สวัสดีค่ะ ชาว Rabbit Today ที่น่ารัก เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง! วันนี้อาจจะดูแปลกไปสักหน่อยที่ ‘เพชรดาว’ มาเขียนคอลัมน์เรื่องอาหาร จริงๆ แล้วถ้าเขียนเรื่องอาหารธรรมดาก็คงจะไม่แปลกเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เขียนถึง เมนูอาหารเย็นสำหรับสายสุขภาพและสายลดน้ำหนักจ้า!
ก่อนอื่นขอถามว่า เบื่อมั้ย? กับการลดน้ำหนักที่ต้องทานแต่อะไรจืดๆ แทบทุกวัน! ถ้าเบื่อละก็ มาทางนี้เลยค่ะ ขอบอกเลยว่าแต่ละเมนูมื้อเย็นที่เรานำมาแนะนำนั้น แต่ละมื้อไม่เกิน 300 แคลอรี แถมไม่น่าเบื่อและอร่อยแตกต่างกันไปในแต่ละวันด้วย! สัปดาห์หนึ่งมี 7 วัน เราก็จะขอแนะนำ 7 วัน 7 เมนูไปเลยจ้า! บอกเลยว่า ถ้าไม่ผอมฉันจะไม่หยุด หน้าท้องไม่ลดฉันจะไม่เลิก!!!
วันที่ 1
วันแรกเริ่มต้นด้วย
- แกงจืดไข่เจียวน้ำ (เพียง 120 แคลอรีเท่านั้น)
- ข้าวสวยอีก 1 ทัพพี (จะเป็นข้าวกล้องหรือข้าวสวยก็ได้ 80 แคลลอรี)
เอ๊ะ! แต่แกงจืดไข่เจียวกับข้าวสวย ดูเหมือนมันจะจืดไปหน่อย…งั้นขอเพิ่มเข้าไปอีกสักเมนู
- น้ำพริกอ่อง จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ 80 แคลอรี
วันแรกทานมื้อเย็นไป 280 แคลอรีแบบสวยๆ จ้า!
วันที่ 2
เมื่อวานทานข้าวไปแล้ว วันนี้เปลี่ยนเป็น
- ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก 1 ชาม แทนแล้วกัน (180 แคลอรี)
- ปิดท้ายด้วยขนมกล้วยทอด (แต่ต้องเป็นกล้วยแขกนะ) 1 ชิ้นจำนวน 50 แคลอรี อะ! ใจดีให้ 2 ชิ้น! ( 100 แคลอรี )
วันที่สองทานมื้อเย็นไปทั้งหมด 280 แคลอรีจ้า!
วันที่ 3
วันที่ 3 มาที่เมนูเบาๆ กันบ้างดีมั้ย? มาจ้ะ เริ่มกันเลย
- สลัดปลาทูน่า 1 จาน (122 แคลอรี)
- ไข่ต้ม 1 ฟอง (78 แคลอรี)
- แอปเปิ้ล 1 ลูก (42 แคลอรี )
รวมแล้วได้รับพลังงานถึง 242 แคลอรีเชียว แต่ไม่เกินที่ตั้งไว้! ผอมต่อไม่รอละเด้อออ
วันที่ 4
วันนี้อยากทานอาหารอีสาน เราจัดให้แบบไม่เกิน 300 แคลอรีจ้า!
- ส้มตำไทย แต่ต้องไม่ใส่ถั่วนะ (55 แคลอรี) หรือจะเป็นส้มตำปูไม่ใส่ถั่ว (35 แคลอรี)
- ลาบหมู 1 จาน (119 แคลอรี)
- น่องไก่ย่าง 1 น่อง (97 แคลอรี) อย่าพลาดเปลี่ยนเป็นน่องไก่ทอดเชียว เพราะน่องไก่ทอดให้พลังงานถึง 345 แคลอรีเลยละ!!!
เหตุผลที่ไม่แนะนำข้าวเหนียวก็เพราะว่า ข้าวเหนียวคือสิ่งที่คนลดน้ำหนักควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด! เพราะคุณรู้หรือไม่ว่า แค่ข้าวเหนียวปกติจืดๆ น่ะมีพลังงานประมาณ 230 แคลอรี ถ้าอยากให้มีเมนูแป้งเสริมเข้าไปอีกสักหน่อยจริงๆ ละก็ ขอแนะนำให้เป็นข้าวสวยจะดีกว่า แต่ต้องตักเพียงแค่ครึ่งทัพพีเท่านั้นนะ!
