารมณ์ เพราะเมาอาละวาด ญาติของผู้ตายพยายามแจ้งความ 3 ครั้ง ทางตำรวจไม่รับแจ้งความและขอดูกล้องวงจรปิด  กระทั่งเมื่อวานภรรยาของผู้ตายเข้าพบกับ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดใหม่ และสั่งการให้สภ.เวฬุวัน เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้ญาติดูทันที

กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ เชิญญาติของผู้เสียชีวิตมาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งภรรยาและญาติๆของนายโท เดินทางไปดูที่ สภ.เวฬุวัน พบว่าภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายโทมาที่โรงพักกลางดึกวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องวันที่ 30 มี.ค. และภายหลังจากภรรยาของนายโทกลับไป เวลาประมาณ 02.00 น.ตำรวจลากตัวนายโทในสภาพเมาหลับใส่กุญแจมือไพล่หลัง เข้าไปในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาผ่านไป 10 นาที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาปลดกุญแจมือออก โดยที่นายโทถูกคุมขังอยู่เพียงลำพัง

ซึ่งพอนายโทรู้สึกตัวก็พลิกตัวไปมา ขึ้นมานั่งบ้าง ถอดเสื้อออกบ้าง พร้อมทั้งตักน้ำในห้องขังราดตัวเองและดื่มกินจากขัน แล้วลงมานอนอีกขังและพลิกตัวไปมานานหลายชั่วโมงลักษณะคาดว่าจะร้อนและกระหายน้ำ กระทั่งเวลาประมาณ 03.30 น. เป็นครั้งสุดท้ายที่นายโทพลิกตัวนอนตะแคงคว่ำหน้าลงกับพื้นและแน่นิ่งไป

ก่อนที่ช่วงเช้าประมาณ 06.00 น. ทางตำรวจเดินมาดูก็พบว่านายโทนอนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ จึงเรียกตำรวจนายอื่นๆเข้ามาช่วยกันดูก็พบว่านายโทเสียชีวิตแล้ว พร้อมทั้งประสานแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบตามขั้นตอนและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

นางจันทร์ เพียชา อายุ 60 ปี น้าสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ทุกคนดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วก็สบายใจขึ้นมาบ้าง พร้อมทั้งทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นยืนยันจะตรวจสอบอย่างเป็นธรรมให้กับครอบครัว และเปลี่ยนกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงใหม่ให้ตามที่ญาติๆทุกคนต้องการ

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลชันสูตรของทางแพทย์ ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอะไร และญาติๆทุกคนก็จะยอมรับตามหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏเพราะยังเชื่อในกระบวนการยุติธรรมว่ายังมีอยู่จริง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0