โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'

Next Empire

อัพเดต 23 ส.ค. 2561 เวลา 16.21 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. 2561 เวลา 07.15 น. • NextEmpire Team
เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'
เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'

    ถ้าพูดถึง  อากาศยานไร้คนขับ หรือที่เรียกสั้นว่า โดรน ในยุคนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จักและถ้าลองพิมพ์คำว่า โดรน ลงไปในGoogle มักจะมีคำว่า " โดรน DJI " ขึ้นมาแทบทุกครั้ง 

ในวงการคนเล่นโดรนไม่มีใครไม่รู้จักกับบริษัท DJI เพราะ  DJI เป็นบริษัทโดรนที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก

    แม้แต่หนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ก็ยังเป็นลูกค้าของDJI  แล้วใครจะไปคิดว่าโดรนที่หนังดังทั้งสองเรื่องนั้นใช้กลับไม่ใช่ของอเมริกาแต่แท้จริงแล้วนั้นDJIเป็นโดรนสัญชาติจีน100% เจ้าของบริษัทก็เป็นคนจีน และยังจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัย เทคโนโลยี ของประเทศจีน อีกด้วย  ทีนี้เราลองมาทำความรู้จักกับ DJI ให้มากขึ้นดีกว่า

เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'
เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'

เจาะประวัติเจ้าพ่อโดรนแดนมังกร

    Frank Wang (แฟรงค์ วัง) เจ้าพ่อโดรนสัญชาติจีน เขาเกิดปี 1980 ในเมืองหางโจว ประเทศจีน โดยในวัยเด็กของเขา การผจญภัยของเฮลิคอปเตอร์สีแดงจากหนังสือการ์ตูนที่เขาหลงรักเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้กับความฝันและเป็นแรงผลักดันให้ทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ ซึ่งต่อมาเขาได้รับของขวัญจากพ่อแม่ในวัย 16 ปีเป็นเฮลิคอปเตอร์บังคับแต่ความที่มันบังคับยากเขาจึงทำมันตกและพังลงในที่สุดและนี่คือจุดเริ่มต้นให้เขาซ่อมเฮลิคอปเตอร์เอง (โดยได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อที่เป็นวิศวกร) 

และเริ่มที่จะดัดแปลงระบบการบินด้วยตนเอง

    ความชื่นชอบนี้ทำให้เขาได้เข้าเรียนต่อที่ Hongkong University Of Science & Technology ในสาขาวิศวกรรมอิเลคทรอนิคส์ และในปีสุดท้ายของการศึกษาเขาได้ทำโปรเจ็คจบด้วยการสร้างระบบควบคุมการบินของเฮลิคอปเตอร์บังคับ ในความโชคร้ายระบบของมันกลับมีปัญหาในคืนสุดท้ายก่อนส่ง แต่ยังมีความโชคดีนั้นคืออาจารย์ของเขาเห็นถึงความตั้งใจและเข้าใจในสิ่งที่เขาจะทำเลยให้โอกาสเขาแก้ไขมันอีกครั้ง และนี่ก็กลายเป็นจุดกำเนิดของโดรนที่เป็นอันดับ1ของโลกในวันนี้

เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'
เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'

ถือกำเนิด DJI

    จุดเริ่มต้นของ DJI เริ่มมาจากการผลิตGimbal ชุดป้องกันการสั่นสำหรับกล้องขนาดเล็ก รวมไปถึงชุดควบคุมการบินที่ถูกพัฒนาให้บังคับและควบคุมได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานต่างชอบใจและได้รับความนิยมค่อนข้างสูง และจุดนี้เองกลายเป็นแรงกระตุ้นให้ Wang มุ่งมั่นเดินหน้าเข้าสู่ตลาดการผลิตโดรน สำหรับถ่ายภาพทางอากาศอย่างเต็มรูปแบบ

ธุรกิจที่ดีต้องมีเพื่อนคิดคู่ใจ

    ในความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากบริษัทร่วมทุนข้ามชาติ DJI North America” ซึ่งเกิดจากการจับมือร่วมกันระหว่าง  Frank Wang และ Colin Guinn (นักธุรกิจสตาร์ทอัพ รับถ่ายภาพทางอากาศ) ทั้งสองตกลงที่จะก่อตั้งบริษัท DJI North America ในรัฐ Texas เป็นบริษัทย่อย เพื่อดูแลการจัดจำหน่ายโดรนในอเมริกา ช่วงนั้น Guinn ทำผลงานได้ดีมาก เขาเปิดตลาดให้กับ DJI ในอเมริกาได้อย่างงดงาม จน Guinn ได้ถือหุ้นในสัดส่วนของบริษัทย่อยถึง  48%

เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'
เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'

ไม่มีมิตรแท้ที่ถาวร

    แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่ก็เริ่มมีปัญหาเพราะ Guinn มักจะแนะนำตัวเองกับคนอื่นๆว่าเขาคือCEOของDJIและมักจะอ้างว่าตัวเองเป็นคนพัฒนา Phantom (โดรนที่เป็นรุ่นเรื่องชื่อของ DJI) ทั้ง ๆ ที่ความจริงนั้นเป็นผลงานของทีมงานจากจีน และ Guinn เป็นแค่ส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้  Wang รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองต้องแตกกันนั้นก็คือ 