วันที่สามรวมทั้งหมด 271 แคลอรี แต่ถ้าเป็นส้มตำปูไม่ใส่ถั่ว รวมทั้งหมดจะอยู่แค่ 251 แคลอรีเท่านั้น!
วันที่ 5
เมนูไทยๆ ไปแล้ว มาจ้ะ ลองเมนูฝรั่งก็มีให้ถ้าคุณอยากทาน!
- สเต๊กปลาย่าง 1 จาน (260 แคลอรี)
- เพิ่มกิมมิกในจานด้วยการใส่สับปะรด 1-2 ชิ้นเล็กๆ (ชิ้นละ 8 แคลอรี) หั่นให้สวยก็น่าทานแล้วค่ะ
มื้อนี้เราทานไปเพียง 276 แคลอรีเท่านั้นจ้า! เอาสิ
วันที่ 6
วันนี้กลับมาเมนูเส้นๆ หน่อยแล้วกัน กับเมนูอันคุ้นเคย ‘สุกี้’
- สุกี้น้ำ ( อาทิ หมู,ไก่,กุ้ง ) ไม่ใส่วุ้นเส้น 1 ถ้วย 200 แคลอรี
- มะละกอ 5 ชิ้น (ชิ้นละ 8 แคลอรี)
ในส่วนของสุกี้ขอแนะนำเป็นสุกี้น้ำใส แบบไม่ใส่วุ้นเส้น และที่สำคัญ! งดเพิ่มน้ำจิ้มนะจ๊ะ เพราะจริงๆ แล้วเมนูสุกี้สิ่งที่ทำให้อ้วนก็คือน้ำจิ้ม นั่นเพราะน้ำจิ้มมีส่วนผสมของเกลือกับน้ำตาลสูง ฉะนั้นเลี่ยงได้เลี่ยงเลยจร้า
ส่วนมะละกอจริงๆ แล้วแต่ว่าคุณอยากจะกินกี่ชิ้น แต่อย่าให้เกิน 300 แคลอรีนะ! ลองคำนวณดูดีๆ
แน่นอนว่ามื้อนี้เราทานไปเพียง 240 แคลอรีเท่าน้านนนนน!
วันที่ 7
วันสุดท้ายของสัปดาห์ วันนี้ทานอะไรดี? อยากกินอะไรเยอะๆ หลายๆ เมนู แต่รวมกันแล้วแคลไม่เยอะมาก
- ผัดผักบุ้ง (แบบไม่ใส่น้ำมัน) 1 จาน (40 แคลอรี)
- ไข่เจียว (แบบไม่ใส่น้ำมัน) 1 ฟอง (80 แคลอรี)
- ข้าวสวย 1 ทัพพี (จะเป็นข้าวกล้องหรือข้าวสวยก็ได้ 80 แคลอรี)
- คุกกี้ข้าวโอ๊ต 1 ชิ้น (75 แคลอรี)
แค่นี้ก็อิ่มแล้ว แต่ได้ถึง 4 เมนู และมื้อนี้จำนวนแคลอรีรวมทั้งหมดเพียง 275 แคลอรีเท่านั้น ถามจริงงงง?!
เอาล่ะค่ะ ข้างบนก็เป็นสูตรเมนูอาหารเย็นแบบคลีนๆ สำหรับใครที่กำลังสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใครทำตามได้รับรองว่าเห็นผล และพุงยุบแน่นอน! หากคุณต้องการจะลดน้ำหนัก เพื่อทำให้หุ่นของตัวเองดูดี สิ่งที่ควรมีก็คือ ‘วินัย’ และถ้าคุณอยากให้ได้ผลเร็วยิ่งขึ้น แนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยกัน จะยิ่งส่งผลต่อหุ่นและสุขภาพของคุณในระยะยาว
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คนที่กำลังอยู่ในช่วงกินคลีนและไดเอ็ตด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนนะ สวัสดีค่ะ