เมินคำสั่งห้าม ‘ฮ่องกง’ เดินหน้าชุมนุม หลังผู้ประท้วงโดนแทงเจ็บหนัก

ชาวฮ่องกงเมินคำสั่งของตำรวจ ออกมารวมตัวเดินขบวนในวันนี้ (20 ต.ค.) ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมการชุมนุมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากความโกรธแค้นต่อเหตุการณ์รุนแรงเมื่อเร็วๆ นี้ ที่มีผู้ประท้วงโดนมีดแทง และถูกรุมซ้อม

ทางการฮ่องกงมีคำสั่งห้ามการชุมนุมในเขตจิมซาจุ่ย ซึ่งเป็นย่านการค้า ที่เต็มไปด้วยร้านขายสินค้าหรูหรา และโรงแรม โดยให้เหตุผลในเรื่องความปลอดภัย และความรุนแรงที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจากกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรง

อย่างไรก็ดี ชาวฮ่องกงหลายพันคนพากันเข้าร่วมการชุมนุมโดยไม่สนใจกับคำสั่งห้ามดังกล่าว ในการเคลื่อนไหวเพื่อพยายามรักษาแรงกดดันต่อแกนนำบริหารเกาะฮ่องกงที่สนับสนุนจีน หลังการประท้วง และการก่อเหตุรุนแรง ที่ยืดเยื้อมาเกือบ 5 เดือนแล้ว

ความตึงเครียดในฮ่องกง เพิ่มสูงขึ้นอยู่แล้ว ก่อนหน้าที่การประท้วงในวันนี้จะเริ่มขึ้น หลังเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (16 ต.ค.) จิมมี ชาม แกนนำกลุ่มจัดการชุมนุมช่วงสุดสัปดาห์ โดนรุมทำร้ายจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ตามตัวเหตุการณ์เมื่อคืนวานนี้ (19 ต.ค.) ที่มีชายใช้มีดปาดคอ และแทงเข้าบริเวณท้องของผู้ประท้วงรายหนึ่ง ที่กำลังยืนแจกใบปลิวอยู่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ภาพที่มีการแชร์ไปทั่วในโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นว่า มือมีดตะโกนข้อความสั้นๆ หลังจากที่ทำร้ายผู้ประท้วงดังกล่าวว่า “ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน พวกแกทำให้ฮ่องกงวุ่นวายไปหมด”

ทั้งนี้ วิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดศาลเตี้ยขึ้นหลายครั้งในฮ่องกง ทั้งจากฝ่ายที่สนับสนุนทางการ และฝ่ายต่อต้าน

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ประท้วงรุมทำร้ายร่างกายผู้คน ที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขา เช่นเดียวกับที่บรรดานักเคลื่อนไหว ที่เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย โดนทำร้ายร่างกายจากกลุ่มที่ไม่ทราบที่มา

ฝ่ายประท้วงกล่าวหาการโจมตีแกนนำ ที่เกิดขึ้นมาแล้วอย่างน้อย 8 ครั้ง นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ว่าเป็นฝีมือของแก๊งอันธพาล ที่จับมือเป็นพันธมิตรกับผู้สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่ง

ขณะที่ทางการจีนก็ออกมากล่าวหาว่า เหตุประท้วงที่เกิดขึ้น เป็นการเคลื่อนไหวที่มีต่างชาติให้การหนุนหลังอยู่ พร้อมประณามการทำร้ายผู้ที่สนับสนุนจีน