Guinn ไปทำสัญญาให้ GoPro เป็นผู้ผลิตกล้องให้กับ DJI แต่เพียงผู้เดียว  

    Wang เลยออกมาพูดว่า Guinn ไม่ใช่ CEO ของDJIรวมถึงไม่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของ Phantom ด้วย เพราะเหตุผลนี้ทำให้ Guinn ตัดสินใจยื่นฟ้อง DJI แม้สุดท้ายเรื่องราวจะจบลงในข้อตกลงนอกศาลและ Guinnก็ได้รับเงินชดเชยจาก DJI เป็นจำนวนที่ไม่เปิดเผย

คู่แข่งผู้รู้ไส้รู้พุงของDJIเป็นอย่างดี

    แต่เรื่องก็ยังไม่ได้จบลงตรงนั้นเพราะGuinn และทีมงานที่เป็นสายสืบของเขาได้ยกขโยงลาออก เพื่อย้ายไปอยู่กับบริษัท 3D Robotics และประกาศกร้าวว่าจะช่วย 3D Robotics ผลิตโดรนที่เต็มสูตรกว่า Phantom และจะตีตลาด DJIให้พังพินาศ ต่อมาในปี 2015 3D Robotics เปิดตัว Solo โดรนรุ่นแรก และมีราคาสูงถึง 1,000ดอลลาร์  ซึ่ง DJI รับมือกับการโจมตีครั้งนี้ด้วยการลดราคารุ่นที่เก่ากว่าเหลือเพียง 500 ดอลลาร์ ทำให้โดรน ของ 3D Robotics ยอดขายล้มไม่เป็นท่า 

    สุดท้าย 3D Robotics ต้องล้มเลิกความคิดที่จะเป็นศัตรูกับ DJI และขอเป็นพันธมิตรในการช่วยพัฒนาซอฟท์แวร์แทน โดยไม่คิดที่จะผลิต Solo รุ่นที่ 2 ตามมาอีกเลย

เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'
เพราะอะไรหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star wars และ Game of Thrones ถึงเลือกใช้ โดรนของ 'DJI'

ยอดขายพุ่งทะยานแตะฟ้า

    ยอดขายของ DJI เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่หยุดให้โดรนเป็นเพียงอุปกรณ์ถ่ายภาพทางอากาศส่วนบุคคลเท่านั้น แต่DJIยังรุกไปถึง อุตสาหกรรมภาพยนตร์เช่นหนังดังอย่าง Star Wars ก็ใช้ โดรนของ DJI ในการถ่ายทำ รวมไปถึงซีรีส์สุดฮิตอย่าง Game of Thrones และสิ่งที่ทำให้อเมริการู้สึกเจ็บปวดที่สุดก็คือ แม้แต่ในกองทัพสหรัฐก็ยังใช้โดรนของDJIในการปฏิบัติภารกิจในประเทศ ซึ่งในภายหลังอเมริกามีความกังวลต่อความมั่นคงของประเทศเพราะเกรงว่าข้อมูลทางการทหารจะรั่วไหล 

    แต่ DJI รับประกันและให้ความมั่นใจกับทุกประเทศว่าจะไม่มีการส่งข้อมูลทั้งภาพและเสียง ไปที่รัฐบาลจีนไม่ว่ากรณีใด ๆ และจะไม่มีการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างแน่นอน ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้ยอดขายDJIยังคงพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนแบ่งการตลาดของโดรนส่วนบุคคลDJIกวาดรายได้ไปถึง90% และโดรนที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ DJI ก็มีส่วนแบ่งถึง75% โดยในปี 2017 

ที่ผ่านมา DJI มียอดขายรวมสูงถึง 2.7 พันล้านดอลลาร์ และได้รับการประเมินมูลค่าของบริษัทสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์

บทสรุปสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด

    ปัจจุบัน DJI ถือว่าเป็นผู้ผลิตโดรนรายใหญ่อันดับต้นๆของโลก ซึ่งจุดเด่นที่สุดของโรงงานของเขาก็คือเขาสามารถผลิตซอฟแวร์, ใบพัด, ระบบควบคุมการบิน และกล้อง ได้เองทั้งหมด  ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีบริษัทไหนที่สามารถผลิตได้แบบครบวงจรเหมือนDJI

    จากที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่เรื่องราวบางส่วนของ DJI กับCEOหนุ่มเลือดมังกรอย่าง “Frank Wang” เท่านั้น แต่จริงๆแล้วยังมีอีกหลายคนที่ร่วมสร้างให้ DJI ให้กลายเป็นโดรนสัญชาติจีนที่โด่งดังแบบพุ่งทะลุฟ้าและไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ จนกลายมาเป็นโดรนที่ช่างภาพทุกคนต้องการครอบครองมากที่สุดในตอนนี้

Write by  PICHAYA  

Source :

https://vulcanpost.com/595197/life-lessons-dji-frank-wang/

http://www.yosuccess.com/success-stories/frank-wang-dji-technology/

https://mashable.com/2017/08/25/frank-wang-dji-forbes/#op8e1i4GTaq6

https://successstory.com/companies/dji

https://www.recode.net/2017/4/14/14690576/drone-market-share-growth-charts-dji-forecast

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0